กะเพรา..ผักเป็นยา ช่วยขับลม ลดน้ำตาลในเลือด
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/09/1-329-1024x512.jpg)
advertisement
กะเพราถือว่าเป็นผักที่คนรู้จักกันอย่างแพร่หลาย และนำมาใช้ในการปรุงอาหารอยู่บ่อยๆ เพื่อเพิ่มรสชาติให้มีกลิ่นหอมและมีรสจัดจ้านขึ้น เป็นผักที่ปลูกง่าย หลายๆบ้านจึงนิยมปลูกเป็นผักสวนครัวกัน วันนี้ kaijeaw.com จะพาไปรู้จักกะเพราให้มากขึ้นค่ะ
กะเพรา
กะเพรา ชื่อสามัญ Holy basil, Sacred basil มีชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum tenuiflorum L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Ocimum sanctum L.) จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา (LAMIACEAE หรือ LABIATAE) และมีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กอมก้อ กอมก้อดง (เชียงใหม่), ห่อกวอซู ห่อตูปลู อิ่มคิมหลำ (แม่ฮ่องสอน), กะเพราขน กะเพราขาว กะเพราแดง (ภาคกลาง), อีตู่ไทย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เป็นต้น
advertisement
![4](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/09/4-85.jpg)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกะเพรา
ต้น
กะเพราเป็นพืชสวนครัว ไม้ล้มลุกทรงพุ่มขนาดเล็ก ต้นสูง 30-60 เซนติเมตร มีอยู่ 2 พันธุ์ คือ กะเพราขาวและกะเพราแดง กะเพราขาวจะมีใบและส่วนต่างๆ เป็นสีเขียวอ่อน กะเพราแดงจะมีส่วนต่างๆ และใบเป็นสีเขียวอมม่วงแดง มีกลิ่นแรงกว่ากะเพราขาว
ใบ
สีเขียวขนาดเล็กมากมายเต็มต้น เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวรูปกลม ค่อนข้างรี กว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร ใบอ่อนนุ่ม ขอบหยัก ออกตรงข้ามกัน มีขนเล็กๆ ปกคลุมไปหมดที่ใบและก้านใบมีกลิ่นหอม ยอดและใบอ่อนมีกลิ่นหอมกว่าส่วนอื่น ควรตัดแต่งกิ่งบ่อยๆ ด้วยมีดคมเพื่อให้กะเพราแตกยอดมากขึ้น
ดอก
ออกดอกเป็นช่อสูงขึ้นไปเป็นชั้นๆ คล้ายฉัตร ช่อยาว 8-14 เซนติเมตร มีดอกติดอยู่โดยรอบของช่อ ก้านดอกมีขน กลีบเลี้ยงมีข้างบนและข้างล่าง กะเพราขาวมีดอกสีขาว กะเพราแดงมีดอกสีแดง
ผล
ขนาดเล็กมี 4 ผลอยู่ด้วยกัน ผลแก่แห้งเป็นสีน้ำตาล ภายในมีเมล็ดเล็กสีดำอยู่มากมาย [ads]
advertisement
![1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/09/1-328.jpg)
สรรพคุณของกะเพรา
– ดอก กินกับน้ำผึ้งแก้หลอดลมอักเสบ
– รากแห้งนำมาชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม ช่วยแก้โรคธาตุพิการ
– ใบช่วยแก้ลมซานตาง
– ใบกะเพรามีสรรพคุณช่วยขับลมในกระเพาะ
– ใบกะเพรามีฤทธิ์ในการช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดระดับไขมันในร่างกายและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ โดยมีการใช้ใบกะเพราในกระต่ายทดลอง โดยให้กระต่ายกินใบกะเพราติดต่อ 4 สัปดาห์พบว่าระดับไขมันโดยรวมลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันเลว (LDL) ลดลง แต่ไขมันชนิดดี (HDL) กลับเพิ่มขึ้น
– ใบสดใช้เป็นยารักษาหูด ด้วยการใช้ใบกะเพราแดงสดนำมาขยี้แล้วทาบริเวณที่เป็นหูดเช้า-เย็น จนกว่าหัวหูดจะหลุดออกมา โดยระวังอย่าให้เข้าตาและถูกบริเวณผิวที่ไม่ได้เป็นหูด เพราะจะทำให้เนื้อดีเน่าเปื่อยและรักษาได้ยาก
– ใบช่วยแก้ลมพิษ ด้วยการใช้ใบกะเพราประมาณ 1 กำมือนำมาตำผสมเหล้าขาวแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นลมพิษ
– ใบช่วยแก้อาการปวดด้วยการใช้ใบกะเพรานำมาคั้นรับประทานสด 1 ถ้วยตะไล จะช่วยแก้อาการปวดมวนท้องได้เป็นอย่างดี
– นำเมล็ดไปแช่น้ำจะพองตัวเป็นเมือกขาว นำมาใช้พอกบริเวณตา เมื่อมีฝุ่นละอองหรือเศษผงเข้าตา ผงหรือฝุ่นละอองก็จะหลุดออกมา โดยไม่ทำให้ตาของเรานั้นช้ำอีกด้วย
– น้ำมันใบกะเพราช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดได้
– ใบช่วยเพิ่มน้ำนมให้สตรีหลังคลอดบุตร ด้วยการใช้ใบกะเพราสดประมาณ 1 กำมือ นำมาใส่แกงเลียงรับประทานบ่อย ๆ ในช่วงหลังคลอด
– ใบช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ ด้วยการใช้ใบกะเพรานำมาตำผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาทาบริเวณที่ถูกกัด ห้ามนำมารับประทานเด็ดขาดเพราะจะมีสารยูจีนอล (Eugenol) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและอาจถึงขั้นโคม่าได้
advertisement
![2](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/09/2-136.jpg)
การใช้กระเพราในการรักษา
การใช้ลดน้ำตาลในเลือด
กินใบกะเพราสดทุกวันลดน้ำตาลในเลือดได้ หรือใช้ในรูปของการต้มก็ได้ ชงเป็นชาก็ได้ ควรกินควบคู่ไปกับยาแผนปัจจุบัน แล้วสังเกตอาการกับดูระดับน้ำตาลในเลือดแต่ละครั้งที่เจาะเลือด จากการทดลองป้อนสารสกัดใบกะเพราด้วยแอลกอฮอล์ 50% พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลองได้มากกว่าร้อยละ 30
การใช้รักษาอาการแน่นจุกเสียด
สำหรับผู้ใหญ่และเด็กโต ใช้ใบสด 1 กำมือหรือใบสด 25 กรัม ต้มกับน้ำให้เดือด แล้วเอาน้ำนั้นดื่มต่างน้ำ หากใช้ใบกะเพราแห้งก็ควรมีน้ำหนัก 4 กรัม เอามาต้มกับน้ำแล้วดื่มครั้งละ 1 แก้ว จนมีอาการดีขึ้น
สำหรับเด็กอ่อน ใช้ใบสด 3 ใบ ผสมเกลือบดให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งหยอดใส่ปากเด็กอ่อน 2-3 หยด นาน 2-3 วัน จะช่วยขับลมออกมาได้หมด [ads]
คุณค่าทางโภชนาการ
ใบกะเพรา 100 กรัม มีเบตาแคโรทีนสูงถึง 7,857 ไมโครกรัม ซึ่งเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเสื่อมของสายตาก่อนวัยอันควร มีเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และนับว่ากะเพรามีวิตามินสูง โดยกะเพรา 100 กรัม มีวิตามินซี 22 มิลลิกรัม ถือว่ามากเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาสมุนไพรวงศ์เดียวกัน
advertisement
![3](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/09/3-119.jpg)
ประโยชน์ของกะเพรา
– ใช้ไล่ยุงหรือฆ่ายุง ด้วยการใช้ทั้งใบสดและกิ่งสด เอาใบมาขยี้แล้ววางใกล้ตัว ๆ จะช่วยไล่ยุงและแมลงได้ โดยน้ำมันกะเพราที่สกัดมาจากใบจะมีคุณสมบัติช่วยไล่ยุงได้ดีกว่าต้นสด (ใบสด, กิ่งสด)
– หยุดความเครียดได้ชะงัด กะเพรามีฤทธิ์ช่วยทำให้ความวิตกกังวลลดลง โดยในใบกะเพรามีสารเคมีชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ในการลดลงของระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะหลั่งเมื่อเราเกิดความเครียด โดยอาจจะเคี่ยวมันในน้ำร้อนแล้วนำไปเติมลงในเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่เราโปรดปราน หรือจะใส่ใบกะเพราลงไปซัก 2-3 ใบ ในขณะที่คุณกำลังแช่ชาเอาไว้ แล้วดื่มร้อน ๆ รับรองว่าหายเครียดเป็นปลิดทิ้งเลย
– ใช้ในการประกอบอาหารและช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ในเมนูกะเพราสุดโปรด เช่น ผัดกะเพรา แกงเลียง แกงป่า แกงคั่ว แกงเขียวหวาน แกงส้มมะเขือขื่น ผัดกบ ผัดหมู ผัดปลาไหล พล่าปลาดุก พล่ากุ้ง หรือจะนำใบกะเพรามาทอดแล้วใช้โรยหน้าอาหารเมนูต่าง ๆ ก็ได้ ฯลฯ
– น้ำมันสกัดจากใบสด ช่วยล่อแมลง ทำให้แมลงวันทองบินมาตอมน้ำมันนี้
จะเห็นได้ว่ากะเพราเป็นผักที่ใช้กันอยู่ทุกครัว เป็นผักสมุนไพรที่มีสรรพคุณและประโยชน์ทั้งในด้านการรักษา การใช้ในการปรุงอาหาร จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นหลายๆบ้านปลูกไว้บริโภคกัน หรือมีขายตามท้องตลาดทั่วไปแถมมีอยู่ทุกฤดูกาล ราคาก็ไม่แพงอีกด้วยค่ะ
เรียบเรียงโดย: Kaijeaw.com