ดอกกระเจียว..ช่วยขับลม เป็นยาระบาย!!

ดอกกระเจียว สมุนไพรช่วยขับลม เป็นพืชล้มลุก มี 2 ชนิดด้วยกันคือ กระเจียวขาวและกระเจียวแดง มีลำต้นใต้ดินทำหน้าที่สะสมน้ำและอาหาร ลักษณะเหนือดินเป็นกาบก้านใบที่หัวต่อกันแน่น กระเจียวแดง จะมีลำต้นสูง ส่วนกระเจียวขาวลัษณะทรงต้นเป็นพุ่ม ลักษณะใบ เป็นใบเดี่ยวคล้ายใบกระชาย รูปรี ขอบขนาน เรียวยาว กว้าง 5 – 7 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ ท้องใบมีขนอ่อนปกคลุม กาบใบมีสีเขียว ก้านใบยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ดอก ออกดอกเป็นช่อ ก้านช่อดอกยาวประมาณ 13 เซนติเมตร ดอกย่อยจะมีก้านเป็นชั้นๆ ประมาณ 20 – 30 ชั้น สีแดง โคนมีสีขาว ดอกมีสีเหลือง ปากสีเหลือง และมีอัปละอองเรณูป่องที่ส่วนปลาย ผล เป็นผลเดี่ยวรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร เมล็ด รูปกลมรีคล้ายหยดน้ำ
พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่ทวีปออสเตเรีย อินโดนีเซียเรื่อยมาจนถึงทวีปแอฟริกา แต่ในประเทศไทยมีถิ่นกำเนิดอยู่ตามภาคต่างๆ ท้องถิ่นที่พบอาจอยู่ใกล้ระดับน้ำทะเลมาก คือทางภาคใต้ หรือบริเวณภูเขาสูงทางภาคเหนือ
ส่วนที่ใช้เป็นยาสมุนไพร
เหง้าและราก
ใช้เป็นยาสมุนไพร ช่วยขับลม บรรเทาอาการคัน มีรสเผ็ดปร่า
ดอก
ใช้เป็นยาสมุนไพร ช่วยขับลมและเป็นยาระบาย รสเผ็ดปร่าเล็กน้อย มีกลิ่นหอม
ปริมาณที่ใช้เป็นยาสมุนไพร
1.ใช้เป็นยาสมุนไพร แก้อาการท้องอืด แก้ไข้ และช่วยขับลม ให้นำเหง้ารากกระเจียว 10 – 15 กรัม มาโขลกให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำมาดื่มกิน
2.ใช้เป็นยาสมุนไพร รักษาอาการคันตามผิวหนัง ให้ใช้เหง้า หรือรากสดมาฝนทาตามผิวหนัง หรือผสมกับน้ำต้มอาบเป็นประจำ
3.ใช้เป็นยาสมุนไพร แก้อาการนอนไม่หลับ ให้รับประทานดอกกระเจียวสด 3 – 5 ดอกพร้อมอาหารที่ทานประจำ เพราะดอกกระเจียวมีฤทธิ์กล่อมประสาทอ่อนๆ หากรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้นอนหลับสบาย
ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลจาก : บ้านสมุนไพร