ทีม 2 พส. บุกรัฐสภา เข้าแจง กมธ.ปมไลฟ์สด
จากกรณีที่ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ สองพระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ที่ออกมาไลฟ์สด จนสร้างปรากฏการณ์มีคนดูมากถึงหลักแสนกว่า แต่มีบางคนที่มองว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากในการไลฟ์สดนั้นดูไม่สำรวม และดูสนุกสนานมากจนเกิดไป
โดยล่าสุดทั้งสองพระสงฆ์ ได้เดินทางมายังอาคารรัฐสภา เพื่อชี้แจงกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม ตามที่นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้นิมนต์มา 
ซึ่งทางเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ออกมาโพสต์แชร์ว่า "พระมหาสมปอง หลังเข้าหารือกับ กมธ.การศาสนาฯ สภา ครับ #2พส“ท่านให้เราดูเนื้อหาให้เหมาะสม ขอเป็นเนื้อหา 70 เปอร์เซ็นต์ และความสนุกสนาน 30 เปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่ ตอนแรกอาตมาก็คิดว่าทำได้เลย แต่คิดไปคิดมา ขอเป็นเนื้อหา 50 เปอร์เซ็นต์ และความสนุกสนาน 50 เปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่จัดสรรได้”"
ทั้งนี้พระมหาสมปอง ยังฝากธรรมะให้คนทั่วไป ว่า จงลืมเสียเถิดความหลังและสร้างปัจจุบันกับอนาคต เพราะบางคนชอบไปยึดติดกับความหลัง พร้อมฝากธรรมะให้นักการเมืองด้วยว่า “เมื่อเราอยากเป็นก็ควรอยากทำงานด้วย ก็ต้องทำเพื่อพี่น้องประชาชนให้สมที่อยากเป็นตัวแทน”
พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า “ธรรมชาติของตาอยู่ต่ำกว่าสมอง จงอย่าตัดสินแค่การมอง จนลืมไตร่ตรองด้วยการใช้สมองที่สูงโปร่ง” เวลาเห็นอะไรให้ตัดสินใจดีดีก่อน เช่นเรื่องของเรา 2 คน ที่เมื่อเห็นแล้วก็มาต่อว่า ทันที แต่ขอให้ดูหนังให้จบม้วนแล้วค่อยตัดสิน พระมหาไพรวัลย์ เสริมว่า ไม่มีทางที่จะไลฟ์ให้ทุกคนพอใจได้ ถูกต้องทั้งหมด ไม่มี ไม่ถูกต้องทั้งหมดก็ไม่มี ชั่งใจเอา จะทำให้ถูกใจทุกคนมันยาก
"เทียบเป็นการวางแผนการตลาด พส. ทั้ง 2 ท่านทำถูกแล้วครับ เพราะกลุ่มเป้าหมายท่านคือ "คนรุ่นใหม่" ฉะนั้นจะให้ทำตามความต้องการของ "ไม้ใกล้ฝั่ง หรือ ไดโนเสาร์" มันไม่ได้!!ถ้าท่านอยากได้แบบเดิมๆ แบบที่ถูกใจ ก็ให้ พส. รูปอื่นๆ ทำต่อไปก็ได้จ้าาาาาา"
"ไม่แปลกใจเลยที่คำแนะนำจากคณะกรรมาธิการจะให้ 70/30 อันนี้เป็นคำแนะนำ ที่แสดงให้เห็นชัดถึงความไม่เข้าใจของคณะกรรมาธิการฯ ในแนวความคิดของทั้ง 2 พส. ทั้งที่ประชาชนทั้งประเทศส่วนใหญ่เค้าเข้าใจ แล้วเรื่องที่ลึกซึ้งในระดับกฎหมาย นโยบาย ที่ต้องมาผ่านกรรมาธิการชุดนี้ มันจะเป็นยังไง คือทำไปตามธงที่ปักไว้ให้ พวกมากลากไป รึเปล่า....วังเวงจริงๆ" 
"พระท่านทั้งสองนำธรรมะมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เด็กวัยรุ่น และประชาชนในยุคสมัยใหม่มีความสนใจหันมาฟังธรรมมะกันมากขึ้น โดยเฉพาะเด็ก และวัยรุ่นจะได้ไม่น่าเบื่อ เพราะถ้าเทศน์สอนธรรมะเหมือนในยุคสมัยก่อน เด็กสมัยนี้อาจจะไม่สนใจกัน ซึ่งถ้าเด็กและวัยรุ่นหันมาใส่ใจในธรรมะมากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดี" 
"สมัยใหม่เน้นเนื้อหาไม่มีคนสนใจหรอกค่ะ ท่านทำถูกแล้ว เราสอนเด็กถ้าเน้นเนื้อหาเด็กนอนมาค่ะ ถ้าเล่าเป็นน้ำแทรกเนื้อบ้างอันนั้นได้ทั้งงานได้ทั้งใจ" 
โดยหลังจากที่เข้าชี้แจงแล้ว พระทั้งสองท่านอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการไลฟ์สดที่เรียบร้อยขึ้น โดยพระมหาสมปอง กล่าวว่า การไลฟ์สดครั้งแรกเหมือนเป็นการเรียนครั้งแรกที่ต้องทักทายนักเรียน เพื่อทำให้เด็กสนใจแต่ถ้าต่อไปจะเข้าสู่เนื้อหาและสอดแทรกธรรมะ และเด็กอาจจะหลับในคาบต่อๆ ไป พร้อมเปรียบเทียบเหมือนเรียนคาบแรกที่แล้วถูก ผอ.ตำหนิ ซึ่งเมื่อผู้ใหญ่มาตักเตือนก็จะต้องมีการปรับปรุง
ขอขอบคุณที่มาจาก : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว , Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
