ผู้การต่อศักดิ์ แนะ 3 หลักเมื่อต้องเผชิญผู้ก่อเหตุในอาคาร
advertisement
พลตำรวจตรี ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการ ตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904แนะ 3 ข้อแก่ประชาชนรับมือผู้ก่อเหตุกราดยิง "วิ่ง" หาทางออกจากอาคารให้เร็วที่สุด "ซ่อนตัว" ถ้าไม่พบทางออกหรือถูกบล็อก แต่ถ้าไม่มีทางเลือกให้หาอุปกรณ์เป็นอาวุธ "ต่อสู้" ชี้ดินสอแทงตาก็ต้องทำ
advertisement
วันที่ 9 ก.พ.63 พลตำรวจตรี ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการ ตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Torsak Sukvimol แนะประชาชนกรณีที่เจอมือปืนหรือบุคคลติดอาวุธเข้ามาในอาคารข้อความระบุว่า
ไม่คิดว่าสิ่งที่ไปฝึกมาจาก FBI เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับ Active Shooter จะเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย พวกเราพยายามถ่ายทอดเรื่องนี้ไปให้ตำรวจตลอดระยะเวลาสามปี ในหัวข้อ ASIM สิ่งที่ขาดไปคือการให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เมื่อต้องเผชิญเหตุในลักษณะเช่นนี้ สอนลูก สอนหลาน สอนคนที่ท่านรัก รู้ไว้ใช่ว่านะครับ
กรณีที่เจอมือปืนหรือบุคคลติดอาวุธเข้ามาในอาคาร (active shooter) และเริ่มต้นยิงคนภายในอาคารหรือพื้นที่หนึ่งพื้นที่ใดแล้ว
ยึดหลัก 3 ข้อ: Run > Hide > Fight หรือ Avoid/Deny/Defense
1.Run: หาทางออกจากอาคารให้เร็วและเงียบที่สุด อย่าสนใจทรัพย์สินหรือสิ่งของ เป้าหมายแรกคือออกจากตัวอาคารให้เร็วและปลอดภัยที่สุด เมื่อออกจากพื้นที่อันตรายได้แล้ว ค่อยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่
-ถ้าจำเป็น หาอุปกรณ์ช่วยกำบังตัวจากกระสุนปืน ค่อยๆ หลบจากที่กำบังแต่ละจุด
-เมื่อออกมาจากพื้นที่อันตรายได้แล้ว ห้ามกลับเข้าไปในพื้นที่อีก
2.Hide: ถ้าไม่พบทางออก ทางออกถูกบล็อค หรือไม่รู้ทางออก ให้หาวิธีซ่อนตัว แทนการเดินหาทางออกไปเรื่อยๆ
-กรณีเข้าไปหลบในห้อง หาวิธีป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาในห้อง เช่น ล็อคประตู หาอะไรขวางประตูไว้
-ปิดไฟ ปิดเสียงโทรศัพท์ เพื่อให้รู้สึกว่าไม่มีคนอยู่ และหลบซ่อนตัวอยู่หลังวัตถุขนาดใหญ่ เช่น โต๊ะ ตู้
3.Fight: ถ้าถูกมือปืนพบเข้าหรือไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ ให้พยายามหาอุปกรณ์เป็นอาวุธเพื่อต่อสู้กับมือปืน
-พยายามต่อสู้เพื่อให้มือปืนไม่สามารถโจมตีเราได้ และให้ต่อสู้อย่างรุนแรงที่สุด แม้กระทั่งเด็กๆมีดินสอเอาดินสอมาแทงตาคนร้ายก็ต้องทำ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรสอนลูก
-อย่าหยุดนิ่งเป็นเป้า ให้เคลื่อนไหวตลอดเวลา ระหว่างต่อสู้ ถ้าสบโอกาสให้วิ่งหนีทันที
-เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารเข้ามาในพื้นที่ จะไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อการร้าย และเป้าหมายแรกคือหยุดผู้ก่อการร้าย (ก่อนเริ่มช่วยเหลือผู้ประสบภัย)
ดังนั้นต้องแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเราไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย โดยชูมือทั้งสองให้เห็นเด่นชัดว่าไม่มีอาวุธกำลังบินกลับไปครับ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณที่มา : Torsak Sukvimol