5 ขั้นตอนฝึกลูกให้มีวินัยในการใช้เงิน
advertisement
เรื่องของเงินทอง ถ้าหากไม่รู้จักใช้อย่างประหยัด หรือพอดีต่อรายรับแล้วล่ะก็ ซักวันเงินที่มีก็จะหมดไป หรือเป็นหนี้กองโตได้ เงินจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความสุขของคนเรา ดังนั้นคนเราจะต้องรู้จักที่จะใช้เงินอย่างรอบคอบ รู้จักวางแผนการใช้เงินที่มี นอกจากจะเริ่มที่ตัวเราเองแล้ว อย่าลืมที่จะสอนลูกหลานกันด้วยนะคะ ควรปลูกฝังให้ลูกมีวินัยในการใช้เงินตั้งแต่ยังเด็ก นอกจากว่าเขาจะไม่เป็นภาระให้เราแล้ว เมื่อโตมาก็จะได้ไม่ลำบากเรื่องการใช้เงินของตนเองด้วย การจะฝึกให้ลูกมีวินัยในการใช้เงินนั้นจะทำได้อย่างไร ตาม Kaijeaw.com ไปดูเลยค่ะ
advertisement
1. ชี้ให้ลูกเข้าใจคุณค่าของเงิน
ให้ลูกเข้าใจได้ว่า เงินสามารถใช้แลกซื้อสิ่งของได้ แต่การจะได้เงินมานั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องทำงาน ลูกจะได้รู้ว่ากว่าจะได้เงินมานั้น เราจะต้องลงแรงลงกำลังในการทำงาน เช่น หากลูกอยากได้สิ่งใดให้ลูกหาเงินซื้อเอง เริ่มง่ายๆ อาจใช้วิธีการให้ลูกช่วยทำงานที่บ้านเพื่อได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน เช่น กวาดบ้านถูบ้านให้เรียบร้อยตามคำสั่ง เพื่อได้รับเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าจ้าง และลูกสามารถไปรับงานที่บ้านญาติหรือเพื่อนบ้านที่เขาต้องการได้ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และเข้าใจว่า การจะได้เงินมาแต่ละบาทไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังใจในการที่จะได้มา
[ads]
2. พูดคุยให้เข้าใจบ่อยๆ
หลายๆ ครั้งที่ลูกต้องการให้พ่อแม่ซื้อของต่างๆ ที่ต้องการให้ อาจจะเป็นของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ที่มีราคาแพงๆ เมื่อคุณคิดดีแล้วว่าจะไม่ซื้อให้ลูก อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นของที่ไม่จำเป็น หรือมีราคาแพงเกินไปอย่าละเลยที่จะบอกเหตุผลให้ลูกเข้าใจ ว่าเพราะอะไรถึงไม่ได้ซื้อให้ การบอกปฏิเสธจะไม่ซื้อให้อย่างเดียว โดยไม่อธิบายเหตุผลใดๆ จะทำให้ลูกยิ่งงอแง ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลยเพราะลูกไม่ได้เข้าใจ ดังนั้นแล้วขอให้คุณได้หมั่นพูดอธิบายทุกอย่างให้ลูกเข้าใจด้วยความจริงในทุกๆ ครั้ง
3. สอนให้ลูกบริหารเงินให้เป็น
เริ่มจากแยกสิ่งจำเป็น-ไม่จำเป็นให้ได้ก่อน เช่น หัดให้ลูกรู้จักวิธีบริหารเงินจากการจัดสรรค่าใช้จ่ายไปโรงเรียนของตนเอง เริ่มจากปรับเงินรายวันเป็นรายสัปดาห์ ส่วนเด็กโตก็ปรับวิธีการให้จากรายสัปดาห์เป็นรายเดือน สอนให้ลูกรู้จักจดบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อจะได้รู้ว่าตนเองมีพฤติกรรมการใช้เงินอย่างไรว่าจ่ายไปกับอะไรบ้าง ซึ่งพ่อแม่อาจจะชักจูงให้ลูกจดบัญชีโดยการตั้งกฎไว้ว่าถ้าต้องการขอค่าขนมเพิ่มต้องแจกแจงรายละเอียดรายจ่าย ถ้าเงินหมดไปกับสิ่งไม่มีประโยชน์ก็จะไม่ให้เงินค่าขนมเพิ่ม และให้ใช้โอกาสนี้สอนลูกว่าถ้าใช้เงินไม่เป็นก็จะทำให้เงินหมดไม่มีเงินใช้กินขนม เมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่เริ่มทำงานจะได้รู้วิธีจัดสรรเงินเดือนให้พอใช้ทั้งเดือนได้
4. สร้างวินัยการออม
ต้องฝึกวินัยการออมแก่ลูกตั้งแต่เมื่อลูกใช้เงินเป็น เช่น เงินค่าขนมลูกไปโรงเรียน ให้ลูกคิดก่อนว่าลูกจำเป็นต้องใช้เท่าไหร่ จะมีเงินออมได้เท่าไหร่ เมื่อลูกนำเงินค่าขนมที่เหลือมาหยอดกระปุกออมสิน พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกว่าได้ออมเท่าที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นเพราะเหตุใด หากหมดไปเพราะของฟุ่มเฟือยควรบอกกล่าวลูก และเข้มงวดกับเรื่องนี้จนทำให้ลูกรู้สึกว่าการออมเงินเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะติดตัวลูกไปจนทำให้เขารู้ว่าชีวิตนี้ขาดการออมเงินไม่ได้
[ads]
5. หากอยากได้อะไรต้องออม
เมื่อลูกอยากได้อะไรที่เป็นสิ่งที่เขาอยากได้ แทนที่จะควักเงินซื้อให้ทันที หันมาใช้วีธีชวนลูกออมก่อนดีกว่า เช่น เมื่อลูกอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่ เราควรบอกลูกให้เก็บเงินที่เหลือจากค่าขนมในแต่ละวัน ให้ได้เท่ากับจำนวนเงินค่าของเล่นนั้น เมื่อนั้นหากลูกยังต้องการอยู่ ก็พาลูกไปซื้อ รับรองว่า เขาจะทั้งดีใจที่ได้ของที่ต้องการ และภูมิใจในตัวเองที่สามารถใช้เงินเก็บซื้อของเองได้ หรือบางทีลูกอาจจะไม่อยากได้ของชิ้นนั้นแล้ว ด้วยเห็นว่าของชิ้นนั้นต้องใช้เงินที่กว่าจะออมมาได้ ก็นับว่าเป็นผลที่ดีทั้ง 2 อย่างเลยค่ะ
การจะส่งเสริมให้ลูกมีวินัยทางการเงินนั้น ควรเริ่มทำตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กได้เลยนะคะ ดังสำนวนที่ว่า “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ก็ไม่ลืมที่จะเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นด้วยนะคะ เพราะการกระทำเป็นการสอนที่ดีกว่าการพูด เพื่ออนาคตที่ดีของลูกค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com