ได้ผลจริง!! สมาชิกพันทิปเผย “วิธีเก็บเงินแต่งงาน” ของคนเงินเดือนน้อย มนุษย์เงินเดือนบอกเลยห้ามพลาด

          ถ้าพูดถึงมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเดือนเเทบจะเดือนชนเดือน ค่าใช้จ่าย ค่าห้อง ค่าเที่ยว ค่ารถ ค่าจิปาถะต่างๆ บางคนทำงานมาหลายปีก็ยังไม่มีเงินเก็บเป็นก้อนสักที ถ้ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ อยากที่จะทำการใหญ่อย่างขอเเฟนเเต่งงาน เราต้องมีการวางเเผนอย่างไร วันนี้ Kaijeaw.com จะพาไปดูวิธีการเเนวคิด การวางเเผนเก็บเงินเเต่งงานจากสมาชิกพันทิปหมายเลข 1124522 มีวิธการดีๆ มาฝาก จะเป็นอย่างไงไปดูกันเลยครับ

         สวัสดีคะ ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง  ส่วนแฟนเราทำงานบริษัทแห่งหนึ่งในบางพลี ตัวเราเงินเดือนหมื่นเลยกลาง

         มานิด เราทั้งสองทำงานมาแล้วประมาณ 5 ปี ซึ่งดูรวมๆเงินเดือนน้อยมากเมื่อเทียบกับระยะเวลาในการทำงาน แฟนเราเงินหมื่นต้นๆ ถ้ามีโอทีเยอะ ก็ตก วิคละ 7-9 พัน เราสองคนตกลงเก็บเงินตอนที่คบกันได้เพียง 2 เดือน ซึ่งเราก็เพิ่งจะเลิกกับแฟนเรามาได้ 1 วัน ก็มาเจอเขาบนรถเมล์ ซึ่งเราทั้งสองรู้จักกันมาก่อน เขาเป็นรุ่นพี่ 1 ปี ตั้งแต่สมัยอนุบาลยัน ป.6 แต่ไม่เคยคุยกันเลย แค่รู้ว่าเป็นเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น

          อันที่จริงก็เจอกันบนรถหลายครั้ง แต่เราไม่อยากทัก ไม่อยากสนใจ เพราะตอนนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว และก็ไม่เคยคุยกันด้วยเลยไม่กล้า พอเลิกกับแฟนได้ 1 วัน เจอกันบนรถอีกแต่รอบนี้เราเลยทักเขาไปเพราะก่อนหน้าที่เจอกัน เราได้เจอกันบนเฟส ซึ่งเขาแท็ก พี่ชายมาเราก็เลยแกล้งไปถามว่าใช่คนที่เห้นบนรถเมล์ไหม เขาก็ตอบว่าใช่ เราก็ตอบว่าเห็นอยู่แต่ไม่กล้า เขาก็บอกว่าทักได้ พี่ไม่ใช่โจรซะหน่อย พอเจอหน้ากันวันนั้นเราก็เลยทักเขา หลังจากนั้นเราก็สานความสัมพันธ์กัน ซึ่งตอนคบกัน[ads]

         บอกเลยว่าแฟนเราไม่มีเงินเก็บสักบาท เงินเดือน วิคชนวิค จีบกันใหม่ๆ ไม่เคยพาไปไหนเพราะไม่มีเงิน เขาก็บอกเราตรงๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้ทำไมนะถึงได้

         ตกลงเป็นแฟนกับเขา เหมือนเราจะคิดในใจว่า ผช.คนนี้เปลี่ยนแปลงได้ เขาโสดเขาเลยอาจจะไม่รู้จะเก็บเงินไปทำไมก็ได้ เราก็เลยตัดสินใจคบเขา พอคบกันได้ 5-6 เดือน แม่ก็ให้มาหมั้น ก็เลยเอาเงินที่ได้จากการเก็บด้วยกันนั้นแหละคะมาหมั้น หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาอยู่กับเรา เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น   เล่ามาซะยืดยาว  เข้าเรื่องวิธีเก็บเงินของเราเลยละกันนะคะ   

         1.เราทำตารางรายรับรายจ่ายของเรา แต่ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ ทำแค่เดือนละครั้ง 
         รายรับ                                             XX
         รายจ่าย                    XX
         รายจ่าย                    XX
         รายจ่าย                    XX
         รวมรายจ่าย                                    XX
         เหลือสุทธิ                                                                    XX
         ฝากเงินเข้าธนาคารตัวเอง(เงินเก็บ)             XX
         ฝากเงินเข้ากองกลาง (ค่าแต่ง)                   XX
         รวมเงินฝาก                                                                 XX
         เหลือใช้                                                                                        XX
         ประมาณนี้ที่เราทำ  

         2.เราจะแบ่งเงินของเราคน 2000 เพื่อมาเก็บในบัญชีงานแต่ง   และก็จะแบ่งเงินเก็บในบัญชีเก็บของแต่ละคน  เริ่มเก็บเดือน ต.ค 2559  ถึงเดือน ส.ค 2560  พอเดือน กันยายนเราจะเก็บเพิ่มเป็นเดือนละ 3000 บาท 

         3.ค่าอาหารเราจะเน้นทำกับข้าวกินเอง เราออกค่าอาหารคนละ 300 บาท แต่ถ้ามีซื้อของใช้เพิ่มก็ตกคนละ 400 ต่อ 10 วัน เราจะไปซื้อเสบียงทุกวันที่ 10.20.30 ตกครั้งละ 600 บาท  ตกเดือนละ 1800 บาท แต่บางทีเราก็มีไปกินก๋วยเตี๋ยวบ้างเป็นบบางครั้ง ซื้อผักเพิ่มบ้างก็ตกเดือนละ ประมาณ 1800-2300 ประมาณนี้ เราจะห่อข้าวเช้ากับข้าวเที่ยงไปกิน ส่วนแฟนเราเขาแต่งตัวเร็ว เขาจะกินจากห้องไปเลย ส่วนข้าวเที่ยงที่บริษัทเขามีกินฟรี ถ้าแฟนทำโอวันหยุดเราก็ทำอาหารให้ทั้งเช้าและเที่ยง ห่อไปกินที่ทำงาน โชคดีที่แฟนเราเป็นคนกินง่าย 

         4.เราหยอดกระปุกทุกวัน ถ้ามีเหรียญอยู่ในกระเป๋า และเราก็เก็บแบงค์ 50 บาท และก็เก็บเงินที่ได้จากถูกหวยบ้าง เล่นแชร์ บ้างมาหยอดกระปุกไว้โดยหยอดแยกกระปุกกัน  

         เงินเดือนของแฟนเราเขาจะเป็นคนถือ แต่เงินเก็บของเขา กับ เงินกองกลางเราจะเป็นคนเก็บ   พอเงินแฟนออกถ้าเป็นต้นเดือนเขาจะโอนค่าห้องมาให้ 1000 ถ้าได้โอเยอะ เขาจะโอนมาให้ 1200 ซึ่งค่าห้องรวมน้ำไฟจะตกประมาณ 2300 บาท  แล้วเขาก็จะโอนเข้าเงินเก็บของเขา 1000-3000 แล้วแต่ว่าได้โอมากหรือน้อย พอกลางวิค เขาก็จะโอนค่างานแต่ง 2000 กับ โอนเข้าเงินเก็บของเขา การโอนเงินเข้าเงินออกบัญชีของแฟนเรา เราทำตารางรายการโอนเข้า โอนออกไว้ ไม่ว่าจะให้เติมเงินให้จากบัญชีของเขา โอนให้ใคร หรือโอนเข้ามาฝาก เราจะบันทึกไว้หมด บันทึกเป็นตารางไว้  เขาจะได้รู้ว่าเงินเขา เข้า – อก  ไปไหนบ้าง 

         รายรับรายจ่ายของแฟนเรา เราก็บันทึกไว้ เดือนละครั้ง เขาจะได้รู้ว่าวิคนี้เขาใช้เงินไปกี่บาท   แฟนเราเป็นคนไม่กินของหรู ไม่ชอบซื้อเสื้อผ้า แต่เสียอย่างชอบกินเหล้า ดูดบุหรี่ แต่พอมาอยู่กับเราก็ดีขึ้นเยอะ  เงินเก็บก็มีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทั้งที่แต่ก่อน เงินไม่เคยเหลือถึงสิ้นเดือน หยิบยืมคนอื่นตลอด   

         เราตั้งใจว่าจะเก็บถึงเดือน ธํนวาคม 2562 เพราะวางแผนว่าจะแต่งงานเดือนมกราคม 2563 เงินจะครบ  แสนแปดพอดี เพราะเราหมั้นไปแล้ว 2 หมื่น ทอง 1 บาท  ขาดอีก แสนแปดกับทองอีก 1 บาท  

         เราอยากจะบอกว่าการเก็บเงินมันเป็นอะไรที่อยากมาก แต่ก่อนเราอยากกินอะไรเราก็ซื้อๆๆๆ แต่เดี๋ยวนี้เราคิดแล้วคิดอีก กลายเป็นคนประหยัดมากก ไปห้างแต่ละทีต้องดูแล้วดูอีก  คิดแล้วคิดอีก 

         เวลาเราไปซื้อเสบียงเราจะไปซื้อที่แมคโคร เพราะเขาขายผักเป็นกิโล และมีเนื้อหลากหลายให้เลือกเยอะ เราเลยเลือกไปซื้อของที่แมคโคร มีบางครั้งที่ไปโลตัสบ้าง

         เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเก็บเงินแต่งงานนะคะ สำหรับคนเงินเดือนน้อยก็อย่าไปท้อนะคะ ถ้าเราสู้ไปด้วยกัน ได้แต่งแน่นอนคะ

         สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเก็บเงิน เราต้องมุ่งหมั่น วางเป้าหมายชัดเจน  อย่าวอกแวก อย่าเอาไปใช่อย่างอื่นเด็ดขาด และต้องซื้อของที่คิดว่ามันจำเป็นจริงๆ และมีประโยชน์กับเรา อะไรที่มันไม่มีประโยชน์ ไม่สำคัญมากนักก็ยังไม่ต้องซื้อ  

         ขอจบกระทู้เพียงเท่านี้นะคะ ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อแล้ว 

         ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ

         จากนั้นเจ้าของกระทู้นี้ก็ได้เพิ่มเติมข้อมูลอีก…

         กลายเป็น กระทู้แนะนำไปซะแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจและแบ่งปันวิธีเก็บเงินอื่นๆคะ จริงๆแล้วในเรื่องของค่าอาหาร ดือน ละ ประมาณ 1800 -2300 คะ  อาหารที่ทำก็ สองสามอย่าง ต่อครั้ง เราจะทำอาหารตอนเย็นไว้กินตอนเช้าด้วยและห่อไปกินตอนเที่ยงด้วยเพราะบริษัทมีตู้เย็นและไมโครเวฟไว้ให้อุ่นอาหาร แต่ถ้าวันไหนทำกับข้าวตอนเย็นน้อยหรือตอนเย็นต้มมาม่า หรือ ทำสุกี้กินไม่ได้หุงข้าวกินตอนเย็น เราก็จะลุกมาหุงข้างและทำกับข้าวเพิ่มตอนเช้า เป็นคนที่ชอบทำอาหารอยู่แล้ว อาหารก็ไม่ได้ซ้ำกันทุกวันคะ แฟนเป็นคนกินง่ายเขาไม่ค่อยชอบไปกินข้าวนอกบ้าน แต่ชอบกินเหล้านอกบ้านมากๆๆคะ เรื่องไปเที่ยวเราจะไม่ค่อยออกไปเที่ยวกันคะ จะได้เดินห้างก็ตอนไปซื้อเสบียงนี้ละคะ เพราะแฟนไม่ชอบไปเที่ยวแต่ถ้าออกไปกินเหล้านี้ไม่ต้องให้ชวนคะแทบจะเหาะไปเลยคะ และอีกอย่างบริษัทแฟนก็ลางานยาก เพราะถ้าลางานอาทิตย์นั้น เขาจะห้ามทำโอที แฟนเลยไม่ชอบลา  

         ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปซื้อเสบียงที่ตลาด เพราะว่าของที่ตลาดนัดเนื้อมันไม่หลากหลายเหมือนที่แมคโครคะ แมคโครมีเนื้อหมู เนื้อไก่ ทุกส่วนของร่างกาย มีผักให้เลือกเยอะด้วยคะ เลยเลื่อกไปซื้อแมคโครมากกว่าตลาดนัด ส่วนที่โลตัสก็ไปบางครั้งเราจะชอบไปตอนเย็นเพราะมีแบบป้ายเหลืองลดราคา ถูกมากคะ ประหยัดไปได้เยอะเลย  

         ส่วนเรื่องที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันนี้พ่อแม่ไม่รู้นะคะ เรื่องเก็บเงินด้วยกันพ่อแม่ก็ไม่รู้คะ  บัญชีที่เปิดเก็บเงินงานแต่งก็เปิดเป็นชื่อเราคะ ไม่ได้เปิดบัญชีร่วม เราตกลงกันไว้ว่าถ้าเราเลิกกันจริงๆไม่สามารถไปด้วยกันได้ เราก็จะแบ่งเงินกันคนละครึ่ง แต่ถ้าฝ่ายใดมีกิ๊ก หรือ นอกใจ ปันใจไปให้คนอื่น ไม่มีการให้อภัยคะ   ฝ่ายที่โดนจะได้เงินกองกลางไปหมดคะ เราตกลงกันไว้แบบนี้ แต่ก็ไม่อยากให้เกิดหรอกคะ [ads]

         เรื่องการหยอดเงินในกระปุก กระปุกทุกใบของเราจะเขียนวันที่เริ่มหยอด เมื่อแคะแล้วก็ต้องบันทึกไว้ว่าได้กี่บาท แคะวันที่เท่าไร และก็เขียนวันเริ่มหยอดไหมคะ  

         ส่วนเรื่องการซื้อของตามธรรมชาติของคนนั้นแหละคะ อยากได้นู้น อยากได้นี้เหมือนกับทุกๆคนนั้นแหละคะ แต่เวลาเราอยากได้อะไรที่มันไม่ได้จำเป็นมาก แต่ที่จะซื้อเพราะมันลดราคามากกกกกกกก  เราก็ยืนคิดหรือไม่ก็เดินไปที่อื่นก่อนแล้วก็ถามตัวเองว่าซื้อแล้วได้ใช่เลยไหม  เราก็ได้คำตอบว่าก็ยังไม่ได้ใช่เพราะอันเก่ายังไม่หมด หรือยังใช้ได้อยู่ คิดวนไปแบบนี้อะคะ สุดท้ายเราจะได้คำตอบว่าเดี๋ยววันหลังค่อยซื้อ เดี๋ยวมันก็ลดอีก เพราะมันต้องจัดรายการทุกเดือนอยู่แล้ว ประมาณนี้ และเวลาจะซื้อของอะไรที่มันไม่ได้จำเป็นกับชีวิตเรามากนักเรามักจะนึกถึงคำพูดของแม่ แม่ชอบพูดว่า “เราไม่ได้เกิดมารวย ทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ดี จะซื้อของอะไร ก็ต้องคิดดีๆนะลูก อะไรที่จำเป็นก็ซื้อ อันไหนไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อ เราต้องพอเพียงเหมือนอย่างในหลวง อย่าสร้างหนี้สร้างสิน” แต่บางทีก็มีหลุดบ้างคะ 

         เดี๋ยววันนี้จำเอาตัวอย่างการบันทึกรายรับรายจ่าย ของเรามาให้ดูนะคะ และก็ตารางเงินเข้าเงินออกของเรา เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังจะเก็บเงินไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ใดก็ตามคะ 

– –

– –

– –

         เป็นวิธีที่ดีมากเลย เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังจะวางแผนการเงิน เก็บเงินเพื่อขอเเฟนเเต่งงาน ถ้าเเฟนรู้ว่าเราว่างแผนทำงานเก็บเงินไปขอเธอเเต่งงานก็คงภูมิใจในตัวเรามากเลย เป็นกำลังใจให้มนุษย์เงินเดือนทุกคนนะครับ

เรียบเรียงโดย : Kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกพันทิปหมายเลข 1124522