พนง.โทรแจ้งอาการป่วยกับหัวหน้าช่วงโควิด ฟังแล้วไม่น่าร่วมงาน

       วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกพันทิปรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเล่าอาการป่วยไข้หวัดในช่วงโควิดระบาด ถูกหัวหน้างานแผ่พลังงานด้านลบ เรื่องการไม่มีคนช่วยทำงานตลอดเวลา อยากที่จะให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อจะได้กลับมาช่วยทำงานโดยระบุว่า

       คือก่อนอื่นขอเล่าว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมเป็นไข้หวัดและถูกหัวหน้าสั่งให้หยุดงานในระหว่างที่เป็นหวัดไปก่อนเนื่องจากกกลัวว่าผมจะติดเชื้อ โควิด 19 [ads]

       ผมก็หยุดพักตามคำสั่งพร้อมทั้งไปหาหมอที่คลินิก  แต่กินยาสองวันก็ไม่ดีขึ้นก็เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลและแอ็ทมิดอยู่โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งอีกสองวัน แต่เนื่องจากผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด 19 และบวกกับอาการไข้ดีขึ้นตามลำดับหมอจึงไม่ได้ตรวจว่ามีเชื้อโควิด 19 หรือไม่  แต่ถ้าเราอยากตรวจต้องจ่ายเงินประมาณ 9,000 บาท ซึ่งประกันไม่คุ้มครองต้องออกตังค์เอง

       ในระหว่างที่หยุดงานผมโทรคุยกับหัวหน้าทุกวัน พร้อมทั้งแจ้งอาการป่วยให้ทราบ แต่หัวหน้าก็หงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาที่ไม่มีคนช่วยทำงาน  และอยากที่จะให้ผมตรวจหาเชื้อโควิด 19 ไปเลยเพื่อจะได้กลับมาช่วยทำงาน  (หรือเขาอาจจะกลัวว่าจะติดเชื้อโควิด 19 จากผมก็ไม่รู้)   เช้าสั่งให้กักตัวไปเลย 14 วันค่อยมาทำงาน  แต่ตกเย็นเปลี่ยนใจว่าทำไมผมไม่ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ไปเลยจะได้จบๆ   คือจะให้ผมหาเงิน 9,000 บาทไปตรวจให้จบ 

       หรือถ้าจะหยุด 14 วันก็ให้หมอเขียนมาในใบรับรองแพทย์เลยว่าควรหยุด   ซึ่งหมอเขาไม่เขียนให้อยู่แล้วเพราะผมอาการดีขึ้นแล้ว และผมพร้อมที่จะทำงานวันจันทร์ที่จะถึงนี้แล้ว

       ซึ่งผมก็ต้องไปขอร้องหมอให้ยืนยันอาการป่วยต่างๆในใบรับรองแพทย์ว่า ผมไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด 19 จริงๆ ซึ่งหมอท่านสงสารก็เขียนให้ตามที่เราร้องขอเพื่อที่เพื่อนร่วมงานจะได้ไม่รังเกียจ พอผมส่งใบรับรองแพทย์ให้หัวหน้าดูสรุปก็คือให้มาทำงานวันจันทร์ได้เลย

เอาจริงๆนะ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา เครียดว่าตัวเองจะเป็น โควิด 30% เครียดจากอารมณ์หัวหน้า 70 %

       คือแบบในระหว่างที่โทรไปรายงานอาการป่วยเขาแผ่พลังงานด้านลบ เรื่องการไม่มีคนช่วยทำงานตลอดเวลา  และแบบพูดเหมือนเราผิดมากที่ป่วยทั้งๆที่ ปีๆนึงลาป่วยหรือลาพักร้อนไม่เคยเกิน 3 วัน  ซึ่งการที่ผมป่วยเป็นไข้หวัดในช่วงนี้ก็เครียดจะตายอยู่แล้วและผมก็เหนื่อยต้องมารองรับอารมณ์ของเขา      

       เอาตรงๆนะ  แต่ก่อนผมกลัวโควิดมาก แต่ตอนนี้ผมกลัวโรคเห็นแก่ตัวที่แสดงมาในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคมากกว่า ยังไม่รู้ว่าจะกลับไปทำงานอย่างมีความสุขได้อย่างไร  ถ้าไม่มีโควิดระบาดและการเงินดีกว่านี้วันจันทร์นี้ก้คงอยากจะไปลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป

       ช่วงนี้ต้องอดทดกันหน่อยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ยึดงานประจำไว้ให้แน่นๆ รอสถานการณ์ดีขึ้นอะไรนิ่งๆกว่านี้ค่อยหาทางหนีทีไล่อย่าพึ่งลาออกตอนนี้ถึงแม้ว่าบรรยากาศไม่น่าร่วมงานด้วยเลยก็ตาม อดทนสู้ต่อไปนะครับ

เรีฃยบเรียงโดย : kaijeaw.com