วิธีรักษาฝ้าด้วยธรรมชาติ เผยผิวสวยกระจ่างใส!!
advertisement
แม้ปัญหาผิวหน้าอย่างสิว จะสร้างความกังวลใจให้สาวๆ ได้ แต่ปัญหาฝ้าบนใบหน้านั้นกังวลใจมากยิ่งกว่า เพราะสิวเมื่อเป็นแล้วนั้นสามารถหายไปได้เอง เพียงแค่การดูแลรักษาอย่างถูกวิธี แต่ปัญหาของฝ้านั้นยากที่จะเอาออกไปจากผิวหน้าของเราได้ ยิ่งฝ้าลึกและขยายวงกว้างมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นเรื่องที่แก้ไขยากมากขึ้นเท่านั้น หลายๆ คนเลือกใช้วิธีทางการแพทย์ แต่ก็พบปัญหาผิวแพ้ยา หรือราคาแพงเกินกำลัง อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีสรรพคุณในการช่วยรักษาฝ้า อย่างไรบ้างนั้น ไม่รอช้าค่ะ สาวๆ ตาม Kaijeaw.com ไปดูกันเลย
advertisement
ฝ้า มีลักษณะคล้ายกับจุดด่างดำแต่มีบริเวณที่กระจายกว้างกว่า แบ่งได้เป็น 2 ชนิดตามความลึกของการเกิดฝ้าคือ ฝ้าแบบตื้นและฝ้าแบบลึก
1) ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้เร็ว นอกจากนี้ ฝ้า ชนิดนี้ยังรักษาโดยการใช้ ยาทาฝ้า อ่อนๆ และ ยากันแดด ก็สามารถลบเลือนให้หายได้
2) ฝ้าแบบลึก จะมีอาการผิดปกติ อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าชนิดแรก โดยจะเกิด ฝ้า ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า จะเกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด รักษาได้ยากกว่า ฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด การใช้ ยาทาฝ้า อ่อนๆ และ ครีมกันแดด เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น [ads]
สาเหตุของการเกิดฝ้า
– แสงแดด รังสียูวีที่มีในแสงแดดนั้นทำร้ายผิวได้มากกว่าที่คุณคิดเพราะไม่ได้เป็นสาเหตุแค่ทำให้คำเสียเท่านั้นยังเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าด้วย ผู้ที่สัมผัสกับแดดนานๆ มีโอกาสที่จะเกิดฝ้ากระได้ง่ายกว่าผู้ที่ไม่สัมผัสกับแดด
– ความร้อน ทำให้ผิวแห้งเสีย ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว การสัมผัสความร้อนนานๆ ทำให้หน้าเป็นฝ้าได้ เช่น ผู้ที่ทำงานอยู่ใกล้แสงไฟ เช่น ดารา นักแสดง นักร้อง พริตตี้ ฯลฯ ที่ต้องถ่ายหนัง ถ่ายภาพยนตร์ หรือ แม่ครัวที่ต้องอยู่ใกล้เตาไฟนานๆ
– แสงจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จอมือถือ แท็บแล็ต จอ TV และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นเวลานานๆ อาจมีปัญหาฝ้าเกิดขึ้นได้
– ยาคุมกำเนิด ยาบางชนิด ก็อาจมีผลทำให้เกิดฝ้าได้ เช่น สเตียรอยด์ เครื่องสำอางค์บางอย่าง ก็อาจทำให้เกิดฝ้าได้
– พันธุ์กรรม บางครอบครัวมีปัญหาเป็น ฝ้า กระ และติดต่อทางพันธุ์กรรมสู่ลูกหลาน
– ฮอร์โมน เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในระดับต้นๆ ของการเกิดฝ้า
– การตั้งครรภ์ ฝ้าที่เกิดในช่วงของการตั้งครรภ์จะเรียกว่า Chloasma หรือ “The mask of pregnancy” ซึ่งอาจจะเกิดจากระดับฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในผู้ที่ตั้งครรภ์ก็ได้
advertisement
วิธีรักษาฝ้า ดวยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
1. สูตรใบบัวบก
มีงานวิจัยพบว่า ใบบัวบก นั้นมีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว วิธีการคือนำใบบัวบกมาปั่นแล้วใช้น้ำใบบัวบกมา เช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน เพียงเท่านี้รอยฝ้าต่างๆ ก็จะค่อยๆ จางลง เผยผิวหน้าที่สะอาดขาวเนียน กระจ่างใส
2. ไข่ขาว
นำไข่ขาว มาทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ไข่ขาวจะช่วยดูดซับรอยฝ้าและสิ่งสกปรกให้หมดไปจากใบหน้าของคุณได้
3. สูตรมะขามเปียก
นำมะขามเปียกแช่น้ำคลุกคลิก เมื่อเนื้อมะขามเปียกนุ่มแล้วนำมาพอกหรือทาบางๆ บริเวณผิวที่เป็นรอยฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วค่อยล้างออก สูตรนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าทำให้ รอยฝ้า ดูจางลงและยังช่วย ลดรอยจุดด่างดำได้ด้วย ช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส นอกจากนั้นยังสามารถผสมน้ำนมหรือน้ำผึ้งได้ด้วย
4. สูตรน้ำส้มสายชูสกัดจากผลแอปเปิ้ล
น้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ลนั้นมีฤทธิ์เป็นกรด มีสรรพคุณช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเนียนนุ่มขึ้นได้ โดยน้ำส้มสายชูสกัดจากผลแอปเปิ้ลมาผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วใช้สำลีชุบและเช็ดให้ทั่วใบหน้า รอจนแห้งแล้วจึงล้างออก เน้นบริเวณผิวหน้าที่มีปัญหาเรื่องฝ้า
5. สูตรหัวไชเท้า
มีสรรพคุณช่วยลดฝ้า ทั้งยังมีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยต่างๆ และทำให้หน้า ขาวกระจ่างใส ขึ้นได้อีกด้วย โดยนำหัวไชเท้ามาบดหยาบๆ แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ โดยในครั้งแรกที่ทำให้เริ่มทิ้งไว้ในระยะเวลาไม่นาน ประมาณ 3-5 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มในแต่ละครั้ง จนได้ประมาณ 10-20 นาที (แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนว่ารับได้แค่ไหน ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย) แล้วล้างออกให้สะอาด
6. สูตรว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ นอกจากจะมีสรรพคุณในการใช้รักษาแผล แล้วยังช่วยลดฝ้าได้ดีด้วย โดยเลือกว่านหางจระเข้มา 1 ใบใหญ่ (เลือกใบล่างๆ แบบที่แก่แล้ว ยิ่งใหญ่ยิ่งมีคุณค่ามาก) นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นก็นำมาปอกเปลือกออกและล้างให้สะอาด นำไปปั่นหรือบด แล้วจึงนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที อีกวิธีหนึ่งคือใช้เมือกของว่านหางจระเข้ (สีเขียว) ใช้ทาบริเวณที่เป็นฝ้าทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด
7. สูตรแตงกวา
แตงกวาอุดมไปด้วยสารอาหารและน้ำที่จะคงความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ยาวนาน โดยนำแตงกวามาฝานเป็นแว่นบางๆ แปะบนใบหน้า หรือจะนำไปบด ปั่นพอหยาบ แล้วนำมาพอกใบหน้าก็ได้ ทิ้งไว้สักครู่จึงล้างออกให้สะอาด ทำก่อนนอนจะช่วยให้รู้สึกสบายผิวหน้ามาก
นอกจาก วิธีรักษาฝ้าด้วยวิธีการต่างๆ นั้น การดูแลสุขภาพจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของ Vitamin A วิตามินเอ , Vitamin C วิตามินซี และ Vitamin E วิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรง สดใสขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งส่วนมากจะได้ในผักและผลไม้และอาหารจำพวกเนื้อปลา[ads2]
advertisement
วิธีการป้องกันไม้ให้เกิดปัญหาฝ้า
วิธีการที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีปัญหาฝ้านั้นควรเริ่มที่ การป้องกันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
– หลีกเลี่ยงแสงแดด ถ้าหากต้องเผชิญแสงแดดก็ควรแต่งกายอย่างเหมาะสม ปกป้องผิวพร้อมกับทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูสี โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป และต้องเป็นแบบ PA+++ ด้วย ถึงจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าต้องอยู่ภายใต้แสงแดดตลอดทั้งวัน คุณอาจเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมากกว่านี้ แต่ให้หมั่นทาครีมกันแดดบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดยังมีประสิทธิภาพดีพอต่อการป้องกันแสงแดด
– หลีกเลี่ยงการรับประทานยาคุมกำเนิด โดยให้เลือกวิธีการอย่างอื่นแทน เช่น ใช้ห่วงอนามัย ฉีดยาคุม หรือถุงยางอนามัย เป็นต้น
– รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะสุขภาพผิว
– จิบน้ำบ่อยๆตลอดวัน ให้ได้อย่างน้อยวันละ 7 – 8 แก้ว จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่มักมีปัญหาผิวแห้ง ผิวพรรณไม่สดใส เปลั่งปลั่ง น้ำยังช่วยในการ ขับล้างสารพิษออกจากร่างกายได้อีกวิธี
– ปัญหาฝ้าที่เกิดจาแการแปลงของฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์นั้น สามารถหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไปหลังคลอด
สาวๆ ที่กำลังมีปัญหาฝ้าอย่าชะล่าใจและปล่อยให้ปัญหาลุกลาม ขยายเป็นวงกว้างเกินไปนะคะ เพราะฝ้าที่อยู่ในระยะเริ่มแรกนั้นสามารถรักษาให้จางหายได้ แตกต่างจากฝ้าที่ลึกและขยายใหญ่ที่ต้องใช้เวลานาน หรืออาจไม่สามารถจางหายได้เลย ทางที่ดีคือการปกป้องผิวจากสาเหตุทำร้ายผิว หมั่นดูแลบำรุงสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวให้แข็งแรงเสมอ จะได้ห่างไกลจากปัญหาฝ้า ให้คุณมีใบหน้าสวยใส ได้นานเท่านานค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com