20 วิธีง่ายๆห่างไกลความเครียด!!
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/เอาชนะความเครียด-1.jpg)
advertisement
ในความเป็นจริงแล้ว ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ ความเครียด ส่วนหนึ่งมาจากความคิดของคนเรา คนที่มองโลกในแง่ร้าย คิดมาก วิตกกังวลสูง มักจะมีความเครียดมาก แต่ความเครียดนอกจากจะทำให้เราเป็นทุกข์ใจแล้วยังส่งผลให้เป็นทุกข์กายได้อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้ตนเองมีความเครียดนาน ต้องรีบหาทางควบคุมและกำจัดออกไปให้ได้อย่างเร็วที่สุด วันนี้ Kaijeaw.com จึงมีวิธีการที่ช่วยให้ห่างไกลความเครียดได้ ดังนี้
advertisement
![เครียด-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/เครียด-1.jpg)
อาการที่บ่งบอกว่ากำลังเครียด
สังเกตได้ว่าตนเองเป็นคนคิดมาก หรือชอบคิดในลักษณะวนเวียนหาทางออกไม่ได้ ไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร รู้สึกสับสนไปหมด ถ้าเป็นแบบนี้ ควรหยุดคิดสักพัก แล้วลองหันมาจัดการความเครียดอย่างเป็นระบบ และปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่
1.แก้ไขที่สาเหตุ ไม่ว่าจะ เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ต้องแก้ปัญหาให้ได้ก่อน หาสาเหตุ จากนั้นค่อยพิจารณาว่า เราจะจัดการกับปัญหาที่ทำให้เครียดด้วยวิธีไหน ซึ่งมีหลากหลายวิธี อาทิ แก้ไข หลีกเลี่ยง หรือยอมรับปัญหา โดยแต่ละวิธีอาจแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ และประสบการณ์ของบุคคล
2. จัดการอารมณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่เกิดความเครียดอยู่นั้น บุคคลจะมีการแสดงออกทางอารมณ์ในเชิงลบไม่ว่าจะอารมณ์โกรธ อารมณ์เศร้า หรือท้อแท้ สิ้นหวัง หากปล่อยให้อารมณ์ต่างๆ เหล่านี้คงอยู่นานเกินไป จะส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจในระยะยาว จึงควรจัดการควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นเสียก่อน
3. คิดอย่างมีเหตุผล ไม่ด่วนเชื่ออะไรง่ายๆ แล้วเก็บเอามาคิดวิตกกังวล ให้พยายาม ใช้เหตุผลตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ไตร่ตรองให้รอบครอบเสียก่อน นอกจากจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อให้ใครหลอกได้ง่ายๆ แล้ว ยังตัดความกังวลลงได้ด้วย
[ads]
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทานแล้วเครียด พิจารณาสิ่งที่คุณกินเข้าไปบ้าง แอลกอฮอล์ คาเฟอีน น้ำตาล ไขมัน บุหรี่ อะไรเหล่านี้ที่ใครๆ บอกว่าเป็นยาคลายเครียดชั้นดี แท้จริงแล้วมันกลับไปทำให้ร่างกายของคุณให้รับมือกับความเครียดได้แย่ลง คุณน่าจะหันมาหาผลไม้ ผัก ธัญพืช หรืออาหารที่มีโปรตีนสูงๆ แต่มีไขมันต่ำจะดีกับร่างกายของคุณมากกว่า
5. คิดแต่เรื่องดีไว้ก่อน หลีกเลี่ยงที่จะคิดถึงแต่เรื่องร้ายๆ เรื่องความล้มเหลว ผิดหวัง หรือเรื่องไม่เป็นสุขทั้งหลายก็จะยิ่งเครียดกันไปใหญ่ ควรคิดถึงเรื่องดีๆ ให้มากขึ้น เช่น คิดถึงประสบการณ์ที่เป็นสุขในอดีต ความสำเร็จในชีวิตที่ผ่านมา คำชมเชยที่ได้รับ ความรักของพ่อแม่ ความมีน้ำใจของเพื่อนฯลฯ จะช่วยให้สบายใจมากขึ้น
6. คิดเชิงบวก ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนเปรียบเสมือนกับเหรียญที่มี 2 ด้าน หากเรามองแต่ด้านที่เป็นลบอยู่ตลอดเวลา จิตใจจะเต็มไปด้วยความขุ่นมัว ลองพลิกความคิดกลับไปอีกด้านบ้าง บางครั้งสิ่งที่เรามองว่ามันแย่ หรือเลวร้าย อาจมีข้อดีในตัวของมันเองก็ได้
7. รู้จักยืดหยุ่น อย่าเอาแต่เข้มงวด จับผิด หรือคอยตัดสินผิดถูกตัวเอง และผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ให้รู้จักละวาง ผ่อนหนักผ่อนเบา ลดทิฐิมานะ รู้จักให้อภัย ไม่ถือโทษโกรธเคือง หัดลืมเรื่องที่ทำให้ไม่พอใจ แล้วจดจำเฉพาะแต่สิ่งที่ดีๆ
8. คิดให้หลายแง่มุม บางครั้งความคิดของเราอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกเสมอไป ลองฟังความคิดเห็นจากคนอื่นรอบข้างบ้าง หรือลองคิดในมุมย้อนกลับ ด้วยการนำตัวเองไปลองสวมบทบาทเป็นผู้อื่นดูบ้าง อาจพบทางออกของปัญหาได้ง่ายกว่าการจมอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงลำพัง
9. คิดถึงคนอื่นบ้าง ไม่เอาแต่คิดหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง การคิดเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น แล้วรู้สึกว่าผู้อื่นดีกว่าตนนั้น อาจไม่จริงเสมอไป บางครั้งสิ่งใดที่มองไกลๆ อาจเห็นเป็นอย่างหนึ่ง แต่เมื่อมองใกล้ๆ แล้วจะเห็นเป็นอีกอย่างหนึ่ง คนที่เรา แอบอิจฉาเขาอยู่ อาจเป็นคนที่เราจะต้องสงสารก็ได้ ต้องมองให้ลึกซึ้งกว่าเดิม
10. รู้จักการให้ ลองหากิจกรรมการกุศลทำดูบ้าง เช่น ไปเป็นอาสาสมัครต่างๆ การได้ช่วยคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มใจ และยังช่วยลดความเครียดไปด้วยในตัว
advertisement
![ความเครียด-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/ความเครียด-1.jpg)
11. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับให้เต็มอิ่มในทุกๆ คืนจะช่วยให้คุณได้มีสมองที่สดชื่น แจ่มใส สามารถรับมือกับทุกปัญหาได้ดี และจัดการกับอารมณ์ไม่ให้ขุ่นมัวมากจนเกินไป
12. หาทางระบายออกมา ด้วยการเล่าให้คนที่คุณสนิทและไว้ใจได้ฟัง หรือหากไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ก็ยังมีศูนย์ฮ็อตไลน์ที่รับบริการปรึกษาปัญหาชีวิต ซึ่งพร้อมรับฟังปัญหาของคุณ การได้ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น และในที่สุดจะมองเห็นทางออกของปัญหาได้ด้วยตัวของคุณเอง
13. ละทิ้งเรื่องเครียด ละทิ้งเรื่องที่กำลังคิดเครียดอยู่ชั่วคราว เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นที่ทำให้คุณได้สนุก หรือสบายใจขึ้น เช่นอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือออกไปเที่ยว คุณจะรู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตเตอรีอีกครั้ง
14. ระบายความโกรธ หากโกรธใครอยู่ ลองหาทางระบายออกอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการหาอะไรทำสักอย่างที่หันเหความสนใจของคุณ เช่นขุดดินปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดบ้าน คิดถึงแผนงานใหม่ที่ต้องจัดการ แล้วทุ่มพลังทำมันเข้าไป ในที่สุดคุณจะพบว่าคุณลืมเรื่องที่กำลังโกรธได้เอง
15. รู้จักยอม เวลาที่มีเรื่องกับใครก็ไม่ควรมุ่งเอาชนะอีกฝ่ายท่าเดียว เพราะมันอาจนำมาซึ่งการใช้กำลังเข้าตัดสินกันได้ในที่สุด ซึ่งจะแย่กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะคุณ การยอมแพ้ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่เป็นการคิดที่ฉลาดเพื่อยุติข้อขัดแย้งก่อนที่มันจะลุกลามใหญ่โตต่างหาก
13. ละทิ้งเรื่องเครียด ละทิ้งเรื่องที่กำลังคิดเครียดอยู่ชั่วคราว เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นที่ทำให้คุณได้สนุก หรือสบายใจขึ้น เช่นอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือออกไปเที่ยว คุณจะรู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตเตอรีอีกครั้ง
14. ระบายความโกรธ หากโกรธใครอยู่ ลองหาทางระบายออกอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการหาอะไรทำสักอย่างที่หันเหความสนใจของคุณ เช่นขุดดินปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดบ้าน คิดถึงแผนงานใหม่ที่ต้องจัดการ แล้วทุ่มพลังทำมันเข้าไป ในที่สุดคุณจะพบว่าคุณลืมเรื่องที่กำลังโกรธได้เอง
15. รู้จักยอม เวลาที่มีเรื่องกับใครก็ไม่ควรมุ่งเอาชนะอีกฝ่ายท่าเดียว เพราะมันอาจนำมาซึ่งการใช้กำลังเข้าตัดสินกันได้ในที่สุด ซึ่งจะแย่กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะคุณ การยอมแพ้ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่เป็นการคิดที่ฉลาดเพื่อยุติข้อขัดแย้งก่อนที่มันจะลุกลามใหญ่โตต่างหาก
16. ท่องเที่ยว การที่เราได้พาตัวเองออกไปพบเจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่ไม่จำเจ เช่น ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปดูนิทรรศการ ไปชมการแสดง ไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ไปเดินดูข้าวของตามห้าง การที่เราได้ออกไปพบเจอสิ่งแปลกใหม่ๆ หรือได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติจะช่วยทำให้เรามีอารมณ์สดชื่น รู้สึกสนุกสนาน หายเหนื่อยล้าจากความเครียด
[ads]
17. ฟังเพลง มีงานวิจัยมากมายที่สรุปตรงกันว่า การฟังดนตรีเป็นวิธีการคลายเครียดได้ดี เลือกฟังเพลงทำนองที่ตนเองชอบ หรือบทเพลงหรือดนตรีที่มีลักษณะที่ช่วยคลายเครียดได้ดี เช่น เพลงบรรเลงแบบ Green Music คือ เพลงบรรเลงที่มีทำนองช้าๆ เบาๆ ที่บรรเลงโดยเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น และมีเสียงธรรมชาติประกอบ เช่น เสียงน้ำไหล เสียงฝนตกเบาๆ เสียงนกร้อง ซึ่งจะช่วยทำให้คลายเครียดได้เป็นอย่างดีทีเดียว
18. ดูหนังตลก ไม่ว่าจะดูหนังดูละคร หนัง หรือรายการที่มีเนื้อหาเบาสมอง เช่น หนังตลก เกมโชว์ การ์ตูนเด็กๆ ช่วยทำให้ผ่อนคลายความเครียดได้ เพราะการได้ยิ้ม ได้หัวเราะ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา (เอนโดฟิน) ซึ่งจะไปช่วยให้อารมณ์ของเราสดชื่นและมีความรู้สึกเป็นสุขมากขึ้น
19. ออกกำลังกาย การออกกำลังทำให้เราหยุดนึกถึงเรื่องราวที่ทำให้เครียด และกังวลไปได้ชั่วขณะหนึ่ง และเมื่อใช้เวลา ใช้สมาธิกับการออกกำลังกายไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ความเครียดของเราค่อยๆ บรรเทาไปในที่สุด เพราะโดยปกติแล้วเมื่อคนเราเครียดกล้ามเนื้อต่างๆ ในร่างกายก็จะหดตัว ตึง และแข็ง ทำให้ไม่สบายกายด้วย เมื่อเราได้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อที่มันตึงอยู่นั้นก็จะคลายลง ทำให้รู้สึกสบายและมีความสุข
20. ทำงานอดิเรก หางานอดิเรกทำให้เกิดความเพลิดเพลิน เช่น ทำงานศิลปะ ฝึกเล่นเครื่องดนตรี ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ ไปนวดหน้านวดตัว แต่งห้องใหม่ งานอดิเรกที่ชอบสามารถสร้างความสุขให้แก่เราได้ ทำให้เราเพลิดเพลินแล้ว การได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิตจะทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองด้วย
การคนที่มีภาวะเครียด มักจะเกิดจากการที่ต้องจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป ดังนั้นแล้วเมื่อรู้ตัวว่าเครียดขอให้รู้จักปรับเปลี่ยนความคิด คิดในแง่มุมใหม่ ปฏิบัติตัวเสียใหม่ ก็จะช่วยให้เครียดน้อยลง และมีความสุขใจมากขึ้นค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com