ออกกำลังกาย..สำคัญไฉน

advertisement
การออกกำลังกาย มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล โดยจะสังเกตุได้ว่า เพื่อความแข็งแกร่งของร่างกาย สุขภาพที่ดี และการลดน้ำหนัก การออกกำลังกายสามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเล่นกีฬา การเดิน ปั่นจักยาน ขึ้นลงบันใด งานบ้าน งานสวน หรือกิจกรรมใดๆ ที่ได้ขยับร่างกาย แต่ในปัจจุบันที่ค่านิยมเปลี่ยนไป ผู้คนมีเวลาใส่ใจสุขภาพน้อย ใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งๆ นอนๆ อยู่กับหน้าคอม หรือจอสมาร์ทโฟน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นเหตุผลให้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่ใส่ใจการออกกำลังกายเท่าที่ควรนั่นเอง นั่นอาจเป็นเพราะว่ายังไม่รู้จักกับความสำคัญที่แท้จริงของการออกกำลังกาย วันนี้ Kaijeaw.com จึงมีความสำคัญของการออกกำลังกายมาฝากกันด้วยค่ะ ห้ามพลาดนะ
advertisement

การเคลื่อนไหวตลอดเวลาของร่างกาย ก็เพื่อความเจริญเติบโตและรักษาสภาพการทำงานที่ดีเอาไว้ การที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความเสื่อมโทรม ถดถอยของสมรรถภาพทางกายหรือสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุของความผิดปกติของร่างกาย และโรคร้ายหลายชนิดที่แทนที่จะป้องกันได้ ซึ่งเป็นโรคที่เป็นปัญหาทางการแพทย์ที่พบมากในปัจจุบัน เพราะการออกกำลังกายนั้นอาจเปรียบได้ว่า เป็นยาสารพัดประโยชน์ เพราะใช้เป็นยาบำรุงเป็นยาป้องกันและเป็นยาบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพร่างกาย
ออกกำลังกายให้เกิดประโยชน์แก่สุขภาพคือ การจัดชนิดของความหนัก ความนาน และความบ่อยของการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับเพศ วัย สภาพร่างกาย สภาพแวดล้อม และจุดประสงค์ของแต่ละคน [ads]
advertisement

ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
1. ช่วยในการเจริญเติบโต ในเด็กที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่มีการกินอาหารมากอาจมีส่วนสูงและน้ำหนักตัวมากกว่าเด็กในวัยเดียวกันได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วในร่างกายมีไขมันมากเกินไป มีกระดูกเล็ก หัวใจมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวและรูปร่างอาจผิดปกติได้ เช่น เข่าชิดกัน อ้วนแบบฉุ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ ตรงข้ามกับเด็กที่ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตอย่างถูกส่วน จึงกระตุ้นให้อวัยวะต่างๆ เจริญขึ้นพร้อมกันไปทั้งขนาด รูปร่าง และหน้าที่การทำงาน และเมื่อประกอบกับผลของการออกกำลังกายที่ทำให้เจริญอาหาร การย่อยอาหารและการขับถ่ายดี เด็กที่ออกกำลังกายอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ จึงมีการเจริญเติบโตดีกว่าเด็กที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
2. สุขภาพ การออกกำลังกายสามารถเพิ่มภูมิต้านทานโรคที่เกิดจากการติดเชื้อได้ สังเกตได้จากหลักฐานที่พบบ่อยครั้งว่า เมื่อนักกีฬาเกิดการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อจะสามารถหายได้เร็วกว่า และมีโรคแทรกซ้อนน้อยกว่า ผู้ที่ออกกำลังกายย่อมมีสุขภาพดีกว่าผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย คือ การที่อวัยวะต่างๆ มีการพัฒนาทั้งขนาด รูปร่าง และหน้าที่การทำงาน โอกาสของการเกิดโรคที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อ เช่น โรคเสื่อมสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะจึงมีน้อยกว่า
3. สมรรถภาพทางกายที่สมบูรณ์ การออกกำลังกายช่วยให้สามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายในทุกๆ ด้านได้ เช่น ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอ่อนตัว ความอดทนของกล้ามเนื้อ ความอดทนของระบบไหลเวียนเลือด ความคล่องตัว ฯลฯ
4. รักษารูปร่างและทรวดทรง การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายสามารถพัฒนาการเจริญเติบโตได้อย่างปกติ และแข็งแรง แต่หากว่าขาดการออกกำลังกาย ก็จะทำให้ทรวดทรงเสียไปได้ เช่น ตัวเอียง หลังงอ พุงป่อง ซึ่งทำให้เสียบุคลิกภาพได้อย่างมาก ในระยะนี้ ถ้ากลับมาออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เป็นประจำสม่ำเสมอยังสามารถแก้ไขให้ทรวดทรงกลับดีขึ้นมาได้ แต่การแก้ไขบางอย่างอาจต้องใช้เวลานานเป็นเดือน เป็นปี แต่บางอย่างอาจเห็นผลภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน เช่น พุงยื่น การบริหารกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ก็ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องมีความตึงตัวเพิ่มขึ้น จนกระชับอวัยวะภายในไว้ไม่ให้ดันออกมาเห็นพุงป่องได้
5. ช่วยในการป้องกันโรค การออกกำลังกายสามารถป้องกันโรคได้หลายชนิด โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของอวัยวะอันเนื่องจากการมีอายุมากขึ้น ซึ่งประกอบกับปัจจัยอื่นๆ ในชีวิตประจำวันเช่น การกินอาหารมากเกินความจำเป็น ความเคร่งเครียด การสูบบุหรี่มาก หรือกรรมพันธุ์ โรคเหล่านี้ได้แก่ โรคประสาทเสียดุลยภาพ หลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพ ความดันเลือดสูง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคข้อต่อเสื่อมสภาพ เป็นต้น ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีโอกาสเกิดโรคเหล่านี้ได้ช้ากว่าผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลยจนชั่วชีวิต ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าการออกกำลังกายช่วยชะลอชราได้
6. ช่วยในการการรักษาโรคและฟื้นฟูสภาพ โรคภัยต่างๆ หากเกิดขึ้นแล้ว การเลือกวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสมจัดเป็นวิธีรักษาและฟื้นฟูสภาพที่สำคัญ แต่ในการจัดการออกกำลังกายที่เหมาะสมมีปัญหามาก เพราะบางครั้งโรคกำเริบรุนแรงจนการออกกำลังกายแม้เพียงเบาๆ ก็เป็นข้อห้าม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ควรอยู่ภายใต้การควบคุมโดยใกล้ชิดจากแพทย์ผู้ทำการรักษา และการตรวจสอบสภาพร่างกายโดยละเอียดเป็นระยะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง [ads]
advertisement

สำหรับการออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ไม่เฉพาะช่วงใดช่วงหนึ่งของอายุ แต่มีความจำเป็นสำคัญตลอดชีวิต ซึ่งการออกกำลังแต่ละวัยก็มีความแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม และความต้องการของร่างกายในแต่ละบุคคล อายุจึงเป็นตัวแปรสำคัญ ต่อการเลือกวิธีการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา มีข้อแนะนำสำหรับแต่ละวัย ดังนี้
– วัยเด็ก เด็กหญิงในช่วงอายุก่อน 12 ปี และเด็กชายก่อนอายุ 14 ปี การออกกำลังกาย สามารถอยู่ในรูปแบบของกีฬาหรือการออกกำลังกายง่ายๆ เน้นที่ความสนุกสนานให้มาก ควรจะเริ่มจากทักษะง่ายๆ และช้าๆ อย่างมีขั้นตอน สำหรับผู้ปกครองก็ไม่ควรใช้วิธีบังคับเด็ก แต่ควรให้กระทำด้วยความสมัครใจ พร้อมกับอธิบายให้เข้าใจต่อประโยชน์ที่ได้รับ จากการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา
– วัยหนุ่มสาว ช่วงอายุประมาณ 30 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายมีการพัฒนาเต็มที่แล้วสมรรถภาพทางกายมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ดังนั้น ผู้ที่มีพื้นฐานทางกีฬามาดี ก็จะสามารถเล่นกีฬาและออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ เช่น การว่ายน้ำ การวิ่ง กีฬาต่างๆ ที่ตนเองมีความชอบ มีความถนัด ฯลฯ
– วัยผู้ใหญ่ ช่วงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป สมรรถภาพด้านต่างๆ เริ่มลดลง ดังนั้น จึงควรเลือกออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เบาๆ ง่าย ๆ โดยคำนึงถึงสภาพร่างกาย และความปลอดภัยเป็นหลัก
เมื่อได้รู้เช่นนี้แล้ว คงกระตุ้นให้ใครหลายๆ คนหันมาใส่ใจการออกกำลังกายกันมากขึ้นบ้างแล้วนะคะ นอกจากจะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง สุขภาพดี ห่างไกลโรคร้ายได้ หุ่นได้สัดส่วนไม่อ้วนแล้ว ยังช่วยให้มีสุขภาพจิตดี อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย เริ่มกันตั้งแต่วันนี้นะคะ ด้วยความมีวินัยและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ..แค่ขยับ ก็เท่ากับได้ออกกำลังกายแล้ว.. ไม่ยากเลยเน๊อะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com