อ่านสิทธิของตัวเองแค่ 5 นาที แล้วจะเข้าใจ เงินบำเหน็จ บำนาญ!!
advertisement
“เงินบำนาญ” เป็นเงินที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการบำนาญหรือผู้รับบำนาญรายเดือนไปเรื่อย ๆ จนตาย และต้องรับราชการนานถึง 25 ปี จึงลาออกเพื่อรับบำนาญได้…นี่เป็นความคิด ท่านว่าทั้งสองประเด็นถูกไหม วันนี้ไข่เจียวมีข้อคิดและการคำนวนของเรื่องนี้มาฝาก ใครคิดว่าเงินบำเหน็จดีกว่า เป็นการคิดสั้นๆ อย่างไรนั่นไปดูกัน เป็นข้อคิด ที่น่าสนใจอย่างผู้ใช้เฟสบุ๊คท่านหนึ่ง โดยระบุว่า
advertisement
จะเล่าเรื่อง เงินบำเหน็จบำนาญชราภาพกองทุนประกันสังคม สักหน่อย! ตั้งแต่เค้าแจ้งเงินชราภาพเป็นตัวหนังสือไปถึงมือทุกคนเมื่อเดือนที่แล้ว ทำเอาเพื่อนผมหลายคนสงสัยเพราะเพิ่งมีเป็นครั้งแรกนับแต่ก่อตั้งประกันสังคม หลายคนถามว่ารับเงินคืนเลยได้ไหม เพื่อนๆ ลองใช้เวลาอ่านสิทธิของตัวเองแค่ 5 นาทีแล้วจะเข้าใจ…เอาสั้นๆ น่ะ เจ็บคอ[ads]
บำเหน็จ กับ บำนาญชราภาพ
1.คนที่ส่งเงินสมทบตั้งแต่ 31 ธค.41 จะได้เงินบำเหน็จบำนาญทุกคน ขอย้ำว่าทุกคน
2.ใครจะได้บำเหน็จ / ใครจะได้บำนาญ ขึ้นอยู่กับ จำนวนงวด ของการส่งเงินสมทบ ถามว่าเลือกได้ไหม ตอบว่า เลือกไม่ได้
3.คนที่ส่งเงินสมทบ 1-179 งวด ได้เงินบำเหน็จ (เงินก้อนคราวเดียวเลิกกัน ยามชราตัวใครตัวมัน)
4.คนที่ส่งเงินสมทบตั้งแต่ 180 งวดขึ้นไป ได้เงินบำนาญ (เงินเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิต)
180 งวด มาจากไหนทุกเดือนที่นำส่งเงินสมทบจะนับให้ 1 งวด ไม่ว่าจะต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่อง ขาดบ้าง ส่งบ้าง ไม่เป็นไร เอาใส่เข่งรวมกัน ค่อยมานับ ตอนชรา เราจะได้รับบำเหน็จบำนาญ เมื่อใด มี 2 เงื่อนไข ย้ำว่าต้อง2เงื่อนไข
1.ออกจากงาน
2.อายุเกิน 55 ปี
ถามว่า ออกจากงานแล้ว แต่อายุไม่ถึง 55 ปี เบิกได้ไหม ตอบว่า เบิกไม่ได้
ถามว่า อายุเกิน 55 ปีแล้ว แต่ยังทำงานอยู่ เบิกได้ไหม ตอบว่า เบิกไม่ได้
รับบำเหน็จบำนาญ ก่อน อายุ 55 ปีได้ มี 2 เรื่องคือ
1.เป็นผู้ทุพพลภาพ
2.เสียชีวิต
แล้วถามว่าแจ้งมาทำไมตอนนี้ ? ตอบว่า แจ้งเพื่อทราบ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ชราภาพ เพราะงั้นทุกคนที่ได้เงินต้องชราๆๆ แต่ความชราของประกันสังคมไทยเริ่มที่ 55 ปี ถามต่อว่าถ้าได้รับเป็นเงินบำนาญ ได้เดือนกี่บาท?
สมมุติ ผู้ประกันตนทำงานได้รับเงิน ค่าจ้างเฉลี่ย 15,000 บาท ออกจากงานตอนเกษียณอายุ 60 ปี ส่งเงินสมทบมาทั้งสิ้น 35 ปี จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเดือนละเท่าใด และหากเสียชีวิตภายใน 5 ปี หลังจากรับบำนาญจะได้อะไร
1. ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญ คำนวณดังนี้
= 15 ปี (แรก) ได้อัตราเงินบำนาญ 20%
= 20 ปี (หลัง) ได้อัตราเงินบำนาญ (1.5% (ทุกรอบปี) × 20 ปี ) = 30%
รวมอัตราเงินบำนาญ 35 ปี = 20% + 30% = 50%
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน
= 50% ของ 15,000 บาท
= 7,500 บาท/เดือน ตลอดชีวิต
2. กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพแล้วเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพตกทอดอย่างน้อย10เท่าของเงินบำนาญ/หรือได้ครบ5ปี ถามต่ออีกว่า บำเหน็จกับบำนาญ อะไรคุ้มกว่ากัน ผมขอบอกเลยว่า บำนาญคุ้มที่สุด บำนาญจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ
1.ค่าจ้าง 5 ปีสุดท้ายก่อนเกษียณ
2.อายุงาน
ผมไม่เล่าตามหลักวิชาการนะครับฟังแล้วเวียนหัว ขอเล่าตาม หลักเศษฐศาตร์ก็แล้วกัน เข้าใจง่ายดี
ตัวอย่าง ถ้าประกันตนข้างต้นอายุยืนถึง 85 ปี และรับบำนาญตั้งแต่อายุ 60 ปี มาคำนวณกันว่า #เค้าจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมกี่บาท
#แล้วกองทุนฯ ต้องจ่ายในรูปของบำนาญคืนกี่บาท
1.ผู้ประกันตนคนนี้จ่ายเงินเข้ากองทุนเท่าใด? มาคิดกัน
เอา 750 คูณ 12 (เดือน) คูณ 35 ปี เป็นเงินทั้งสิ้น 315,000 บาท
2.คนนี้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนฯ เป็นเงินกี่บาท?
เอา 7,500 คูณ 12 (เดือน) คูณ 25 ปี ได้เท่ากับ 2,250,000 บาท (สองล้านสองแสนห้าหมื่นบาท)
3. ถ้าคนๆ เดิมอายุยืนยาวซัก 90 ปี รับบำนาญรวม 2,700,000 บาท (สองล้านเจ็ดแสนบาท)
4. ถ้าคนๆเดิมอายุแค่ 67 ปี รับบำนาญรวม 630,000 บาท
5.ถ้าคนๆเดิมอายุเพียง 63 ปี ได้เงิน 270,000 + บำเหน็จตกทอด (กรณีเสียชีวิตภายใน 5 ปี)
6.ถ้าคนนี้ตายก่อนขอรับบำนาญจะจ่ายเป็นบำเหน็จให้ #ทายาทตามกฎหมาย พร้อมเงินปันผล[ads2]
นี่คือ 1 ใน 7 ของสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม เท่านั้น ยังมีอีก 6 กรณี เช่น ค่ารักษาพยาบาล เจ็บป่วย ค่าทันตกรรม ฟันเทียม ค่าคลอดบุตร ค่าหยุดงานเพื่อการคลอด เงินสงเคราะห์บุตร เสียชีวิต เงินสงเคราะห์การเสียชีวิต เงินทุพพลภาพ เงินว่างงาน แล้วเอาเงินที่ไหนมาจ่ายสิทธิประโยชน์เหล่านี้ อันนี้ในหลักกฎหมายเงิน 750+750 จะถูกนำมาแบ่งย่อย เพื่อจ่ายสิทธิประโยชน์เหล่านี้ โดยเฉพาะเงินบำเหน็จบำนาญส่วนของตัวเองและส่วนของนายจ้างจะเก็บไว้ที่ 3%ของ 15,000 เป็นเงิน 450+450 ต่อเดือน #เท่ากับว่าเรามีเงินชราภาพ 900 บาท/ต่อเดือน และ 10,800 บาท/ปี (ถ้าลูกจ้างทำงานหลายที่เงินบำเหน็จอาจจะมากกว่า 10,800 บาท)
ค่าจ้างเฉลี่ยคือ คือ ค่าจ้าง 60 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ(ค่าจ้าง5ปีสุดท้าย)มารวมกัน แล้วหารด้วย 60 (ค่าจ่างอยู่ระหว่าง 1,650-15,000) ค่าจ้างเฉลี่ยต่ำเงินบำนาญก็จะต่ำผูประกันตนมาตรา 39 (ภาคสมัครใจ) ได้กำหนดเงินเดือนเท่ากันทุกคนคือ 4,800 บาท ….เงินที่แจ้งในหนังสือนั้นสำหรับผู้ที่รับบำเหน็จชราภาพเท่านั้น ส่วนคนรับบำนาญจะได้ตามตัวอย่างที่คำนวณข้างต้น #ใครที่คิดว่าบำเหน็จดีกว่า เป็นการคิดในช่วงสั้นๆ ถ้ามองในระยะยาว…ลองคิดดู
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต[ads3]
advertisement
ลองคิดเล่นๆ ดูนะคะหลายคนที่มีก็คงจะพอเข้าใจกันอยู่แล้ว หวังว่าคงจะเป็นความแก่ใครหลาคนนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก: Mc Keeratisakulkarn