เขื่อนวชิราลงกรณ แจง สาเหตุน้ำขุ่น และ มีกลิ่นเหม็น
จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ และสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในผืนน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทำให้น้ำขุ่นและมีกลิ่นเหม็นกระจายไปในหลายพื้นที่ในอ่างเก็บน้ำ ล่าสุดทางเขื่อนได้แจงแล้วว่าเกิดจากอะไร 
โดยฟชบุ๊ก ‘เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี’ ได้โพสต์ชี้แจงถึงสาเหตุการเกิดน้ำขุ่นและมีกลิ่นเหม็นในช่วงนี้ โดยระบุถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า เป็นเพราะปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “การพลิกกลับของชั้นน้ำ” ซึ่งส่งผลให้พื้นที่น้ำที่มีความกว้างใหญ่และลึกเกิดความเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด
โดยธรรมชาติความหนาแน่นของน้ำจะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ ทำให้น้ำถูกแบ่งออกเป็นชั้นๆ เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างกัน ซึ่งเรียกว่า “การแบ่งชั้นน้ำเนื่องจากอุณหภูมิ” ในช่วงหน้าร้อนน้ำชั้นบนจะมีอุณหภูมิสูงเนื่องจากได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์ ส่วนน้ำชั้นล่างจะมีอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากแสงอาทิตย์ส่องไม่ถึง นั่นทำให้น้ำชั้นบนมีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำชั้นล่าง เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวน้ำชั้นบนจะมีอุณหภูมิต่ำลง ทำให้ความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น น้ำชั้นบนจึงเกิดการจมตัว และทำให้น้ำชั้นล่างที่มีตะกอนพลิกกลับขึ้นมา จึงทำให้เกิดน้ำขุ่นและมีกลิ่นเหม็น ซึ่ง “การพลิกกลับของชั้นน้ำ” นี้จะเกิดหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ตามความหนาแน่นของชั้นน้ำที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
สาเหตุเกิดมาจาก เป็นเพราะปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “การพลิกกลับของชั้นน้ำ” ซึ่งส่งผลให้พื้นที่น้ำที่มีความกว้างใหญ่และลึกเกิดความเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด ทั้งนี้เขื่อนวชิราลงกรณได้ประสานงานกับฝ่ายเคมีของ กฟผ. เพื่อให้ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำแล้ว หากได้ผลอย่างไรจะประกาศแจ้งต่อไป
ขอขอบคุณที่มาจาก: เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี
