ไขข้อสงสัย เราควรยกก้านที่ปัดน้ำฝนขึ้นเวลาจอดรถมั้ย

       เชื่อว่าหลายท่านคงเคยทำ หรือเคยเห็น เมื่อเวลาจอดรถทิ้งไว้เพื่อไปทำธุระ โดยเฉพาะถ้าจอดกลางแดดร้อนๆมักจะเห็นการยก ก้านปัดน้ำฝน ขึ้นเพราะมีความเชื่อว่ามันจะช่วยถนอมทำให้ยางใบปัดน้ำฝนมีอายุยาวนานขึ้น

     โดยล่าสุดคุณ สมาชิกหมายเลข 3808787  สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาโพสต์สอบถามว่า "สรุปแล้ว ปัจจุบันนี้ควรยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นเวลาจอดรถมั้ยครับ เข้ากูเกิลมาแล้วก็ยังสับสนครับ"

      ผมเข้ากูเกิลหาคำถาม-คำตอบเก่าๆ  ก็ยังไม่ได้คำตอบแน่ชัด ไม่ยกขึ้นก็ยางเสื่อม แต่ถ้ายกขึ้นก็สปริงเสื่อม  ตกลงแล้ว ยุคนี้ เทคโนโลยีสมัยนี้  ผมควรทำอย่างไร

"ยางกับก้านปัดน้ำฝน อะไรแพงกว่ากัน ถ้ายางปัดแพงกว่า ก็ยกก้าน แต่ถ้าแพงทั้งสองอย่าง ถอดทิ้ง อย่ามีเลย"

"ไม่ต้องยกครับ ยังไงก็ต้องเปลี่ยนทุกปีอยู่แล้ว คู่ละสองร้อยกว่าบาทเอง แต่ถ้าสปริงเสื่อม น่าจะแพงกว่านั้น"

"ไม่ควรยกขึ้น ยกแล้วสปริงมันล้า อันนั้นแพงกว่ากันมากส่วนยางปัดน้ำฝนราคาในศูนย์ไม่กี่ร้อย    อันนี้เฉพาะยางนะไม่ใช่การเปลี่ยนทั้งใบ ข้างนอกเปิดท้ายรถไฟวิบวับขายตามข้างถนน เปลี่ยนให้ฟรี เส้นละ 50  บาท ตอนนี้เพียบ อายุไม่ทนแต่ราคาถูกเปลี่ยนทุกปี"

"ล้างรถเดือนละ 2 ครั้ง  เปลี่ยนยางที่ปัดน้ำฝนทุกๆ 2-3 ปี"

"ไม่เคยยกมาเกิน 10 ปีละ ยางใบปัดก็ 2 – 3 ปี เปลี่ยนทีครับ ใช้ของแท้เบิกศูนย์นะ"

"ยกเฉพาะเวลาล้างรถ จอดเฉยๆจะยกทำไม ปีสองปีก็เปลี่ยนใบปัดอยู่แล้ว"

"ยาง เปลี่ยนทุกๆ2ปี เปลี่ยนๆไปเถอะ ไม่กี่บาท สปริง แทบไม่ต้องเปลี่ยน จะง้างก็ง้างไปเถอะ สปริงยืด แรงกดน้อย เปลี่ยนใบปัดก็อาจไม่ช่วย แต่กว่าจะยืด มันก็หลายปี อาจจะขายรถออกไปแล้ว"

      จริงๆแล้วการเสื่อมสภาพของยางใบปัดน้ำฝนมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งมันมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและวัสดุยังไงก็ต้องเปลี่ยน แต่ถ้าหากเรายกก้านใบปัดขึ้น มันจะส่งผลให้แรงกดลงบนกระจกน้อยลง ทำให้ปัดน้ำฝนปัดไม่เกลี้ยงหรือสปริงเสื่อม จนทำให้ต้องเปลี่ยนยกชุด ซึ่งค่าใช้จ่ายแพงกว่าแน่นอน

ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 3808787