กระชาย สมุนไพรใกล้ตัว เปี่ยมคุณค่าต้านสารพัดโรค
advertisement
กระชาย สมุนไพรของขวัญจากธรรมชาติ เป็นพืชตระกูลโสม มีประโยชน์สารพัดอย่าง มีทั้งบำรุงร่างกายสร้างเสริมความฟิตปั๋งให้ท่านชาย แต่จะมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรเหมือนดั่งกับโสมจริงๆหรือไม่ อยากรู้ก็ไปดูกันเลยครับ
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Boesenbergia rotunda (L.) Mansf.
ชื่อสามัญ :Kaempfer
วงศ์ :Zingiberaceae
ชื่ออื่น :กระชายดำ กะแอน ขิงทราย (มหาสารคาม) จี๊ปู ซีฟู เปาซอเร๊าะ เป๊าสี่ระแอน (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ละแอน (ภาคเหนือ) ว่านพระอาทิตย์ (กรุงเทพฯ)
advertisement
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก มีเหง้าสั้น แตกหน่อได้ รากอวบ รูปทรงกระบอกหรือรูปไข่ค่อนข้างยาว ปลายเรียว กว้าง 1-2 ซม. ยาว 4-10 ซม. ออกเป็นกระจุก ผิวสีน้ำตาลอ่อน เนื้อในสีเหลือง มีกลิ่นเฉพาะตัว ส่วนที่อยู่เหนือดินเป็นใบ มี 2-7 ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรี กว้าง 5-12 ซม. ยาว 12-50 ซม. ปลายเรียวแหลม โคนมนหรือแหลม ขอบเรียบ เส้นกลางใบ ก้านใบ และกาบใบด้านบนเป็นร่อง ด้านล่างนูนเป็นสัน ก้านใบเรียบ ยาว 7-25 ซม. กาบใบสีชมพู ยาว 7-25 ซม. ระหว่างก้านใบและกาบใบมีลิ้นใบ ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ยอดระหว่างกาบใบคู่ในสุด ยาวประมาณ 5 ซม. แต่ละดอกมีใบประดับ 2 ใบ สีขาวหรือขาวอมชมพูอ่อน รูปใบหอก กว้างประมาณ 8 มม. ยาว 3.5-4.5 ซม. กลีบเลี้ยงสีขาวหรือขาวอมชมพูอ่อน โคนติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 1.7 ซม. ปลายแยกเป็น 3 แฉก กลีบดอกสีขาวหรือขาวอมชมพูอ่อน โคนติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 6 ซม. ปลายแยกเป็น 3 กลีบ รูปใบหอก ขนาดไม่เท่ากัน กลีบใหญ่ 1 กลีบ กว้างประมาณ 7 มม. ยาวประมาณ 1.8 ซม. อีก 2 กลีบ ขนาดเท่ากัน กว้างประมาณ 5 มม. ยาวประมาณ 1.5 ซม. เกสรเพศผู้ 6 อัน แต่ 5 อัน เปลี่ยนไปมีลักษณะเหมือนกลีบดอก โดย 2 กลีบบนสีชมพู รูปไข่กลับ ขนาดเท่ากัน กว้างประมาณ 1.2 ซม. ยาวประมาณ 1.7 ซม. อีก 3 กลีบล่างสีชมพูติดกันเป็นกระพุ้ง กว้างประมาณ 2 ซม. ยาวประมาณ 2.7 ซม. ปลายแผ่กว้างประมาณ 2.5 ซม. มีสีชมพูหรือม่วงแดงเป็นเส้นๆ อยู่เกือบทั้งกลีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงกระเปาะและปลายกลีบ มีเกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์ 1 อัน ก้านชูอับเรณูหุ้มก้านเกสรเพศเมีย ผลแก่แตกเป็น 3 เสี่ยง เมล็ดค่อนข้างใหญ่
สรรพคุณ
เหง้าใต้ดิน เหง้าใต้ดินมีรสชาติขมและเผ็ด สามารถช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากมีสารซิเนโอเล (Cineole) ที่มีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ จึงทำให้อาการปวดท้องทุเลาลงได้ ทั้งนี้ยังเป็นยารักษาริดสีดวงทวาร นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยชูกำลัง และบำรุงกำหนัด บำบัดโรคนกเขาไม่ขัน
เหง้าและราก เหง้าและรากสามารถใช้เพื่อแก้โรคบิด ถ่ายเป็นมูกเลือด ช่วยขับปัสสาวะ และแก้อาการปัสสาวะพิการ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เป็นยารักษากลากเกลื้อนได้อีกด้วย
ใบ ใบเป็นอีกส่วนหนึ่งของกระชายที่สามารถนำมาใช้ในการบำรุงร่างกาย โดยใบกระชายสามารถรับประทานเพื่อบำรุงธาตุ รักษาโรคในปาก และในคอ แก้อาการโลหิตเป็นพิเศษ และช่วยถอนพิษต่าง ๆ ได้
advertisement
สารเคมี : ทั้งส่วนรากและส่วนต้น ประกอบด้วยสาร alpinetin, pinocembrin, cardamonin,boesenbergin A, pinostrobin และน้ำมันหอมระเหย และในส่วนรากยังพบ chavicinic acid
ประโยชน์ทางสมุนไพร สรรพคุณของกระชายนั้น บางคนยังไม่รู้ แต่คนที่ทดลองแล้ว พูดกันมากที่สุดมีอยู่ 3 เรื่อง
1. ผมแข็งแรง ผมขาวกลับดำ ผมบางกลับหนา
2. ช่วยย่อยอาหาร
3. เสริมสมรรถภาพทางเพศอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับสรรพคุณอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือ เป็นตัวกลางในการประสาน เอสโตรเจน เข้ากับแคลเซียม และวิตามินดี
– บำรุงกระดูก (เพราะมีแคลเซียมสูง)
– บำรุงสมอง (เลือดเลี้ยงสมองส่วนกลางดีขึ้น)
– ปรับสมดุลของความดันโลหิต (ความดันโลหิตที่สูงจะลดลง ความดันโลหิตที่ต่ำจะสูงขึ้น)
– ปรับสมดุลของฮอร์โมน
– แก้ปัญหาผมหงอก ผมร่วง [ads]
– แก้โรคไต ทำให้ไตทำงานดีขึ้น
– ป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ
– บำรุงมดลูก (เพศหญิง)
– ควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต (เพศชาย)
– แก้ปัญหาไส้เลื่อน (เพศชาย)
– กระเพาะปัสสาวะเกร็ง (กรณีนี้อาจใช้เม็ดบัวที่ต้มแล้วนำมากินร่วมกัน)
ตำรายาไทยใช้เหง้าแก้โรคในปาก เช่น ปากเปื่อย ปากเป็นแผล ปากแห้ง ขับระดูขาว ขับปัสสาวะ รักษาโรคบิด แก้ปวดมวนท้อง จากการทดลองในสารสกัดแอลกอฮอล์และคลอโรฟอร์ม พบว่า มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังและในปากได้ดีพอควร
กระชาย มีสรรพคุณในการแก้บิด รักษาท้อง บำรุงธาตุ และเป็นยาบำรุง ที่เรียกกันว่ายาอายุวัฒนะ ถ้าหากมีอาการปวดท้องเริ่มเป็นบิด หรือเป็นบิดมีตัว ลองใช้สูตรนี้ดู
advertisement
วิธีทำน้ำกระชาย
1. นำกระชายมาล้างให้สะอาดด้วยน้ำเกลือ ขูดเปลือกออก ประมาณ1ขีด
2. เมื่อเสร็จแล้วนำมาหั่นเป็นท่อนๆ ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำ3แก้ว
3. ปั่นให้ละเอียด แล้วกรองเอาแต่น้ำเท่านั้น ห้ามกินกาก
4. ที่นี้เราก็จะได้น้ำกระชายเหลืองสดๆ ซึ่งสามารถเก็บเป็นหัวเชื้อไว้ในตู้เย็นได้นานเป็นเดือน
5. เมื่อจะดื่มก็ใช้เพียงแค่1-2ช้อนชา เติมน้ำสะอาดให้เจือจาง ห้ามกินแบบข้นๆ หรือ นำมา ผสมกับมะนาวน้ำผึ้ง ได้ตามใจชอบ
6. แต่ถ้ากลัวว่ากลิ่นกระชายจะแรงไป ก็สามารถใช้ใบบัวบัก หรือใบโหระพา มาปั่นรวมกันก็ได้ตามใจชอบ เพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นสูตรตายตัวเท่าไหร่
advertisement
ข้อควรระวังในการใช้กระชาย
ถึงจะเป็นสมุนไพร แต่กระชายก็ยังมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะกระชายดำ การบริโภคกระชายดำต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดอาการเหงือกร่น และอาจเกิดอาการใจสั่นได้ ทั้งนี้ยังไม่ควรใช้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคตับ และเด็กอีกด้วย ดังนั้นก่อนจะใช้ยาสมุนไพรใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด
เป็นยังไงบ้างครับกับประโยชน์มากมายของสมุนไพรชนิดนี้ แถมยังสามารถหามาใช้ได้ง่ายอีกด้วย แต่ก็อย่างที่เราทราบกันนะครับว่าสมุนไพรก็ควรใช้อย่างพอดี เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดกับตัวเราเอง และควรหยุดใช้หากมีอาการแพ้ด้วยนะครับ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com