กระเจี๊ยบแดง ..ช่วยลดไขมันในเลือด เป็นยาระบาย
advertisement
กระเจี๊ยบแดง พืชสมุนไพรที่เราคนไทยจะคุ้นเคยดีนำฝักสีแดงมาต้มน้ำดื่ม เติมน้ำตาลได้รสเปรี้ยวหวานอร่อยชื่นใจ ช่วยให้ชุ่มคอ ช่วยขับปัสสาวะ สังเกตดูเวลาดื่มแล้วมักปวดปัสสาวะบ่อยๆ ผลสดรสเปรี้ยวนำไปปรุงอาหารประเภทแกงส้มได้ หรือเอาไปต้มเคี่ยวกวนกับน้ำตาลทำเป็นแยมทาขนมปังได้ เรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรที่น่าสนใจชนิดหนึ่ง ไข่เจียว.com จึงอยากจะบอกเล่าถึงสรรพคุณและประโยชน์ของกระเจี๊ยบแดง ที่สำคัญช่วยลดไขมันในเลือด เป็นยาระบายได้ด้วย ดังนี้ค่ะ
advertisement
– สรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดคอเลสเตอรอล จึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดตีบได้ดี
– ช่วยละลายเสมหะและแก้ไอได้ดี ช่วยให้ชุ่มคอแก้กระหาย
– เป็นยาขับปัสสาวะได้ดี ช่วยลดการอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะของผู้ป่วยที่ผ่าตัดนิ่วในไตได้ดี
– ดีต่อหญิงวัยทอง พบว่ามีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนสตรี คือฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งจะเหมาะกับสตรีวัยทองที่นำไปใช้เป็นเครื่องดื่มดูแลสุขภาพได้
– เป็นยาระบาย มีงานทดลองวิจัยพบว่าสารสกัดของกลีบดอกกระเจี๊ยบ ช่วยทำให้อุจจาระนุ่มขึ้น
– ดีต่อตับ ช่วยลดอาการบวม ช่วยยับยั้งการสร้างอะฟลาท็อกซินซึ่งจะช่วยปกป้องตับไม่ให้ถูกทำลาย
[ads]
– ลดคอเลสเตอรอล มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า การทดลองในหนูโดยใช้กลีบเลี้ยงแห้ง ในความเข้มข้น 5% ของอาหารที่เลี้ยงหนูนั้น สามารถลดคอเลสเตอรอลได้ ในความเข้มข้นของกลีบเลี้ยงกระเจี๊ยบ ในอาหารที่เท่ากัน คือ 5% นั้นยังสามารถลดไขมัน ลดไตรกลีเซอไรด์ในหนูได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่า มีการนำมาใช้ในกลุ่มพวกอาหารเสริมสำหรับลดน้ำหนักหรือลดไขมัน โดยทำเป็นผงผสมกับสารสกัดอื่นๆ ซึ่งมีวางจำหน่ายในร้านอาหารเสริมทั่วไป โดยที่ผู้ใช้หลายรายยืนยันว่าลดสัดส่วนบริเวณที่ไขมันสะสมได้ดี
– เมล็ดของกระเจี๊ยบมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ดีพิการ
advertisement
ความรู้เพิ่มเติม
ในต่างประเทศพบว่ามีการใช้ในแนวทางที่สอดคล้องกับของคนไทย เช่น
– อียิปต์ ใช้กลีบเลี้ยงดอกกระเจี๊ยบต้มกินรักษาความดันโลหิตสูง ใช้ทั้งต้นต้มกินรักษาโรคหัวใจและโรคประสาท และใช้เป็นยาระบายไขมันในลำไส้ – ประเทศกัวเตมาลาใช้กลีบเลี้ยงต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ ลดการอักเสบของไต
– ชาวอินเดียใช้ใบต้มกินเพราะเชื่อว่าจะทำให้เลือดบริสุทธิ์ หรือใช้ใบตากแห้งต้มกินช่วยแก้ไอ
[yengo]
advertisement
ข้อควรระวัง
ส่วนความเป็นพิษนั้น พบว่า การที่ทำให้หนูตายครึ่งหนึ่งนั้น ต้องกินน้ำสกัด กระเจี๊ยบ 129.1 กรัมต่อน้ำหนักหนูหนึ่งกิโลกรัม หากจะเปรียบเทียบในปริมาณที่คนกินแล้ว คนหนักประมาณ 60 กิโลกรัมจะต้องกินกระเจี๊ยบประมาณ 7.8 กิโลกรัม ถึงจะเป็นอันตราย ซึ่งในการรับประทานปกติเป็นไปไม่ได้ที่จะรับประทานได้ครั้งละมากขนาดนั้น
สมุนไพรอย่างกระเจี๊ยบแดงมีดีเช่นนี้นี่เองนะคะ นอกจากจะต้มน้ำกระเจี๊ยบดื่มแก้กระหาย อร่อยชื่นใจแล้ว ยังทานได้เป็นผัก ปรุงในอาหารได้ ทั้งเรายังได้สรรพคุณบำรุงร่างกาย เป็นยาป้องกันโรคได้อีกมากมายโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังมีความปลอดภัยสูง รู้ประโยชน์ดีๆ แบบนี้แล้ว แอดมินคนหนึ่งล่ะค่ะต้องหาต้นกระเจี๊ยบมาปลูกไว้ในรั้วบ้านจะได้หยิบมาทำกินอย่างสะดวก ได้สุขภาพที่ดี ประหยัด และปลอดภัยไร้สารเคมีง่ายๆ ..แล้วคุณล่ะคะ?
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ไข่เจียว.com