กระแตไต่ไม้(สไบนาง)..ไม้เป็นยาดี สรรพคุณไม่ธรรมดา!
advertisement
กระแตไต่ไม้(สไบนาง) เป็นไม้ล้มลุกประเภทเฟิร์น สามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ อาจจะพบขึ้นตามต้นไม้ ตามโขดหิน ตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าพรุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับความสูงต่ำๆ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เหง้าหรือสปอร์ นิยมนำมาใช้ปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตกแต่ง เพราะใบมีความสวยงาม คนไทยโบราณเชื่อกันว่าว่านกระแตไต่ไม้นั้นเป็นว่านทางด้านเมตตามหานิยม สำหรับผู้ที่ทำงานด้านการค้าขาย จะทำให้ซื้อง่ายขายคล่องขึ้น นอกจากนั้นยังมีสรรพคุณทางยาที่สำคัญ เรียกได้ว่า กระแตไต่ไม้(สไบนาง)..ไม้เป็นยาดี สรรพคุณไม่ธรรมดา!!
advertisement
กระแตไต่ไม้ ชื่อสามัญมีชื่อว่า Oak-Leaf fern, Drynaria มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Drynaria quercifolia (L.) J. Sm. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Polypodium quercifolium L.) จัดอยู่ในวงศ์ POLYPODIACEAE และมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆ ว่า ใบหูช้าง สไบนาง (กาญจนบุรี), กระปรอก (จันทบุรี), ฮำฮอก (อุบลราชธานี), สะโมง (ส่วย-สุรินทร์), หัวว่าว (ประจวบคีรีขันธ์), กระปรอกว่าว (ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี), เดาน์กาโละ (มลายู-ปัตตานี), กูดขาฮอก เช้าวะนะ พุดองแคะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), กูดขาฮอก กูดอ้อม กูดไม้ (ภาคหนือ), หว่าว (ปน), กาบหูช้าง เป็นต้น [ads]
advertisement
advertisement
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกระแตไต่ไม้ เป็นไม้ล้มลุกจำพวกเฟิร์น เลื้อยเกาะ บนต้นไม้หรือก้อนหิน ที่มีร่มเงาหรือแสงแดด ลำต้นทอดนอนยาวได้ถึง 1 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร เหง้าหัวกลม ยาว ปกคลุมด้วยเกล็ดสีน้ำตาลเข้มมีขนยาวสีน้ำตาลปกคลุมคล้ายกำมะหยี่ เนื้อในสีขาวและเขียว ใบเดี่ยว มีสองชนิด คือใบที่ไม่สร้างสปอร์ ประกบต้นตั้งเฉียงกับลำต้น รูปไข่ ไม่มีก้านใบ กว้างประมาณ 20 เซนติเมตร ยาวได้ถึง 32 เซนติเมตร ขอบใบเว้าเป็นแฉกตื้นๆหุ้มอยู่บริเวณเหง้า ฐานใบรูปหัวใจ ปลายใบมนหรือแหลม ผิวของใบอ่อนมีขนรูปดาว และใบที่สร้างสปอร์ จะอยู่สูงกว่าใบที่ไม่สร้างสปอร์ และชี้ขึ้นด้านบน แผ่นใบรูปขอบขนาน หรือรูปหอก กว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ยาวได้ถึง 80 เซนติเมตร ขอบใบเว้าลึก เกือบถึงเส้นกลางใบ คล้ายใบสาเก เป็นพู เรียงตัวแบบขนนก เนื้อใบเหนียว สีเขียวหม่น เป็นมัน ก้านใบยาว 15-25 เซนติเมตร โคนก้านใบมีเกล็ดสีน้ำตาลดำ ฐานใบรูปลิ่ม ปลายใบเรียวแหลม กลุ่มอับสปอร์รูปกลมหรือรูปขอบขนาน เรียงเป็นสองแถวอยู่ระหว่างเส้นใบย่อย แอนนูลัส ประกอบด้วยเซลล์เพียงแถวเดียว เรียงตัวในแนวตั้ง ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์ พบเกาะอยู่ตามต้นไม้ หรือตามโขดหินในที่มีร่มเงา หรือตามชายป่า
advertisement
สรรพคุณทางสมุนไพรของกระแตไต่ไม้และวิธีนำมาใช้
– ช่วยบำรุงโลหิต ได้ด้วยการใช้เหง้าประมาณ 3-4 เหง้า ผสมกับตำลึงเอื้องเงิน 1 ต้น ใช้ต้มกับน้ำดื่มครั้งละ 1 ถ้วยชา วันละ 2-3 ครั้ง
– เหง้าใช้ต้มกับน้ำดื่ม ช่วยรักษามะเร็งในปอด และช่วยรักษาปอดพิการ
– เหง้าใช้ผสมกับหัวยาข้าวเย็น ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้หอบหืด
– ขนจากเหง้า นำมาบดให้ละเอียด แล้วใช้สูบแก้อาการหืด
– รากและแก่นนำมาต้มน้ำดื่มและนำมาใช้อาบ มีสรรพคุณช่วยแก้ซาง
– ใบ นำมาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ใช้ต้มกับน้ำอาบ แก้ไข้สูง
– ใช้เหง้าต้มน้ำดื่มหรือใช้ฝนกับน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการกระหายน้ำได้
– เหง้ากินได้สดๆ โดยใช้เนื้อสีขาว ที่เอาขนออกแล้ว นำมาฝานตากแดดแล้วนำมาบด มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดประดงเลือด
– ใช้เหง้านำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือนำมาใช้ฝนกับน้ำดื่ม ช่วยแก้ริดสีดวงจมูก
– ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะพิการและกระปริกระปรอย ขับระดูขาว แก้เบาหวาน แก้ไตพิการ เป็นยาคุมธาตุ ยาเบื่อพยาธิ ยาเบื่อพยาธิ ขับพยาธิ นำเหง้ามาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
– รักษาแผลพุพอง แผลเนื้อร้าย นำเหง้ามาฝนกับน้ำแล้วพอกบริเวณที่เป็นแผล
– แก้แผลเรื้อรังและแผลพุพอง นำใบมาตำแล้วพอกบริเวณที่เป็นแผล
– แก้บวม นำใบมาต้มกับน้ำอาบ
– รักษาอาการไม่สบาย มีอาการอ่อนเพลียของสตรีขณะอยู่ไฟในช่วงหลังคลอดบุตร นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
– รากและแก่นใช้ต้มกับน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการประจำเดือนไหลไม่หยุดของสตรี
– เหง้านำมาฝนใช้ทาแก้งูสวัด
– เหง้าใช้ผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น นำมาต้มน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการปวดเส้น
– ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะพิการและกระปริกระปรอย ขับระดูขาว แก้เบาหวาน แก้ไตพิการ เป็นยาคุมธาตุ ยาเบื่อพยาธิ ยาเบื่อพยาธิ ขับพยาธิ นำเหง้ามาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
– รักษาแผลพุพอง แผลเนื้อร้าย นำเหง้ามาฝนกับน้ำแล้วพอกบริเวณที่เป็นแผล
– แก้แผลเรื้อรังและแผลพุพอง นำใบมาตำแล้วพอกบริเวณที่เป็นแผล
– แก้บวม นำใบมาต้มกับน้ำอาบ
– รักษาอาการไม่สบาย มีอาการอ่อนเพลียของสตรีขณะอยู่ไฟในช่วงหลังคลอดบุตร นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน [yengo]
advertisement
การใช้ประโยชน์ของยาในแต่ละท้องที่
หมอยาพื้นบ้านทางจังหวัดอุบลราชธานี มีการใช้รากและแก่น ต้มน้ำดื่ม และอาบ แก้ซาง เหง้า ต้มน้ำดื่ม แก้ประจำเดือนไหลไม่หยุด เหง้าฝนทา แก้งูสวัด เหง้าต้มน้ำดื่มหรือฝนกับน้ำดื่ม แก้ริดสีดวงจมูก แก้กระหายน้ำ เหง้านำมากินสด โดยใช้เนื้อสีขาว เอาขนออก ฝานตากแดด แล้วบด แก้ปวดประดงเลือด เหง้า ผสมกับสมุนไพรอื่น ต้มน้ำดื่มแก้ปวดเส้น เป็นยาห้ามเลือดได้
หมอยาพื้นบ้านอีสานมีการใช้เหง้า 3-4 เหง้า ผสมกับลำต้นเอื้องเงิน 1 ต้น ต้มน้ำดื่ม ครั้งละ 1 ถ้วยชา วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อบำรุงเลือด
หมอยาพื้นบ้านจังหวัดมุกดาหารใช้เหง้า รักษาแผลฝี หนอง
ยาพื้นบ้านล้านนาใช้เหง้า ต้มน้ำดื่ม รักษามะเร็งในปอด ปอดพิการ ผสมหัวยาข้าวเย็น ต้มน้ำดื่ม แก้หอบหืด ขนจากเหง้า บดให้ละเอียด สูบแก้หืด ใบ ผสมกับสมุนไพรอื่น ต้มน้ำอาบ แก้บวม แก้ไข้สูง
ชาวเขาเผ่าแม้วใช้ใบต้มน้ำดื่ม รักษาอาการไม่สบายและอ่อนเพลียของสตรีขณะอยู่ไฟหลังคลอด
ในประเทศมาเลเซีย ใช้เหง้านำมาพอกแก้ปวดบวม
หมายเหตุ : การใช้ยาสมุนไพรควรอยู่ภายใต้การดูแลผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ และปรึกษาแพทย์ในทุกครั้ง
กระแตไต่ไม้(สไบนาง) สามารถนำมาปลูกไว้ประดับตกแต่งในบริเวณสวนของบ้าน ปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน หรือใส่กระถาง เพื่อประดับให้ดูสวยงาม ร่มรื่นได้ดีมากเลยทีเดียวนะคะ เพราะใบมีความสวยงาม สามารถปลูกและขยายพันธุ์ได้โดยใช้เหง้าหรือสปอร์ แล้วคุณจะได้ไม้ประดับสวยงามที่เปี่ยมคุณค่าทางยาสมุนไพรไว้ประจำบ้านแน่นอนค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com