โรคตาแดง..ป้องกันได้อย่างไร?
advertisement
ฤดูฝนมักมาพร้อมกับการระบาดของโรคหลายโรคด้วยกัน รวมทั้งโรคตาแดงด้วย ซึ่งเกิดจากการที่ดวงตามีการสัมผัสกับเชื้อโรค หลักๆ คือ การที่เอามือไปสัมผัสกับเชื้อโรคแล้วมาสัมผัสตาตัวเอง โรคตาแดงสามารถเกิดได้กับทุกคนทุกเพศทุกวัย และมักจะระบาดในกลุ่มชุมชน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ทำงาน สถานเลี้ยงเด็ก รวมทั้งที่สาธารณะต่างๆ ด้วย โรคตาแดงจึงไม่ใช่โรคไกลตัวเลยนะคะ ดังนั้นวันนี้ Kaijeaw.com จึงมีวิธีการป้องกันตนจากโรคตาแดงมาฝากกัน จะได้รู้เท่าทันและห่างไกลโรคได้ค่ะ
advertisement
โรคตาแดง คือ มีอาการของเยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรืออาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ โรคนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงขั้นตาบอด แต่ก็สร้างความทุกข์ทรมานไปกับอาการของโรคได้ โดยทั่วไปจะมีอาการเจ็บเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหลหรือมีขี้ตา บางคนมีเยื่อบุตาขาวบวม อาจเริ่มเป็นตาเดียวก่อน แล้วค่อยลามไปตาอีกข้าง
สาเหตุของโรคตาแดง
ทั้งนี้ โรคตาแดงเป็นการอักเสบของเยื่อบุตาขาว อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ซึ่งสามารถแยกสาเหตุตาแดงออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ[ads]
1. เชื้อไวรัส มักจะไม่ค่อยมีขี้ตา แต่มีน้ำตาไหล เคืองตามาก อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูโต มักเริ่มเป็นที่ตาใดตาหนึ่งก่อน และลามไปเป็นทั้งสองตาอย่างรวดเร็ว มีประวัติติดต่อกันในคนหมู่มากหรือจากที่ทำงาน โรงเรียน หรือในครอบครัว มักจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์
2. เชื้อแบคทีเรีย จะมีขี้ตาเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง อาจเป็นตาเดียวหรือสองตาก็ได้ ติดต่อกันได้เช่นกัน แต่จะระบาดน้อยกว่าตาแดงจากเชื้อไวรัส 3. ตาแดงจากโรคภูมิแพ้ จะมีอาการคันตามาก น้ำตาไหล อาจมีขี้ตาขาวหรือเหนียว หนังตาบวม มักมีประวัติเป็นๆ หายๆ อาจมีสาเหตุของการแพ้ชัดเจนหรือมีอาการแพ้ของร่างกายส่วนอื่น เช่น หอบหืดร่วมด้วย เป็นต้น
ข้อสังเกตคือ เมื่อเป็นตาแดงจะต้องไม่มีอาการตามัวลง หากมีอาการตาแดงร่วมกับการมองเห็นลดลงหรือตามัว ให้ระวังว่าอาจเกิดจากโรคตาที่อันตรายกว่า และถ้ามีอาการเช่นนี้แล้วมีขี้ตา เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการเป็นหนองที่กระจกตาหรือติดเชื้อรุนแรงในลูกตา แต่ถ้าไม่มีขี้ตาอาจเกิดจากกระจกตาอักเสบหรือม่านตาอักเสบ ดังนั้น หากมีอาการดังกล่าวต้องรีบไปพบจักษุแพทย์
advertisement
ทั้งนี้ ภาวะตาแดงนั้นอาจเกิดจากเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาว เนื่องจากการเผลอไปขยี้ตาแรงๆ เมื่อสังเกตในกระจกตอนตื่นนอน อาจพบว่าลักษณะตาเป็นปื้นสีแดงสดที่บริเวณตาขาว ลักษณะนี้ไม่มีอันตราย เลือดจะไม่เข้าตาดำ ไม่ทำให้ตามัว และไม่ติดต่อกัน
การป้องกันตนจากโรคตาแดง
1. ไม่ใช้มือสัมผัสตา
2. ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกัน โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา เครื่องสำอาง ช้อนซ่อม เป็นต้น
3. ไม่สัมผัสมือหรือตาผู้ป่วย รวมทั้งไม่คลุกคลีด้วย
4. หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งที่เผลอถูกตา รวมทั้งก่อนและหลังหยอดตา
advertisement
แนวทางการรักษา
1. โรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัส มักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
– การประคบเย็นที่ตาจะช่วยให้สบายตาขึ้น
– ใช้ยาหยอดตากลุ่มยาต้านฮีสตามีน
เมื่อมีอาการวันละ 3-4 ครั้ง ช่วยลดอาการระคายเคืองตา ถ้าเริ่มมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ ให้หยอดยาปฏิชีวนะเช่นเดียวกับตาแดงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย โดยเมื่อหยอดยา 2 ชนิดพร้อมกันจะต้องทิ้งช่วงห่างประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้ยาล้างกันออกก่อนซึมเข้าตา ที่สำคัญไม่ควรหยดยาที่มีสเตียรอยด์ เพราะจะทำให้หายช้า และอาจมีการติดเชื้ออื่นแทรกซ้อน
2. โรคตาแดงจากเชื้อปฏิชีวนะ
– ควรทำความสะอาดตา ขี้ตา
– ใช้ยาหยอดตาที่มียาปฏิชีวนะวันละ 4 ครั้งจนไม่มีขี้ตา
แต่ต้องระวังการแพ้ยา โดยหากมีอาการหนังตาบวมแดง ให้หยุดยาและรีบนำยามาปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่าเกิดจากการแพ้ยาหรือไม่ ถ้าใช่ต้องจดจำชื่อยาที่แพ้ไว้ เพื่อเลี่ยงการหยอดตานั้นในครั้งต่อไป
advertisement
การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคตาแดง
1) หยุดเรียนหรือพักงานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ไม่ควรไปในที่ชุมชน หรือผู้คนพลุกพล่าน
2) ใช้กระดาษนุ่มซับน้ำตาหรือขี้ตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด ( ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าเนื่องจากจะเก็บสะสมเชื้อไว้และติดต่อไปยังผู้อื่นได้ )
3) หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ที่ฆ่าเชื้อโรคในทุกครั้ง หลังจากจับบริเวณใบหน้าและตา เนื่องจากเชื้อไวรัสติดต่อโดยการสัมผัสมากที่สุด การล้างมือจะช่วยระงับการกระจายเชื้อได้อย่างดี[ads]
4) ล้างมือทั้งก่อนและหลังหยอดยา
5) พักผ่อนให้เพียงพอ
6) หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นเป็นเวลา 7 วันหลังมีอาการเพื่อลดการแพร่เชื้อ
7) ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น
8) ไม่ควาใช้ผ้าปิดตาเพราะจะยิ่งทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้มากขึ้น
9) เปลี่ยนปลอกหมอนทุกวันเพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ปลอกหมอน
10) การใส่แว่นกันแดด จะช่วยลดการระคายเคืองจากแสงได้
ข้อควรรู้ : หยอดตาบางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงทั้งต่อ ดวงตาหรือต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ดังนั้นควรใช้ต่อเมื่อจักษุแพทย์สั่ง อ่านฉลากกำกับให้ละเอียด หากมีข้อสงสัยหรือพบความผิดปกติใดๆ ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
แนวทางในการป้องกันตนให้ห่างไกลโรคตาแดงนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ คือหมั่นรักษาความสะอาด ล้างมือทุกครั้งก่อนที่จับบริเวณใบหน้า ไม่ใช้มือสัมผัสดวงตา รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคตาแดงอยู่แล้วด้วย ควรล้างมือบ่อยๆเนื่องจากโรคตาแดงจะติดต่อโดยการสัมผัสมากที่สุด การล้างมือจะช่วยตัดการแพร่กระจายเชื้อได้อย่างดีค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com