5 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม “ก่อนคิดจะลาออก” อย่าลาออกถ้าคุณยังไม่มี 5 สิ่งดังต่อไปนี้..!!
advertisement
นาน ๆ ผมจะมีอารมณ์เขียนบทความสักที ซึ่งที่จริงแล้ว ผมเป็นคนชอบเขียน ชอบเล่าเรื่องนะ แต่ว่าถ้าไม่มีอารมณ์ ผมจะเขียนไม่ค่อยออก แต่วันนี้พอมีอารมณ์เขียนละ ขอสักหน่อยล่ะกัน…. ผมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเขียน เพราะผมเชื่อว่าคนวัย 35-40 ปี มากกว่า 80% (อย่างผม) คงจะมีความคิดที่ "เบื่องานประจำ" หรือ "อยากจะมีธุรกิจส่วนตัว" ใช่ไหม? เรื่องราวแบบนี้ มีคนเขียนกันค่อนข้างเยอะนะ และผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ ได้อ่านเช่นกัน….
5 สิ่ง!!! ที่ต้องเตรียมพร้อม…"ก่อนคิดจะลาออก" ? อย่าลาออกถ้าคุณยังไม่มี 5 สิ่งดังต่อไปนี้ [ads]
1. ผมให้ความสำคัญกับเรื่อง "เงิน" มาก ๆ ไม่มีเงินเมื่อไร ชีวิต "พัง" ทันที (อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ) ดังนั้น ก่อนคิดลาออก คุณจะต้องมีเงิน 3 ก้อนนี้ก่อน
>>> เงินสำรองฉุกเฉินยามเจ็บป่วย สำหรับตัวคุณเอง และครอบครัวของคุณ จะเป็นจำนวนเงินเท่าไร ขึ้นอยู่กับคุณล่ะ ว่าคุณมีประกันอะไรหรือป่าว แต่ให้มองภาพให้ชัดก็คือ "คุณอยากนอนห้องรวมในโรงพยาบาลรัฐบาล" หรือ "อยากนอนห้องพิเศษในโรงพยาบาลเอกชน" ??? ถ้าใครมีเงินก้อนนี้แล้ว ผมแสดงความดีใจด้วยครับ แต่ถ้าใครยังไม่มี แต่มีความคิดที่อยากจะลาออก ให้รีบหาเงินก้อนนี้โดยด่วน!!…
>>> เงินค่าใช้จ่ายกรณีว่างงาน ผมอยากให้คุณตั้งธงไว้เลยว่า "เมื่อคุณละออกปุ๊บ คุณจะต้องตกงานแน่ ๆ" จะตกงาน 3 เดือน หรือ 6 เดือน ก็สุดแล้วแต่หน้าที่การงานของคุณ ลองประเมินเอา ดังนั้น เงินที่คุณต้องมีคือ "เงินค่าใช้จ่ายเมื่อตกงาน" คุณมีรายจ่ายเดือนละเท่าไร ก็คูณ 3 เดือน หรือ คูณ 6 เดือนเข้าไป แล้วเก็บเงินก้อนนี้ให้ได้ พร้อมนำออกมาใช้ตลอดเวลา……
>>> เงินสำหรับการลงทุนสร้างชีวิต หรือสร้างธุรกิจของตัวเอง…เงินก้อนนี้ ผมไม่สามารถบอกจำนวนได้นะ ว่าต้องเป็นเท่าไร? บางคนอาจเลือกใช้เครดิต กู้ลงทุน หรือมีทุนอื่น ๆ อยู่แล้ว ก็แล้วแต่ตัวบุคคล แต่หากว่าใครยังไม่มี ก็รีบหาซะ…เพราะเงินก้อนนี้คือตัวชี้วัดเลย ว่าคุณสายป่านยาวพอหรือไม่ หรือเป็นตัวบอกว่า "คุณมีโอกาสกลับมาเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกหรือไม่?"…
2. คุณต้องมี "แผนธุรกิจ" ที่เขียนลงใส่กระดาษ หรือคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว (ลองไปหาศึกษาวิธีการเขียนแผนธุรกิจดู)…. ไอ้ความอยากทำโน่น ทำนี่ ที่มันยังคงอยู่แต่ในหัว สำหรับผม ผมยังไม่นับว่าเป็นแผนธุรกิจนะ เพราะเรามีแต่ความอยากไงล่ะ เราก็เลยมองแต่สิ่งที่เราจะได้รับ มองเห็นแต่ภาพของความสำเร็จ แต่กลับมองไม่เห็นด้านลบ หรือความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น….เมื่อก่อนผมเป็นแบบนี้เลย สุดท้ายก็เจ๊งครับ!…ดังนั้น พยายามเขียนแผนธุรกิจออกมาให้ได้ครับ เราจะเห็นภาพต่างๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น….
3. คุณต้องมี "Connection / Partner" ครับ…ยุคสมัยนี้ ผมมองว่าการทำอะไรคนเดียวเป็นสิ่งที่ยากนะ อาจจะทำได้นั่นล่ะ แต่ก็ต้องแลกกับความเหนื่อย หรือแลกกับเวลาที่ต้องทุ่มเทให้กับงานนั้นๆ…สำหรับตัวผม ผมเลือกที่จะมองหา Connection ดีๆ และมองหา Partner ที่มาเติมเต็มสิ่งที่เราขาดได้ เช่น เราไม่เก่งเรื่องทำการตลาด ดังนั้นเราต้องหาคนที่เก่งด้านนี้มาช่วยเรา เราจะได้เอาเวลาที่เรามี ไปทำในสิ่งที่เราถนัด…ลองพิจารณาข้อนี้ดีๆ ครับ เราไม่ต้องเก่งทุกด้าน ไม่ต้องมีทุกอย่าง แต่เราสามารถทำธุรกิจได้จริงๆ….[yengo]
4. คุณต้องมี "สินค้าที่อยู่ในตลาดได้ อย่างน้อย 3-5 ปี" ครับ….หากคุณคิดจะลาออกไปทำธุรกิจ สิ่งที่คุณต้องมีแน่ๆ ก็คือ "สินค้า" แต่ถ้าสินค้าของคุณมาไว ไปไว แป่บๆ ตลาดก็วายแล้ว ไม่นิยมกันแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ คุณจะเหนื่อยตลอด จริงไหม? ดังนั้น ก่อนลาออกจากงาน ผมแนะนำให้คุณให้เวลา และให้ความสำคัญกับการหาสินค้าเจ๋งๆ ให้เจอครับ และถ้าสินค้านั้นมีกำไร 2-3 เท่าตัวของราคาทุนด้วยล่ะก็ เจ๋งเลย!!…..
5. คุณต้องเป็นคน "หน้าหนา" ให้เป็น…คำนี้ ไม่ได้หมายถึง "หน้าด้าน" นะครับ…..หน้าหนาให้ถูกที่ ถูกเวลา ช่วงที่คุณยังไม่ได้ลาออก คุณลองฝึกขายสินค้าดูสิ ขายของเล็กๆ น้อยๆ ตามตลาดนัด หรือลองเปิดร้านค้าออนไลน์ก็ได้ ฝึกขาย หัดคุยกับลูกค้าให้คล่องๆ วันใดที่คุณมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณจะกล้าที่จะขายได้อย่างไม่เคอะเขิน….ผมเองเคยขายน้ำผึ้งมะนาวที่ตลาดนัด และบนห้าง รู้เลยว่าข้อนี้ สำคัญมาก!!
ทั้งหมดนี้คือ ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ พิมพ์กันสด ๆ ตอนนี้เลย ไม่ได้ไปก๊อบปี้ใครมา ดังนั้นอาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% ตามหลักการที่เพื่อน ๆ เคยอ่านเจอจากที่อื่น