ขนส่งฯ งดให้บริการด้านทะเบียน-ใบขับขี่ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด

         ขนส่งฯ ประกาศงดให้บริการด้านทะเบียนรถและใบขับขี่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 นี้เป็นต้นไป

         กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดมาตรการให้สอดคล้องกับคำสั่งควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่

กรุงเทพมหานคร

นครปฐม

นนทบุรี

ปทุมธานี

สมุทรปราการ

สมุทรสาคร

ลบุรี

พระนครศรีอยุธยา

ฉะเชิงเทรา

สงขลา

นราธิวาส

ปัตตานี

ยะลา

           งดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่นหรือยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน

           งดให้บริการด้านทะเบียนรถทุกประเภท ณ สำนักงานขนส่งที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยการดำเนินการทางทะเบียนที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการไว้ตรงกับช่วงเวลางดให้บริการ เช่น โอนรถ, แจ้งย้ายรถ,​การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ หรือแจ้งเลิกใช้รถ ฯลฯ สามารถดำเนินการได้ภายหลังโดยไม่ถือเป็นการดำเนินการล่าช้าและจะได้รับการยกเว้นค่าปรับ ส่วนเขตจังหวัดอื่นให้เป็นไปตามประกาศจังหวัดหรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด[ads]

           ทั้งนี้ ยังมีการเปิดให้ชำระภาษีรถประจำปีทุกช่องทางตามปกติ ยกเว้นสำนักงานขนส่งที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด สามารถชำระภาษีผ่านเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax), ที่ทำการไปรษณีย์ และบริการชำระภาษีรถยนต์ออนไลน์บนเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ และแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

           นอกจากนี้ ยังมีการงดออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านทะเบียนรถ, ภาษีรถ และใบอนุญาตขับรถ ณ หน่วยบริการเคลื่อนที่รับชำระภาษีประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชุมชน (Shop Thru for Tax) และศูนย์บริการร่วมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุม 13 จังหวะ ขณะที่เขตจังหวัดอื่นให้เป็นไปตามประกาศจังหวัดหรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

ขอขอบคุณที่มาจาก: กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News