ขิง ยาดีจากก้นครัว ช่วยต้านสารพัดโรค!!

     “ขิง” สมุนไพรไทยๆ ที่เราคุ้นเคยกันอย่างดีมาช้านาน นำมาปรุงอาหารประเภทต้ม ทำแกง จะผัดก็ดี หรือต้มดื่มเป็นน้ำขิง รสชาติเผ็ดร้อน กลิ่นหอมเฉพาะได้กลิ่นได้ทานรู้เลยว่าเป็นขิง ปัจจุบันมีการนำมาสกัดเป็นผงเพื่อสะดวกแก่การชงดื่ม หรือบดใส่ในแคปซูลทานได้ง่ายขึ้น วันนี้ ไข่เจียว.com ขอพูดถึงเรื่องสรรพคุณของ “ขิง” ค่ะ บอกเลยว่าได้ทราบกันแล้วไม่รอช้าต้องหามาทานกันแน่นอน

แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
    น้ำต้มขิงเข้มข้นร้อยละ 50 มีฤทธิ์ยับยั้งกรดในกระเพาะอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมง ต่อจากนั้นมีฤทธิ์กระตุ้น เสริมความแข็งแรง และรักษาแผลกระเพาะอาหารบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น กระตุ้นความอยากอาหาร กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างอ่อน ทำให้ลดอาการท้องอืด แน่นเฟ้อ

ป้องกันและรักษาตับอักเสบ 
     ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของถุงน้ำดี ลดปริมาณเมือกและการเกาะตัวของเมือกในถุงน้ำดี มีการทดลองในหนูทดลองที่ได้รับบาดเจ็บจากสารคาร์บอนเตตราคลอไรด์ ซึ่งเป็นสารพิษชนิดหนึ่ง การให้น้ำสกัดจากขิงหรือขิงผสมน้ำผึ้ง สามารถลดการอักเสบของตับได้

แก้อาเจียน
    ที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะอาหาร และลำไส้ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของอาหารหรือสารเคมีบางอย่าง

[ads]

ช่วยในการนอนหลับ
     มีฤทธิ์กล่อมประสาทอ่อน ทำให้นอนหลับสนิท ทั้งยังช่วยระงับความเจ็บปวด ลดการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดจากการขาดเลือด

แก้ไอขับเสมหะ
     เมื่อมีไข้ ไอ มีเสมหะ ดื่มน้ำขิงอุ่นๆ เติมน้ำให้ร่างกาย ขับเสมหะ ขับพิษไข้ออกทางเหงื่อ สามารถลดไข้ได้

ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน
     การรับประทานขิงตอนที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนลดลงได้ เพราะขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่น แสดงให้เห็นอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ 

รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
     มีการพบว่าผู้ที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีอาการลดลงเมื่อบริโภคขิงผงเป็นประจำทุกวัน

ป้องกันโรคหลอดเลือด หัวใจตีบ
     เสริมกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ทำให้แรงบีบตัวของหัวใจดีขึ้น ต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือดอันก่อให้เกิดโรคหลอดเลือด หัวใจตีบ

ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
     มีการศึกษาพบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานขิงร่วมกับยา เพราะขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ และควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เพราะหากรับประทานขิงมากเกินไปก็อาจจะทำให้ระดับอินซูลินลดลงมากเกินไปจนอยู่ในขีดอันตรายได้

ลดเชื้อแบคทีเรียและพยาธิ
     มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรค ยับยั้งเชื้อโรคแบคทีเรีย การเติบโตของพยาธิต่างๆ ได้

ช่วยรักษามะเร็ง
     มีการศึกษาในเยอรมันพบสารจากน้ำขิงมีบทบาทต่อ การต้านการเติบโตของมะเร็ง ในระดับหนึ่ง และนักวิจัยชาวญี่ปุ่นแนะนำว่า ควรกินขิงควบคู่กับยารักษามะเร็ง

ฟื้นฟูร่างกายภายหลังคลอดบุตร
     ร่างกายของหญิงหลังคลอด จะเสียทั้งพลังหยางและเลือด มีน้ำในร่างกายตกค้างอยู่มาก นิยมกินไก่ผัดขิงจะเสริมทั้งเลือดพลังหยาง ช่วยทำให้การย่อยดูดซึมอาหารดีขึ้น มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคาวปลาได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น

[ads]

ข้อควรระวังในการทานขิง

– อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ได้
     หากว่าคุณตั้งครรภ์โดยไม่ปกติ หรือมีภาวะแทรกซ้อนใดๆ คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะที่ใช้ขิง มีบางการศึกษาพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์และการแท้ง แต่หากในครรภ์ที่ปกติช่วยลดอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้องได้ดี
– ทำให้เกิดแผลร้อนในภายในปากได้
       ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มาก ก็จะสามารถทำให้เยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ ดังนั้นไม่ควรรับประทานขิงมากจนเกินไปค่ะ
– ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด
      ควรงดการรับประทานขิงในขณะที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ดังนั้นถ้าหากคุณมีอาการเลือดออกผิดปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิงค่ะ

      ด้วยเหตุนี้ คุณสมบัติและสรรพคุณอันมากมายของขิง ทำให้ขิงจัดเป็นยาอายุวัฒนะชนิดหนึ่ง ซึ่งหาได้ง่ายมากๆ บางครัวเรือนที่ปลูกติดไว้ในบริเวณบ้านก็สะดวกแก่การหยิบมาใช้งานมากๆ ทั้งในในตลาดบ้านเราก็หาซื้อได้ง่ายๆ คุณสามารถใช้ปรุงอาหาร ดื่มน้ำขิง ทานแบบแคปซูล ดีต่อสุขภาพ แถมราคาก็ประหยัด เรียกได้ว่าเกินคุ้มกับประโยชน์ที่ได้รับแน่นอนค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ไข่เจียว.com