เป็นบุญทั้งชีวิต!! เปิดคลิป นิสิตคนสุดท้าย ที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตร จากพระหัตถ์ของในหลวง ร.9
advertisement
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2473 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่7) และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่เวชบัณฑิต (แพทยศาสตรบัณฑิต) ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มพระราชทานปริญญาบัตรตั้งแต่ พ.ศ. 2493 และมีผู้คำนวณว่า หากเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับนั่งครั้งละประมาณ 3 ชั่วโมง เท่ากับทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทานใบปริญญา 470,000 ครั้ง จึงมีผู้กราบบังคมทูลขอพระราชทานให้ลดการพระราชทานปริญญาบัตรเฉพาะระดับมหาบัณฑิตขึ้นไป แต่มีพระราชกระแสตอบว่า
"เสียเวลายื่นปริญญาบัตรให้บัณฑิตคนละ 6-7 วินาทีนั้น แต่ผู้ที่ได้รับนั้นมีความสุขเป็นปีๆ เปรียบกันไม่ได้เลย" นอกจากนี้ก็ยังรับสั่งว่า จะพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตปริญญาตรีไปจนกว่าจะไม่มีแรง
advertisement
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองเป็นระยะเวลาเกือบ 50 ปี แต่ต้องยุติพระราชกิจลง ด้วยพระชนมายุมากขึ้นประกอบกับทรงพระประชวร โดยสำหรับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระองค์ทรงเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2541 [ads]
advertisement
.
advertisement
นิสิตคนสุดท้ายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็คือ "นางสาว โอบเอื้อ อิ่มวิทยา" จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากเสร็จพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พระองค์ได้พระราชทานพระโอวาท เอาไว้ตอนหนึ่งความว่า "การรู้จักประมาณสถานการณ์ ได้แก่การรู้จักพิจารณาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นชัดถึงความเป็นมาและเป็นอยู่ แล้วคาดว่าควรจะเป็นอย่างไรในอนาคต ในการปฎิบัติงาน ยิ่งประมาณสถานการณ์ได้ถูกต้องเพียงใด ก็จะยิ่งทำให้งานที่ทำสำเร็จผลสมบูรณ์และได้ประโยชน์คุ้มค่ามากขึ้นเพียงนั้น"
advertisement
ปัจจุบันนางสาว โอบเอื้อ อิ่มวิทยา กลายเป็น ดร.โอบเอื้อ อิ่มวิทยา และเป็นนักวิทยาศาสตร์ปฎิบัติการ กองผลิตภัณฑ์อุปโภคและเคมีภัณฑ์ กรมวิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี [ads]
(ชมคลิป)
เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาพสกนิกรไทย และคนทั่วโลกจริงๆค่ะ ว่าประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำเพื่อประชาชนมาตลอด ไม่เคยทอดทิ้ง และทรงงานหนักจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ
ขอขอบคุณที่มาจาก : หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , Workpoint News ข่าวเวิร์คพอยท์