แฉ ขรก.กินบุฟเฟ่ต์สวนผลไม้ ต่อราคา-จ่ายไม่ครบ-ขนกลับบ้าน

          คุณยายวัยเกือบ 90 คนหนึ่ง ปิ๊งไอเดียกับลูกหลาน เปิดสวนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ให้กินผลไม้แบบไม่อั้น ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง ในราคาเบาๆ เด็ก 79 บาท ผู้ใหญ่ 129 บาท และมีกิจกรรมขับรถจี๊ปสมัยสงครามโลกเที่ยวชมสวนบนเนินเขา เนื้อที่หลายสิบไร่ เมื่อสวนเริ่มดัง หน่วยงานรัฐเริ่มรับรู้จากข่าวสารและเสียงร่ำลือแบบปากต่อปาก หน่วยงานระดับนโยบายก็หวังดีช่วยโปรโมทให้ไปเที่ยว “สวนคุณยาย” สั่งการให้หน่วยงานรัฐในพื้นที่ไปดูงานและท่องเที่ยวไปในตัว เพื่อสานต่อยกระดับเป็นต้นแบบวิสาหกิจชุมชน

          นับแต่นั้น “สวนคุณยาย” ก็เริ่มเปลี่ยนไป ปลัดอำเภอคนหนึ่งพาข้าราชการ 60 คนไปกินบุฟเฟต์ผลไม้ เบิกงบไปหมื่นกว่าบาท ไปถึงก็ขอต่อรองกับคุณยายให้ลดราคาเหลือ 5,000 บาท พร้อมขอกาแฟและอาหารเช้าบริการ “เจ้าขุนมูลนาย” ที่อุตส่าห์สละเวลาไปเหยียบสวนชาวบ้าน ลูกหลานยายบอกว่า 5,000 บาทพ่วงกาแฟ อาหารเช้าคงสู้ไม่ไหว เพราะแค่ค่าหัวบุฟเฟต์ก็ปาเข้าไป 7,740 บาทแล้ว ขอเพิ่มอีกหน่อยก็แล้วกัน สุดท้ายปลัดขอจ่ายแค่ 7,000 พร้อมเปรยแบบไม่อายว่า “ผมจะได้เหลือเงินติดกระเป๋าบ้าง”[ads]

          ข้าราชการอีกกลุ่มแวะไปกินแบบไม่อั้น ขอต่อราคาเหลือแค่หัวละ 50 บาทก็แล้วกัน คุณยายเห็นมากันแค่สิบกว่าคน ไม่ใหญ่เท่าคณะปลัด ก็ยอมจัดให้ สุดท้ายเจ๊งยับ เพราะขนทุเรียน เงาะ มังคุด หอบใส่ถุงกลับไปกินต่อที่บ้านด้วย

          คณะครูโรงเรียนรัฐบาลจัดกิจกรรมนอกสถานที่ พาเด็กนักเรียนไปเที่ยว “สวนคุณยาย” เก็บเงินจากผู้ปกครองเด็กมาหัวละ 40 บาท จากนั้นก็พาเด็กมากินบุฟเฟต์ผลไม้ ขอต่อราคาลงครึ่งหนึ่ง พ่วงด้วยครูอีก 1 โขยง แจ้งตัวเลข 5 คน แต่มาจริง 9 คน กินกันอิ่มหมีพีมัน ในราคานักเรียนด้วยเงินที่ผู้ปกครองคนหาเช้ากินค่ำเป็นคนจ่าย แถมครูบางคน ยังทำอาหารใส่ถุงมาขายนักเรียน เพิ่มรายได้ให้ตัวเองอีกต่างหาก

          ที่เล่าให้ฟังนี้ไม่ใช่คุณยายหรือลูกหลานยายอยากแฉ แต่ผมไปเจอมากับตัวเองแล้วรับไม่ได้จริงๆ นี่มันยิ่งกว่าโกงทุกหย่อมหญ้า แต่มันเป็นการเอาเปรียบชาวบ้านแบบไม่เลือกหน้า จากเชื้อโกงที่ฝังในดีเอ็นเอ!”

          ต่อมาได้ระบุต่อว่า จากบทความเรื่อง "ด้านได้ อายอด" ว่าด้วยการเอาเปรียบชาวบ้าน และการเรียกเงินทอนแม้กระทั่งกับชาวสาวผลไม้อย่าง "คุณยาย" คนหนึ่งที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ทางทหารส่งกำลังเข้าไปเยี่ยมคุณยายแล้ว และอธิบายทำนองว่าเรื่องที่ผมเขียนนั้นเกินจริง…@ตามที่มีข่าว เรื่องข้าราชการ และคณะครู/นักเรียน ต่อราคา บุฟเฟ่ต์ผลไม้ของคุณยาย ในพื้นที่ ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา[ads2]

          ในฐานะที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ซึ่งเป็นหน่วยฯ ที่รับผิดชอบในพื้นที่ ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอยะหา ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องดังกล่าว โดยได้เข้าพบปะพูดคุยกับคุณยายและครอบครัว ได้รับการยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว นั้นเป็นเพียงการพูดคุยกันในลักษณะ ของความเป็นกันเอง โดยปกติแล้วคุณยายท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดี เมื่อท่านทราบว่ามีคนเอาประเด็นที่พูดคุยนี้ไปเขียนเป็นข่าวท่านรู้สึกตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมท่องเที่ยว บุพเฟ่ต์ผลไม้ของท่านด้วย และทำให้บุคคลภายนอกมองภาพของคุณยายท่านไปในทางไม่ดี ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นจริง

          คุณยายยังได้บอกอีกว่า จากการเปิดสวนจัดกิจกรรมเที่ยวสวนบุฟเฟ่ต์ผลไม้ในครั้งนี้ “สวนคุณยาย” ยังมีกำไรจากนักท่องเที่ยวที่มาที่สวนของคุณยาย ทั้งนี้คุณยายยังมีความกังวลกับข่าวที่ออกมา เพราะคุณยายไม่ได้เดือดร้อน หรือ “เจ๊งยับ” ตามที่เป็นข่าว ในตอนนี้สวนคุณยายก็ยังเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวที่จะมา “สวนคุณยาย” ยินดีต้อนรับ

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต

ปล้นชาวบ้านกิน[ads3]

         เรื่องนี้ชาวเน็ตค่อนข้างเทใจไปทางคุณยายนะคะ อย่างไรแล้วก็ต้องรอชมข่าวกันต่อไป ว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไร อีกฝั่งจะว่าเช่นไร 

ขอขอบคุณที่มาจาก: Pakorn Puengnetr