งา..จิ๋วแต่แจ๋ว สรรพคุณเพียบ!!

    “งา” เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งมีการเพาะปลูกมานาน ให้ผลเป็นฝัก มีเมล็ดเล็กๆ สีขาวหรือสีดำอยู่ข้างใน ซึ่งเมล็ดนี้เองที่เรียกว่าเมล็ดงาที่เรานำมาใช้รับประทานกันได้เป็นอาหาร เครื่องเทศ และบีบเอาน้ำมันมาใช้ประโยชน์ได้ เมล็ดงาอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย มีกลิ่นหอมและกรดไขมันที่มีประโยชน์ ทั้งนี้สารอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดงาล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น จึงเรียกได้ว่า งา..จิ๋วแต่แจ๋ว สรรพคุณเพียบ!!

 

งามีชื่อสามัญว่า Sesame จัดอยู่ในวงศ์ Pedaliaceae มีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า งาขาว งาดำ นีโซ (กระเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ไออยู่มั้ว (จีน)

     ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของงา เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 30-100 ซม. ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีร่องตามยาวของลำต้น มีขนปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามหรือสลับ ลักษณะใบเป็นรูปไข่ หรือรูปใบหอก กว้างประมาณ 2-5 ซม. ยาวประมาณ 6-10 ซม. ดอกเป็นดอกเดี่ยว เป็นหลอด ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาวหรือสีชมพู ออกโดยรอบลำต้นตอนบน ผลเป็นผลแห้ง มี 4 พู เมล็ดแบน ขนาดเล็ก มีจำนวนมาก รูปไข่ สีดำ เรียก"งาดำ" สีขาวหรือสีนวล เรียก"งาขาว"

ส่วนที่ใช้ประโยชน์ ดอกงา เมล็ดงา [ads]

สรรพคุณทางสมุนไพรของงา วิธีและปริมาณที่ใช้
    – รักษาหูด โดยใช้ดอกงา นำดอกงาที่เก็บในตอนเช้า ซึ่งยังมีน้ำค้างอยู่มาถูกับหูดวันละ 3 ครั้ง ภายใน 7-10 วัน จะเห็นผล
    – ในกรณีที่เป็นดอกแห้งรักษาหูด ให้นำมาแช่น้ำนาน 30 นาที ต้มให้เดือด แล้วใช้น้ำต้มล้างบริเวณที่เป็นหูดภายใน 10 วัน หูดจะหลุดออก
    – เมล็ดงา รับประทานให้เกิดกำลังและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
    – น้ำมันระเหยที่บีบจากเมล็ดหุงเป็นน้ำมันใส่บาดแผล แผลเน่าเปื่อย และผสมเป็นน้ำมันทาถูนวดแก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ปวดบวม ลดการอักเสบ ใส่แผลรักษาอาการผื่นคัน ทำน้ำมันใส่ผม เป็นยาระบายอ่อนๆ ทาผิวหนังให้นุ่มและชุ่มชื้น หญิงไทยโบราณใช้ทาเพื่อประทินผิว 
     – น้ำมันที่ได้จากงา มักใช้ผสมยาทาสำหรับกระดูกหัก บำรุงเอ็น ไขข้อ ทานวดแก้เคล็ดยอก ปวดบวม หรือใช้ทาบำรุงรากผมได้
     – ตำรับยาสมุนไพรล้านนา ใช้รักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน น้ำร้อนลวก ไฟไหม้
     – ตำรับยาน้ำมันที่ระบุในตำราพระโอสถพระนารายณ์ มีรวม 3 ตำรับ ที่ใช้น้ำมันงาเป็นส่วนประกอบ ดังนี้ “น้ำมันทรงแก้พระเกศาหล่น (ผมร่วง)ให้คันให้หงอก” ประกอบด้วยสมุนไพร 19 ชนิด นำมาต้มแล้วกรองกากออก เติมน้ำมันงา แล้วหุงให้เหลือแต่น้ำมันใช้แก้พระเกศาหล่น คัน หงอก “น้ำมันแก้เปื่อยพัง” มีสรรพคุณ แก้ขัดเบาหรือปัสสาวะไม่ออก แก้ปวดขบ แก้หนอง มีรวม 2 ตำรับ แต่ละตำรับ ประกอบด้วยสมุนไพร 12 ชนิด และน้ำมันงาพอควร หุงให้เหลือแต่น้ำมัน ยานี้ใช้ เป่าเข้าไปในลำกล้อง (ทางเดินปัสสาวะในองคชาติ)

สารอาหารที่สำคัญในงาดำ
     อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่างวิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี9 แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก เป็นต้น
งาดำ 
     พบสารสำคัญในงาดำมีชื่อว่า “เซซามิน” มีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายมากมาย ตามที่รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบัณฑิตศึกษาและอาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ สารสกัดงาดำ “เซซามิน” ทำวิจัยพบว่าสิ่งที่คนโบราณมีความเชื่อนั้นเป็นเรื่องจริง “เซซามิน” ในงาดำมีคุณประโยชน์ 8 ประการ คือ [yengo]
     1) ช่วยในการเผาผลาญ สลายไขมัน ลดความอ้วนเสริมสร้างกล้ามเนื้อ 
     2) ลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
     3) ทำให้ระดับไขมันอยู่ในสัดส่วนพอดี 
     4) ช่วยในการทำงานของวิตามินอี 
     5) ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท 
     6) ลดปฏิกิริยาความเครียด 
     7) ต้านอนุมูลอิสระ 
     8) ต้านการอักเสบ 
     สำหรับสรรพคุณ ในเรื่องการลดการอักเสบนั้นได้มีการค้นคว้าวิจัยสรรพคุณด้านนี้เป็นพิเศษในเชิงลึก เพราะการอักเสบเป็นตัวการทำให้เกิดโรคข้อเสื่อมซึ่งเป็นโรคที่คนไทยเป็นมาก และสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีหนึ่งมหาศาล ในระยะแรกได้ทดลองกับกระดูกอ่อนของหมู พบว่าสารเซซามินที่สกัดจากงาดำสามารถยับยั้งการเสื่อมสลายของเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน ที่ห่อหุ้มข้อต่างๆ ของร่างกายได้จึงเชื่อว่าจะมีสรรพคุณเช่นเดียวกัน เมื่อนำมาใช้กับคนทั้งนี้กำลังอยู่ระหว่างการเริ่มทดลองขั้นสูงในระดับคลินิกต่อไป

การรับประทานงาดำเพื่อให้มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด
     โดยการรับประทานงาดำเป็นอาหาร จะให้ประโยชน์ได้มากกว่าการรับประทานงาดำที่เป็นสารสกัด และการรับประทานด้วยวิธีการเคี้ยวให้ละเอียดจะได้ประโยชน์มากที่สุด แต่หากเรานำมาโรยใส่ข้าวหรือในเครื่องดื่มในบางครั้งเราอาจจะไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำ จึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือดูดซึมไม่ได้เลย มีวิธีการรับประทานก็ง่ายๆ ที่แนะนำ คือการนำงาดำมาใส่กับขนมปังโฮลวีตรับประทานทุกเช้าวันละ 10 ช้อนสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับคนวัยทำงานวันละประมาณ 3-4 ช้อน หรือจะอยู่ในรูปของน้ำเต้าหู้งาดำก็ได้เช่นกันค่ะ

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการแพ้
     ในผู้รับประทานบางรายอาจมีอาการแพ้ได้ เช่น ลมพิษ ริมฝีเปลือกตาปากบวมแดง คันจมูก หายใจลำบาก ความดันโลหิตลดลงจนช็อกหมดสติ โดยอาการเหล่านี้อาจ เกิดขั้นทันทีหลังจากรับประทาน 90 นาที

     เราจะสังเกตได้ว่างานั้น สามารถช่วยบำรุงร่างกายเกือบทุกสัดส่วนเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น ผม ผิวพรรณ กระดูก เล็บ ระบบขับถ่าย การบำรุงหัวใจ ประสาทและสมอง จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งผู้ที่มีอาการป่วย เด็ก หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้หญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจะจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่างได้ผล และการรับประทานที่ดีนั้นควรรับประทานอย่างเหมาะสม พร้อมรับประทานครบทั้ง 5 หมู่นะคะ นอกจากนั้นแล้ว ก็สามารถนำเอาน้ำมันงามาใช้นวดทาบริเวณที่มีอาการปวดและ รักษาเส้นเอ็นที่บาดเจ็บได้อีกด้วย ดีแบบนี้คงต้องหางาและน้ำมันงามาไว้ติดบ้านกันบ้างแล้วล่ะค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com