จัดระเบียบห้องครัว อายุเก่าแก่ 20ปี ให้มีระเบียบน่าใช้งาน
advertisement
คุณ taljang ได้ออกมารีวิวการปรับโฉมห้องครัวเก่าให้มีระเบียบน่าใช้งาน โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า 'เมื่อเจ้าของรีวิวบ้านหวานๆ ต้องไปช่วยจัดระเบียบห้องครัวให้เพื่อนร่วมงาน โดยมีเวลา 1 วัน ผลจะเป็นเช่นไร'
สวัสดีค่ะ ตาล เจ้าของกระทู้"รีวิว บ้านที่ดูภายนอก Modern แต่ภายในตกแต่งแนวหวานๆ ค่า" หลังจากได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำครั้งแรกในชีวิต มาตั้งกระทู้รอบนี้ ไม่ได้จะมารีวิวบ้านตัวเองแต่อย่างใด (เพราะรีวิวไปแทบทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่บางทีก็แอบแวะไปโพสรูปของตกแต่งน่ารักๆ บ้าง แหะๆ) แต่เป็นการเขียนกระทู้ เพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆ ว่า เราอาจไม่ต้องสร้างบ้านหลังใหม่ แต่เราก็สามารถมีบ้านที่ อบอุ่น น่ารัก และ เป็นระเบียบเรียบร้อยได้ โดยอาศัย แรงกาย และ แรงใจของทุกคนในบ้านค่ะ
เรื่องเริ่มมาจาก ตาลมีน้องที่ทำงานที่สนิทกันมากๆ อยู่คนนึงค่ะ รู้จักกันมาเกือบ 6 ปีแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้ไปเยี่ยมบ้าน และ ไปนอนที่บ้านน้องเค้าเมื่อสัก 3 ปีที่แล้ว บ้านน้อง P (นามสมมุติ) เป็นบ้านที่สร้างมานาน เกือบ 20 ปี (พอๆ กับบ้านหลังเก่าของตาลล่ะค่ะ) แต่บ้านน้อง P มีของเยอะมากๆ ตอนไปนอนครั้งแรก เรียกว่า ต้องเลือกมุมนอน (ว่าไปนั่น) เม่านอนไม่หลับ ห้องน้อง P มีเตียงเหล็ก 5 ฟุต แต่นอนบนนั้นไม่ได้ เพราะของหลายอย่างอยู่บนนั้น เลยต้องไปนอนที่ฟูก 6 ฟุต ที่น้อง P ถอยมาใหม่ที่วางอยู่บนพื้นกลางห้อง ทำให้ ห้องไม่มีที่ไปกันใหญ่ แต่น้อง P เคยชินกับพื้นที่แบบนี้แล้ว เลยไม่มีปัญหา
จนเมื่อปีที่แล้ว ตาลตัดสินใจว่า ปีนี้ พี่ตาลจะให้ของขวัญน้อง P โดยการช่วยจัดระเบียบห้องให้นะ แต่ P ต้องช่วยพี่ด้วยนะ ช่วยโดยการตัดใจทิ้งของที่ไม่จำเป็น อันไหนที่ยังใช้ได้ก็เอาไปบริจาคซะพอตกลงกันได้ ตาลก็จัดการรื้อเตียงเหล็ก อายุ สิบกว่าปี ออกเป็นชิ้นๆ และก็ทำการคัดแยกของ ทำความสะอาดห้อง จัดระเบียบห้อง ได้สำเร็จ เริ่มตอน 2 ทุ่ม เสร็จตี 5 เหนื่อยมาก ฝุ่นเยอะมาก แต่พอเห็น Before – After ก็ชื่นใจ (วันหลัง ชั้นจะได้มีที่นอนสบายๆ เสียที 5555) หายเหนื่อย พร้อม แกล้งแซวน้อง P ว่า วันไหนพี่มาบ้าน จะมา Audit นะว่าห้องรกรึเปล่า ปล. รูป Before – After ห้องนอนไม่มีนะคะ ตอนนั้นคิดไม่ทันค่ะ
แต่จริงๆ แล้วบ้านน้อง P ยังมีส่วนที่ตาลอยากจะเข้าไปเผือกอีกส่วน คือ ห้องครัว และ ห้องทานข้าวค่ะ (เป็นโรคเห็นบ้านใครรกๆ แล้วอยากจัด) เพราะเป็นอีกส่วนที่ตาลได้ไปใช้บริการ เวลาไปบ้านนี้ค่ะ (ลูกสาวบ้านนี้ทำอาหารอร่อยมาก) เลยบอกไปว่า จากวันที่พี่ไปจัดห้องนอนให้ ตอนนี้จะครบปีแล้ว พี่ขอไป Audit ห้องนอน และพี่จะให้ของขวัญปีนี้โดยการไปช่วยจัดห้องครัวให้นะ
น้อง P ก็ตกลง โดยก่อนวันที่ตาลจะไปจัดห้องให้ ตาลแวะร้านขายของ 20 บาท (จริงๆ เดี๋ยวนี้ 25 บาทเกือบหมดแระ) ซื้อตะกร้า กระจาด สติ๊กเกอร์ติดกันน้ำมันกระเด็น สกอตไบร์ท ฝอยขัดหม้อ น้ำยาเช็ดคราบน้ำมัน และอื่นๆ มาเตรียมไว้ก่อนค่ะ จริงๆ จำรายละเอียดห้องครัวน้อง P ไม่ได้แม่นหรอกค่ะ แต่กะๆ เอาแทน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พอเลิกงาน ก็ไปบ้านน้อง P กันเลยค่ะ (มีแวะซื้อของเพิ่มนิดหน่อย) พอลงจากรถ ก็เข้าบ้านค่ะ ก้าวแรกที่เข้าไป ก็ โอ้ว…มาย (คืนนี้ตรูจะทำเสร็จไหมน้อ)
advertisement
สุดท้ายห้องครัวนี้จะเป็นอย่างไร โดยใช้เวลา 1 วัน โปรดติดตามนะคะ (อาจไม่ถึงกับแปลงโฉมอย่างในรายการ Reality เมืองนอกนะคะ แต่คุณแม่น้อง P พอใจมากค่ะ แม่บอกว่าเหมือนมีห้องครัวใหม่ 55) กระทู้ตาลเขียนยาว เหมือนเดิม ใครเบื่อขออภัยล่วงหน้าค่ะ (ขอ Tag ครอบครัวด้วยนะคะ เพราะตาลเชื่อว่า การจัดบ้าน เป็นเรื่องของคนทั้งครอบครัวค่ะ)
(ได้อนุญาติคุณแม่และ น้อง P แล้วนะคะ ว่าจะขอนำห้องครัวคุณแม่มารีวิวใน Pantip เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนค่ะ) Before มุมแรก คือ เตา Gas ประกอบอาหารค่ะ เป็นเตารุ่นมาตราฐาน วางอยู่บนโต๊ะไม้ บริเวณผนังแปะกระดาษหนังสือพิมพ์เอาไว้ เพื่อกันน้ำมันกระเด็น ที่ดูดควันเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน ด้านข้างเตามีโต๊ะไม้อีกตัวเอาไว้วาง หม้อ กระทะ รวมถึงเครื่องปรุงบางส่วน
advertisement
ด้านขวามีชั้นวางเครื่องปรุง มากมาย หลายชนิดค่ะ อย่างที่บอกลูกสาวบ้านนี้ทำอาหารอร่อยมาก (ทำได้ทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง) เครื่องปรุงเลยมีหลายชนิด แต่บางอย่างก็มีเยอะเกินไป เช่น น้ำมันพืชขวดเก่ายังไม่ทันจะหมด ก็มีอีกขวดที่ยังไม่หมดเช่นกัน วางไว้บนชั้นเดียวกัน (แถมบางขวดยังไม่ได้เปิดขวดก็มีอยู่บนชั้นนี้) บางขวดหมดอายุไปแล้ว บางขวดเหลืออยู่แค่ก้น (เทไม่ออกแล้ว) แต่ยังเก็บไว้ ด้านล่างของชั้น เอาแผ่นรองจานมาวางไว้ แต่เหมือนไม่เคยนำออกมาทำความสะอาด เพราะคราบน้ำมัน และ คราบเครื่องปรุงยังคงหลงเหลือให้เห็น
advertisement
เนื่องจากบ้านนี้มีสุนัข 2 ตัว และเลี้ยงในบ้าน ตัวนึง Golden Retriever (ตัวใหญ่มาก) อีกตัว สุนัขพันธุ์ไทย บนพื้นห้องครัวในซอกในมุม จึงสามารถพบเจอ คราบน้ำมันและขนสุนัข ได้ทั่วไป ด้านขวาสุด (ก่อนถึงประตู) มีกล่องกระดาษทรงกระบอก เอาไว้ใส่ข้าวสาร ที่ใส่ขยะ มีทั้งแบบ เอาถุงไปห้อย กับแบบตะกร้า
advertisement
อร้าย ชั้นเริ่มเขียนกระทู้ดึกไปหน่อย จะเที่ยงคืนแล้ว เดี๋ยวเขียนถึงเที่ยงคืน จะขอตัวไปนอน แล้วมาต่ออีกทีนะคะ ด้านซ้ายของเตา มีที่ห้องถุงใส่ถุงพลาสติก (คาดว่าเอาไว้ทำเป็นถุงขยะ) มีกระทะที่ไม่ค่อยได้ใช้ห้อยอยู่ บนพื้นมีฝาอบลมร้อนที่เสียแแล้ว วางอยู่บนกระต่ายขูดมะพร้าว และ ถังสี (สีขาว) ที่ข้างในใส่ถุงพลาสติก (อีกแล้ว) วางไว้ข้างๆ กัน
advertisement
ฝั่งตรงข้ามเป็น เคาเตอร์ปูน และ ซิงค์ล้างจาน
advertisement
ฝั่งนี้ดูแล้วน่าจะจัดการได้ง่ายกว่าฝั่งเตา Gas เพียงแค่ต้องจัดระเบียบ แต่บนเคาเตอร์ ตรงมุมเครื่องปรุง ที่บ้านน้อง P ใช้อิฐมอญ 2 ก้อน มาวางและเอาแผ่นไม้มาวางเป็นชั้นเตี้ยๆ เพื่อวางของค่ะ ตรงจุดนี้ เนื่องจากมันสอดมือเข้าไปทำความสะอาดไม่ได้ พอยกของออกมาจึงได้พบเจอกับ เศษกระเทียม หอม และอาหารบางส่วนค่ะ ชั้นวางของด้านบนซ้าย มีกองกล่องใส่อาหารซ้อนๆ กันอยู่ ส่วนที่แขวนทัพพี ตะหลิว นี่ของเพียบ น้ำยาล้างจาน มีหลายขวดไปหน่อย
advertisement
เปิดตู้ด้านล่าง ตู้แรกเก็บจาน ชาม ถ้วยน้ำจิ้ม เอาไว้ ด้านล่างปูกระดาษหนังสือพิมพ์ เห็นน้อง P ว่าจานชามมีเยอะ แต่ใช้ไม่กี่ใบ ที่อยู่บนๆ
ตู้ด้านขวา เป็บพวก หม้อ ไห กระทะ บางชิ้นเก็บในถุงพลาสติกแต่ไม่ได้ใช้มานานแล้ว
advertisement
ขอทิ้งไว้ด้วยภาพ AFTER 1 ภาพนะคะ (ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง (รวมเวลานอน 6 ชั่วโมง))
ต่อเลยนะคะ เมื่อทั้งตาลและ น้อง P ขึ้นไปเปลี่ยนชุดเตรียมพร้อมในการทำความสะอาด ก็เริ่มเลยค่ะ โดยเริ่มจากการเอาบรรดาขวดเครื่องปรุง ลงมาจากชั้น เอาผ้าเปียกเช็ดๆ คราบมัน และเช็ควันหมดอายุ และ ปริมาณที่เหลือ (ถ้าเหลือน้อยจนเทไม่ออกแล้ว ก็โยนทิ้งเลย) ตอนเอาลงอาจเอาใส่ตะกร้า หรือ กะละมังไว้ก่อน จะได้ยกง่ายๆค่ะ
แกะกระดาษหนังสือพิมพ์ที่แปะไว้ข้างผนังออก เอาพวกกระทะ และถุงของถุง ที่แขวนอยู่ข้างผนังออก (กระทะเอาไปแช่ไว้เตรียมล้าง) หลักการที่ช่วยไม่ต้องให้เราทำงานหลายเที่ยวคือ ทำความสะอาดจากบนลงล่างค่ะ ดังนั้นเช็ดที่กำแพงด้านบนก่อน แล้วค่อยๆ ลงมาด้านล่าง ด้านบนอยู่ห่างเตา คราบน้ำมันไปไม่ถึงก็เช็ดง่าย
หลังจากนั้นถอดตะแกรงซี่ๆ ในส่วนของเครื่องดูดควันออกไปเช็ดล้าง (น้ำมันเหนียวมาก น้อง P ขัดซะกล้ามจะขึ้น) ส่วนในตัวที่ยึดไว้กับผนัง คุณแม่น้อง P มาช่วยตักคราบน้ำมัน (พอค่ำหน่อย คุณแม่กลับมาจากที่ทำงานแล้ว พอเห็นตาลมาช่วยคุณแม่ก็เปลี่ยนชุดมาช่วยด้วยอีกคน) ส่วนน้องของน้อง P ก็มาช่วยเช็ด โดยตาลเพิ่งทราบว่า น้ำยาเช็ดกระจกพอเอามาพ่นใส่ สแตนเลสแล้ว ความมันเช็ดออกง่ายมาก (ปกติใช้แต่น้ำยาทำความสะอาดคราบมันสำหรับครัวโดยเฉพาะ)
แล้วก็เช็ด ทำความสะอาดชั้นวางขวดเครื่องปรุง แต่ส่วนที่ยากที่สุดคือ โต๊ะไม้ที่วางเตา Gas (วางลงไปตรงๆ ไม่มีอะไรรอง คราบน้ำมัน หรือ เศษอาหาร) หลังจากยกเตาและถัง Gas ไปที่อื่น ก็เริ่มเลยค่ะ ขัดๆๆๆๆ ถูๆๆๆๆๆ ตรงนี้เสียฝอยขัดหม้อไปประมาณ 3 อัน เพราะคราบน้ำมัน มันมาเกาะที่ฝอยขัดหม้อแทน ล้างยังงัยก็ออกไม่หมด โต๊ะไม้ข้างๆ เตาที่เอาไว้วางของ ก็ต้องขัดเช่นเดียวกัน แต่ไม่สาหัสเท่า
advertisement
ขั้นตอนถัดมา คือ การกล่อมให้คนในบ้านน้อง P ทิ้งของที่ไม่จำเป็นค่ะ นี่ล่ะค่ะ เป็นปัญหาของทุกบ้าน (รวมถึงบ้านตาลเองด้วย) แต่ละคนย่อมมีของรัก ของหวง ทุกอย่างมีที่มาที่ไป มีความทรงจำไปหมด ของบางอย่างใช้งานไม่ได้แล้ว แต่เราผูกพันอ่ะ ตรงนี้ล่ะค่ะที่ตาลต้องให้เหตุผล และให้แนวทาง และที่สำคัญ นี่ไม่ใช่บ้านของตาล เป็นบ้านของครอบครัวน้อง P ตาลไม่อยากเข้าไป และไปชี้ว่าต้องทิ้งนู่น ต้องทิ้งนี่
แต่ตาลจะหยอดคำถามไปว่า อันนี้ยังใช้ได้อยู่ไหมคะ อันนี้หยิบ ออกมาใช้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่คะ โดยจะหยิบของขึ้นมา แล้วถามเจ้าของค่ะ ว่า เก็บ หรือ ทิ้ง ถ้าทิ้ง ตาลโยนลงถุงดำเลยค่ะ (ไม่ถามซ้ำเดี๋ยวเปลี่ยนใจเก็บอีก)ถ้าเก็บ ตาลจะพิจารณาก่อนค่ะ ว่าใช้ได้ไหม มีของแบบนี้อีกกี่ชิ้น หรือ มันมีคุณค่าเป็นของที่ระลึกจากต่างประเทศของบางอย่าง จาน ชาม รุ่นเก่า ก็แนะนำว่าเอาไปบริจาคคนอื่นดีไหมคะหรือ ที่รองของร้อน อันเก่า สนิมขึ้นแล้ว แต่พอค้นของไป ค้นมา เจอว่ามีที่ยังอยู่ในถุงอีกประมาณ 6 อันก็ต้องกล่อมให้ทิ้งของเก่า จะได้หยิบของใหม่มาใช้ (ไม่งั้นมันน้อยใจแย่เลยนะคะ)อีกอย่างที่เป็นเหตุผลที่ตาลให้คุณแม่น้อง P ไปก็คือ การเก็บของให้เป็นระเบียบเราต้องซื้อกล่องมาเก็บมันใช่ไหมคะ เดี๋ยวนี้กล่องพลาสติกกล่องนึงก็หลัก 200 บาทอัพถ้าแม่อยากเก็บของชิ้นนี้ไป ก็ต้องเสียเงินกับกล่องพลาสติกที่จะมาเก็บมันด้วยนะคะ(แต่เดิม ที่บ้านนี้เก็บของลงถุงพลาสติกค่ะ แต่ปรากฏว่าหนูมากัดถุงขาดไปหมดเลย)
สิ่งนึงที่ตาลโชคดี คือ เวลาตาลให้เหตุผล จะดูน่าเชื่อถือและ เค้าจะเชื่อตามส่วนนึงอาจเป็นเพราะ แม่น้อง P ได้ไปเห็นบ้านตาล และเห็นการจัดระบบระเบียบข้าวของภายในบ้านของตาลมาแล้ว(ตัวเราต้องทำให้ได้ก่อน ที่จะไปบอกให้คนอื่นเชื่อตาม)แต่การทิ้งของนี่ใช้เวลานานเลยค่ะ เรียกได้ว่า หยิบกันชิ้นต่อชิ้นเลย 55สุดท้ายของใหญ่ๆ ที่ทิ้งไปได้ คือ เครื่องซักผ้าเก่า เตาไมโครเวฟเก่า ฝาอบลมร้อนเก่า กาต้มน้ำร้อนเก่า เตาอบเก่า ขวดเหล้าเก่าที่เหล้าหมดไปแล้ว (ได้ข่าวว่า วันถัดมาเรียกซาเล้งมารับซื้อ ได้เงินคืนมา 2000 บาท)
หลังจากทำความสะอาดคราบน้ำมันบริเวณหลังเตาเสร็จ ก็ทำการติดสติ๊กเกอร์กันน้ำมันกระเด็นที่หลังเตาค่ะ อันนี้ช่วยกันกับ น้องของน้อง P (ตอนนั้นน้อง P นั่งขัดตะแกรงของเตาดูดควันอย่างเอาเป็นเอาตาย) สิ่งนึงที่ตาลพยายาม ดึงคนภายในครอบครัวน้อง P มาช่วย เพื่อให้เกิด ความรู้สึกผูกผันร่วมกันในการทำความสะอาดครั้งนี้ จริงๆ ตาลทำเองก็ได้ แต่เพราะตาลไม่ใช่คนที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ คนที่จะรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบให้อยู่ต่อไปได้ ก็คือ ทุกคนในครอบครัวน้อง P (ตาลอาศัยความที่ เค้าต้องเกรงใจคนนอกอย่างตาลที่ต้องมาทำนู่นทำนี่ มาเป็นแรงขับค่ะ – แผนสูงไปนิดไหมคะเนี่ย)
ว่าด้วยเรื่องสติ๊กเกอร์กันต่อ ตาลซื้อมา 2 แผ่นค่ะ พอดีเลย นอกจากจะช่วยเรื่องการทำความสะอาดคราบน้ำมัน และ มันยังช่วยตกแต่ง เปลี่ยนบรรยากาศ ให้ห้องครัวนี้สดใสอีกด้วยค่ะเตา Gas ก็ใช้แผ่นอลูมิเนียมฟอยด์ (ที่น้อง P ซื้อมาไว้หลายปี แต่ยังไม่มีโอกาสใช้ มาใช้เสียที) รองที่หัวเตาโต๊ะไม้ ที่กว่าจะขัดคราบออก ตาลลมแทบจับ ก็เอาแผ่น (เรียกไม่ถูกว่าอะไรที่สีเงินๆ หนาๆ หน่อย) มารอง จะได้ทำความสะอาดง่ายๆพอทำเสร็จ น้อง P ก็ขัดตะแกรงเครื่องดูดควันเสร็จพอดี พอประกอบร่าง ก็โอ้ว เหมือนใหม่เลย
ก็ไม่ถึงกับเก่งหรอกค่ะ คุณนางฟ้า แต่ทำเท่าที่เวลาจะมีค่ะ ถัดมา โต๊ะข้างๆ เตา Gas ที่เอาไว้วางของ ก็ต้องเอาคราบน้ำมันออกไป เอาที่วางของร้อนอันใหม่มาใช้ (อันเก่าบังคับให้โยนทิ้งไป แหะๆ ) เที่ยงวันเสาร์ ขับรถไปห้าง ซื้อ กล่องพลาสติก และ พลาสติกใส มาเลยเอามาตัดคลุมโต๊ะ ด้านล่างโต๊ะมีชั้นอยู่ก็เอาไว้เก็บของบางอย่าง
advertisement
ด้านล่างเดิมมี ถุงใส่เกลือ ถุงใส่ถ่าน เตาถ่าน แต่มันไม่เป็นระเบียบ ตอนไปห้าง มีร้าน 20 บาท อยู่ ตาลเลยซื้อ ถังที่มีฝาปิดสีดำ (คล้ายๆ ถังขยะ) เอามาใส่ถ่าน ส่วนเกลือ ก็เอาเป็นถังสีขาว (ที่มีอยู่เดิม แต่ทำความสะอาดหน่อย) มาใช้งานค่ะ [ads]
ต่อมา บนชั้นวางเครื่องปรุง ด้วยความที่ตาลชอบเก็บอะไรเป็นเซตๆ ชอบจัดหมวดหมู่สิ่งของที่เหมือนกันให้อยู่ในที่เดียวกัน แต่ชั้นวางเครื่องปรุงนี้ เราจะจับยัดๆ ลงไปตามความต้องการของเราไม่ได้เด็ดขาด เพราะเราไม่ได้เป็นคนเข้าครัวนี้ สิ่งที่ตาลทำคือ พอยกตะกร้าเครื่องปรุงที่เก็บออกไปในตอนแรกมาวางใกล้ๆ แล้วก็ ให้คุณแม่น้อง P มาอยู่ใกล้ๆ แล้วบอกตาลค่ะ ว่า เครื่องปรุงไหนสำคัญที่สุด ใช้บ่อยที่สุด ให้มาใส่ตะกร้านี้ พอแม่บอก น้ำมันพืช ตาลก็เอาน้ำมันพืชที่ยังใช้ไม่หมดไว้ในตะกร้าแรกค่ะ แต่น้ำมันพืชมี spare อยู่อีกขวด เลยเอาไปไว้ตะกร้าหลังสุด ถัดมาก็น้ำปลา น้ำมันหอย และ น้ำตาลทราย ก็ทำไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย ระหว่างนั้นให้แม่เช็คว่า ขวดไหนหมดอายุบ้างไปด้วย พร้อมเช็ดขวดให้สวยงามเนื่องจากตะกร้าแคบ ด้านหน้าเลยพอมีที่วาง เลยเอาพวก ที่จุดเตา หรือ ขวดพริกไทยที่เล็กๆไปวางตรงขอบได้ตอกแรกแม่ถามตาลว่าทำไมไม่เอาตะกร้าที่สูงๆ มาใส่ใบแรกๆ ล่ะตาลให้เหตุผลไปว่า ถ้าตะกร้ายิ่งสูงแม่ยิ่งต้องยกขวดสูง อาจทำให้เมื่อยได้ค่ะ แม่เลยเข้าใจแต่ถ้าตะกร้าเตี้ยไป เวลาใส่ขวดที่มีความสูงมันก็จะเสียวๆ จะร่วงหน่อยด้านบนซื้อที่แขวนของมาติด (ใช้กาว 2 หน้าแปะ เลยเลือกทัพพี ตะหลิว ที่เบาๆ หน่อยมาแขวนค่ะ)เพราะฝั่งตรงข้าม ที่แขวนของแน่นไปหน่อย
จัดเสร็จฝั่งนึงแล้ว ออกมาเป็นประมาณนี้ค่ะ
เสร็จไปฝั่งนึง มาฝั่ง Counter บ้าง เหมือนเดิมค่ะ เราต้องเก็บของก่อน เก็บทับเปอร์แวร์ ให้ไปอยู่ที่เดียวกัน เก็บเครื่องครัวที่แขวนๆ อยู่มาทำความสะอาด พวกที่ใส่ตะหลิว ทัพพี ก็ต้องเอามาล้างทำความสะอาด เพราะมักมีเศษอะไรไม่รู้อยู่ที่ก้นกระป๋อง ขนาดรุ่นที่เป็นรูๆ ยังเป็นคราบเลยค่ะ และนำเอามาแยกประเภท อันไหนแขวนได้ ก็แขวน (บางส่วนไปอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วเลยไม่ค่อยแน่น จริงๆ อยากให้เก็บไปบางส่วนเพราะซ้ำกันหลายอันเหลือเกิน)
น้ำยาล้างจานก็เอามาใส่ในตะกร้า (ขออภัยที่เรียกทุกอย่างเป็นตะกร้าไปหมด ตาลไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดีค่ะ)แต่บอกไปว่า ให้เหลือน้ำยาล้างจานแค่ขวดเดียวพอ โดยเลือกขวดที่สวยที่สุดเอาไว้ ส่วนน้ำยาล้างมือ ก็เอาไว้ส่วนน้ำยาทำความสะอาดคราบมันอาจเอาไว้ที่อื่นก็ได้ เพราะไม่ได้ใช้บ่อยแต่ถ้าไม่มีที่ ก็เอาไว้ก็ได้ไม่เสียหายที่ใส่สกอตไบร์ทให้หมั่นเทน้ำออก หรือ บิดให้หมาดก่อนวางลงไป ไม่งั้นมันจะสะสม (พวกที่รองสบู่ก็เหมือนกันค่ะ บางทีมันมีน้ำสบู่ขังอยู่ด้านล่าง นานๆ ไปก็ไม่ดี)
ถัดมาเอาชั้นไม้ที่รองด้วยอิฐมอญออกไป ทำความสะอาด และเอามาวางบนถาดแทน (ถาดบ้านนี้ก็เยอะค่ะ เลยเอามาใช้ประโยชน์) ที่เอาถาดมาเพราะถ้าใช้แบบเดิม ก็ต้องมีเศษอาหารตกลงไป มือก็ยื่นเข้าไปทำความสะอาดไม่ได้ สุดท้ายก็จะรกอีกส่วนหม้อหุงข้าวนี้ ถามแม่ว่า ยังใช้ได้อยู่ไหมคะ แม่บอกว่า ใช้ได้ หม้อนี้ตั้งแต่แม่แต่งงาน แต่ตอนนี้เอาไว้หุงข้าวให้สุนัข ห้ามทิ้งเด็ดขาดตาลก็ โอเค วางตรงนี้ ตรงที่มันอยู่ แต่บอกแม่ไปว่า ถ้าตอนที่ไม่ใช้งาน และแม่อยากให้ครัวสวยๆ ก็หาผ้าคลุมน่ารักๆ ซักผืนมาคลุมก็ได้ค่ะ
ตะกร้า กระจาดรุ่นเก่า ก็เอาเก็บล้างและเก็บไว้ในที่เดียวกันพวกถุงพลาสติก (ถุงร้อนที่เอาไว้ใส่กับข้าว) หนังยาง ก็เก็บไว้ในกล่องขาวๆ ที่มีฝาปิดบนชั้นไม้
แอบแซวแม่ไปว่า แม่ขา หม้อหุงข้าว(สุนัข)นี้ ถ่ายรูปออกมาไม่สวยคุณแม่น้อง P น่ารักมาก ไปยกหม้อหุงข้าวอีกอันมาให้ถ่าย (หม้อนี้คนทานค่ะ) อิอิ
แอบชอบตะกร้าสมัยนี้สีสันสดใส ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆ เม็ดพลาสติกจะเป็นอีกแบบสีเข้มๆ พอเปลี่ยนเป็นสีๆ สดใส ก็ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับห้องครัวได้นะคะ
ตู้ซ้ายเก็บจานชามและถ้วยต่างๆ ตาลก็เอากล่องพลาสติกที่ซื้อมาจากห้างมาใส่ค่ะโดย จานชามพวกที่ นานปีทีหนใช้ที หรือ เอาไว้เวลาจัดงานเลี้ยง ตาลให้ไปเก็บไว้อีกที่ค่ะหรือพวกจานชาม ความทรงจำในอดีต ก็ให้เก็บไว้อีกที่เช่นเดียวกันตรงนี้อยากให้เป็นเซตที่ใช้งานบ่อยๆ สำหรับครอบครัวน้อง P ทำกับข้าวเสร็จจะได้หยิบจานมาใส่ได้เลยในรูปนี้ผิด Concept ตาลนิดนึงนะคะ เพราะถ้าเราเอาจานที่ใช้ประจำทั้งหมดใส่ลงไปในกล่องแล้วห้ามมีอะไรวางบนฝาค่ะ ไม่งั้นหยิบทีนึง ก็ต้องยกของทีนึงตาลตั้งใจให้เอาจานเซตที่ใช้ประจำสุดขึ้นมาวางบนฝา (จะได้หยิบใช้ได้เลย)ส่วนจานที่ใช้บ่อยรองลงมา หรือ จานสำหรับอาหารบางประเภท ก็ใส่ไว้ในกล่องพลาสติกได้
กล่องด้านขวาเอาไว้ใส่ชาม ก็หลักการเดียวกันค่ะตรงกลางช่องว่างระหว่างกล่องให้วางถ้วยน้ำจิ้มแทนพอ เราเอาของเข้ากล่องแล้ว พื้นกระเบื้องสะอาดแล้วก็ไม่ต้องเอากระดาษหนังสือพิมพ์รองอีกต่อไปค่ะ (ดูสะอาดและเป็นระเบียบขึ้นเยอะเลย)
ตู้ด้านขวา ที่เอาไว้เก็บหม้อ ไห กระทะ ตู้นี้ลำบากกว่าอีกตู้เพราะด้านบนเป็นซิงค์ล้างจาน ทำให้ด้านล่างมีท่อทางเดินอยู่ ทำให้กล่องที่ซื้อมาใส่เกินไป เลยอาศัยวางซ้อนๆ กัน อย่างมีระบบเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยตอนนี้ แม่ก็รู้แล้วว่าชั้นมีกระทะใบไหนบ้าง หม้อใบไหนบ้างที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้ใช้ (ถ้ามีโอกาส อย่าลืมซื้อกล่องมาใส่นะ น้อง P วัดความลึกไปก่อน ไม่งั้นปิดตู้ไม่ได้)
และแล้วห้องครัวก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ในเมื่อไม่มีภาพ Before ก็เป็นภาพ After ไปเลยนะคะ
ที่คว่ำแก้วสีฟ้า แบบ 2 ชั้น ตาลกับ น้อง P ไปซื้อกันมาค่ะ โชคดีห้างนั้นฉลอง 20 ปีลดราคาพอดีเลยประหยัดไปได้อีก ที่ตาลแนะนำแบบ 2 ชั้นเพราะจะได้พื้นที่ในการเก็บค่ะ โดยด้านล่างจะมีถาดรองน้ำอยู่เพื่อไม่ให้น้ำเลอะ ถ้าเห็นสกปรก ก็ยกถาดไปเทได้ แต่ส่วนมากมันจะระเหยไปเองค่ะ
ภาพรวมๆ ที่ตาลแสนจะภูมิใจ พอมาถึงตรงนี้ คุณแม่น้อง P ดีใจมาก บอกว่าเหมือนแม่มีบ้านหลังใหม่เลย ขอบใจตาลมากๆ เลยลูก.. (ไม่เป็นไรค่ะแม่ แค่เห็นน้อง P และครอบครัวมีความสุข มีความรู้สึกที่อยากจะอยู่ห้องนี้ มีความรู้สึกที่อยากจะแต่งห้องนี้ ตาลก็ดีใจแล้วค่า (อันนี้ไม่ได้บอกออกไป แค่คิดในใจ)
ภาพสุดท้าย จริงๆ มุมนี้ น้อง P และคุณแม่ช่วยกันเก็บทำความสะอาดและ ยกชั้นวางของนี้มาจากอีกห้องนึง ซึ่งดีมากๆ เลยค่ะ เพราะห้องนี้เพดานสูง จะได้เก็บของแนวตั้งได้เยอะๆ (โชคดีที่ อันนี้น้องเก็บมาล่วงหน้า ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว) ตาลเลยเอา เส้นเถาวัลย์ผลไม้พลาสติก(ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี) ที่ซื้อมาจากร้าน 25 บาท ไปพัน ตรงเสา มันจะได้ไม่ดูแข็งกระด้าง เห็นเหล็กฉากเป็นเส้นๆ เกินไป ก็สวยไปอีกแบบนะคะ (ชมตัวเองอีกแล้ว 55)
ลาด้วยภาพ Before – After สุดท้ายค่ะ
เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมห้องครัวใหม่ให้น่าใช้งานมากขึ้น โดยการเริ่มจัดระเบียบ และทิ้งสิ่งของที่ไม่ได้ใช้โดยการนำเอาไปขายเปลี่ยนเป็นเงิน หรือบริจาค ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ
ขอขอบคุณที่มาจาก : taljang