ชาวนาเช็กเงินในบัญชี เริ่มโอนส่วนต่างประกันรายได้งวดแรก

advertisement
เป็นข่าวดีของชาวนาอย่างมาก เมื่อวันที่ 9 พ.ย.64 รัฐบาลพร้อมจ่ายงวดแรก ส่วนต่างประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 492,571 ครัวเรือน
สำหรับการประกันรายได้ให้แก่ชาวนา มติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ( ธ.ก.ส.) ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอุทกภัย โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ
advertisement

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 โดยกำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว ดังนี้
– ข้าวเปลือกหอมมะลิ 10,864.23 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 4,135.77 บาท
– ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 10,407.75 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,595.25 บาท
– ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 9,947.87 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,052.13 บาท
– ข้าวเปลือกเจ้า 8,065.38 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,934.62 บาท
– ข้าวเปลือกเหนียว 7,662.53 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 4,337.47 บาท
advertisement

สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย
advertisement

โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวและคำนวณปริมาณผลผลิต โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวแต่ละชนิดคูณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เป็นปริมาณผลผลิตที่ต้องชดเชย แต่ต้องไม่เกินปริมาณที่กำหนดไว้
advertisement

นอกจากนี้ยังมีมาตรการคู่ขนาน โดยให้เกษตรกรรวบรวมจัดเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง ซึ่งจะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท และรับซื้อข้าวเปลือกกับสหกรณ์และโรงสีเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดยชดเชยดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 2-6 เดือน สำหรับโรงสี และ 1 ปี สำหรับสหกรณ์
ขอขอบคุณที่มาจาก : news.ch7.com