ชีวิตเริ่มใหม่ของคนวัย 40 ที่โดนโกงและล้ม ตั้งหลักใหม่จนมีเงินเก็บเป็นล้าน
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2020/09/เงินล้าน-1-1024x512.jpg)
advertisement
คุณ สมาชิกหมายเลข 6106446 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาตั้งกระทู้เล่าประสบการณ์ชีวิต โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุรายละเอียดว่า 'วิตเริ่มใหม่ ของคนวัย 40 แบบผม และหลักการเก็บเงินล้านใน 30 เดือน'
advertisement
![เก็บเงิน-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2020/09/เก็บเงิน-1-2-1024x468.jpg)
ก่อนอื่นแนะนำตัวคร่าวๆ ก่อน ผมเป็นชายไทยอายุตอนนี้ก็ 42 ปีแล้วครับ เป็นคนใต้ ตอนนี้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ก็ขอย้อนความหลัง ตอนอายุ 39 ปี ตอนนั้นอยู่บ้าน ทำงานช่วยพ่อเปิดอาหารตามสั่ง ได้ค่าแรงวันละร้อย กินอยู่ข้างในบ้าน มีเงินเก็บสมัยทำงานออฟิศและลงทุนนั้นนี่ ราว ล้านนึงนิดๆเศษสักแสนบาทได้ ตอนอายุ 39 ได้ไปลงทุนแล้วโดนรุ่นน้องโกงจนหมดตัว ประจวบกับพ่อป่วยเป็นมะเร็งระยะสามเข้าสี่ ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล กฌได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ตอนแรกๆก่อนโดนโกง ยังมีเงินไปนอนพักตามโรงแรม กินอาหารดีๆ ไปเฉลี่ยเดือนละ1-2ครั้งแต่เหมือนกรรมตัวเอง โดนโกงเงินหมด มีหนี้แถมมาในเวลาไม่กี่เดือน จากโรงแรม ต้องพาพ่อเข้ารักษา 30บาท นอนวัดตรงข้ามโรงพยาบาลคืนละ 5 บาท กินอยู่อย่างประหยัด กินอาหารแจก เครียดจนขนาด คิดสั้น แต่มาคิดถึงพ่อได้ว่าถ้าเราตาย พ่อก็คงไม่มีคนดูแล เราตายไปเงินก็ไม่ได้กลับมา ก็เลยล้มเลิก แล้วรักษาจนพ่อเสียตอนกุมภาปี61 อายุผมจะครบ40 ปี หลังจากพ่อเสีย ผมต้องเริ่มคิดใหม่ ทำใหม่ เงินที่เคยมี เคยเปิดร้านของตัวเอง ก็ไม่มีแล้ว มีหนี้อีกพอควร
ก็ได้เริ่มใหม่มาสมัครงาน ที่นนทบุรี งานที่ได้ทำคือเป็นพนักงานจัดซื้อ (ไม่เคยทำ เคยทำงานแต่ด้านคอมพิวเตอร์ เซลล์ขายสัญญาณไฟและคอมพิวเตอร์โรงงานมา) ก็ได้เริ่มชีวิตใหม่ ในงานใหม่ที่ไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ ตอนมานนทบุรี มีเงินติดตัวมาหมื่นกว่าบาท จ่าค่าเช่าห้องล่วงหน้า ค่านั้นนี่ เหลือพอใช้ในเดือนแรก ราวๆ5000 บาท อย่างแรกคือ จดบันทึก รายรับจ่าย จำกัดค่าใช้จ่าย ว่า กินได้วันละ100-120 บาทกับอาหาร 3มื้อ แบ่งเงินไว้ฉุกเฉิน 1000 บาท เมื่อทำงานมาครบ1เดือน ได้เงินเดือนมา ก็ทำการจัดการ แบ่งเงิน ออกเป็นส่วนๆ
1.เงินเก็บ
2.ใช้หนี้
3.เค่าห้อง ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
4.ส่วนค่ากินใช้เท่าเดิม คือวันละ 100 บาท
5.หางานพิเศษทำ รายได้พิเศษ
advertisement
![เก็บเงิน-2](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2020/09/เก็บเงิน-2.jpg)
เรื่อยมาจนตอนนี้ผมอายุ 42ปีกว่า ย้ายงานมาทำเป็นพนักงานฝ่ายไอทีในปัจจุบัน และมีเงินเก็บครบ 1 ล้านบาท ในเดือน สค.ปีนี้ โดยไม่มีต้นทุนทางสังคม ชื่อเสียงหรือมีธุรกิจรองรับ อะไรเลย ได้เจอและได้พบ กับสิ่งต่างๆ คนหลากหลายประเภท มีทั้งดี เลว ปะปนกันไป การปรับความคิด เข้าใจในชีวิต การต่อสู้กับสิ่งต่างๆที่มาอย่างยากลำบาก อยากมาแชร์ให้กับ คนหลายๆคนให้ฟังว่า คนเรา ล้มได้ เมื่อล้ม จงมีสติ มันทำได้ยาก แต่อยากให้มี ต้องมีจิตใจที่สู้ เข้มแข็ง มีวินัยในตัวเองไม่ยอมแพ้ ให้กับ ตัวเอง สิ่งรอบข้าง คิดบวก ว่าล้มตอนนี้ดีกว่าล้มตอนแก่กว่านี้ที่เราไม่มีแรง ลุกขึ้นมาแล้ว และมองแบบคิดได้ ปล่อยวางว่าอาจเป็นบุญ กรรมเก่า ที่เราเคยทำไว้ เราจะได้ไม่คิดแค้นเรื่องที่ผ่านมาหลักการเก็บเงิน ของผม เริ่มจาก ติดลบ (ขอไม่บอกยอดนะครับ แต่ไม่มากไม่น้อย)
1.ต้องจดรายรับจ่าย เพื่อเราจะได้รู้นิสัยการใช้เงินของตัวเราเอง ว่าหมดเงินไปกับอะไรแนวไหน จะประหยัด จะลดค่าใช้ต่ายตรงไหนไปได้บ้าง โชคดีผมทำมาตั้งแต่ผมยังเด็กๆแล้ว
2.แบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เงินเก็บ เงินใช้หนี้ ค่าใช้จา่ายที่จำเป็นต่างๆก่อน ห้ามมาปะปนกัน ต้องใจแข็ง ด้วยนะที่ตั้งใจออมก็อย่าไปยุ่งกับมัน มีมากพอก้อนำไปลงทุนต่อ
3.กำหนดการใช้จ่ายของตัวเรา เพราะการกำหนดค่าใช้จ่ายตัวเองนั้น ง่ายกว่าการไปหารายได้เสริมมาก
4.ขั้นตอนสุดท้าย ถึงจะไปหารายได้เสริม รายได้สองทางสามทาง แล้วมีวินัยในการใช้จ่าย การเก็บ แล้วเงิน ล้านนึงก็จะเขามาในสักวัน
การเก็บให้เป็นนั้น ผมมองว่า สำคัญกว่าการหารายได้เสริมเพราะถ้าไม่รู้จักเก็บ หาให้ตายมันก็คงเก็บไม่ได้ ส่วนแต่ละคนจะเก็บไว้เป็นเงินสด แบบผม หรือแปรเป็น ทอง บ้าน รถ ก็ได้นะครับ ที่สำคัญที่ต้องจำและทำให้ได้คือ ต้องเริ่มเก็บให้ได้ให้เป็น ต้องเริ่มทำครับ แล้วจะสำเร็จได้ในสักวันนึง
ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 6106446