เตือนอย่าด่วนตัดสินใจ ซื้อคอร์สความงาม ให้เช็คแพทย์/สถานพยาบาลก่อน

advertisement
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เตือนประชาชนอย่าด่วนตัดสินใจซื้อคอร์สความงาม จากสถานพยาบาลที่ให้บริการเสริมความงาม ขอให้ตรวจสอบสถานพยาบาลว่าขึ้นทะเบียน และแพทย์ที่ให้บริการก่อนทุกครั้ง ว่าได้มาตรฐานตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ ทางเว็บไซต์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และแพทยสภา เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ตนเอง ไม่ตกเป็นเหยื่อของหมอเถื่อน สถานพยาบาลเถื่อน
advertisement

นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ ธุรกิจความงามเป็นกิจการที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่าธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม ยังเป็นธุรกิจอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ในปี 2560 และด้วยกระแสนิยมความงามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด จะช่วยให้ชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ อย่างไรก็ตามจากกระแสนิยมนี้ ก็มักมีผู้ฉกฉวยโอกาส เพราะเห็นแก่รายได้ โดยเฉพาะบริการที่เป็นคอร์สต่อเนื่องกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการรักษาผิวหน้า ลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด และมักจะแข่งขันกันที่ราคา ซึ่งหลายคนอาจตัดสินใจซื้อโดยมิได้ไตร่ตรองก่อน อาจมีความเสี่ยงรับบริการจากผู้ที่ไม่มีความรู้ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำให้เกิดผลเสีย ทั้งติดเชื้อ อักเสบ เสียโฉมซึ่งยากต่อการแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิม สร้างความทุกข์ทรมานในการดำเนินชีวิต[ads]
advertisement

ในส่วนของแพทย์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบริการในสถานพยาบาล จะต้องแสดงหลักฐานการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ เช่น ชื่อ-นามสกุล และรูปถ่ายที่หน้าห้องตรวจในใบผู้ประกอบวิชาชีพซึ่งต้องตรงกับแพทย์ผู้ให้บริการในขณะนั้น และก่อนรับบริการตามที่นัดหมายทุกครั้ง ขอให้ตรวจสอบชื่อที่เว็บไซต์แพทยสภา ซึ่งจะแสดงสาขาความเชี่ยวชาญของแพทย์ และปีที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งหากไม่พบหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งแสดงว่าสถานพยาบาลแห่งนี้อาจใช้หมอเถื่อนให้บริการ ขอให้งดรับบริการ และให้แจ้งมาที่เฟซบุ๊ค สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน หรือที่สายด่วน 02 193 7999 กรม สบส. จะดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที
ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (สพรศ.) กล่าวว่า สถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแต่ใช้หมอเถื่อนให้บริการจะมีโทษตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ที่ปรับปรุงและแก้ไข ฉบับที่ 4 ฐานให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ผู้ดำเนินการมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนบุคคลที่แอบอ้างตนเป็นแพทย์จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรรม 2525 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข