ดื่มน้ำอย่างไร ..ให้สุขภาพดี?

    เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย มีอยู่ทั้งในเลือดและน้ำย่อย แล้วยังช่วยในการควบคุมอุณภูมิของร่างกายด้วย หากว่าร่างกายขาดน้ำทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ เป็นสาเหตุให้ร่างกายอ่อนแอ ป่วยได้ง่ายๆ และอาจส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิตได้!! ดังนั้นวันนี้ ด้วยคำถามที่ว่า คุณดื่มน้ำได้เพียงพอและเหมาะสมหรือยัง? ซึ่งหลายๆ คนก็ยังสงสัยและไม่มั่นใจอยู่ Kaijeaw.com มีคำตอบ ดื่มน้ำอย่างไร ให้สุขภาพดี? มาฝากกันค่ะ

>> ปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้แต่ละวัน
    – ผู้หญิง ควรดื่มวันละประมาณ 9 แก้ว หรือ 2.2 ลิตร 
    – ผู้ชาย ควรดื่มวันละประมาณ 13 แก้ว หรือ 3 ลิตร 
การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียในร่างกายทำงานได้ดี ส่งเสริมระบบเผาผลาญ สุขภาพของเซลล์ในร่างกาย

[ads]

>> น้ำที่ควรดื่ม
     ที่ดีที่สุดคือน้ำที่สะอาด เพราะหากดื่มน้ำไม่สะอาด อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่นอาจทำให้อุจจาระร่วง หรืออาจได้รับสารเคมี โลหะหนัก ที่ปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งส่งผลต่อตับ ตับอ่อน ไต กระเพาะปัสสาวะ ที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้

>> เวลาที่เหมาะสมในการดื่มน้ำ
     – เมื่อตื่นนอนควรดื่มน้ำทันที 1 แก้ว เพื่อลดความเข้มข้นของเลือด เติมน้ำที่ขาดไปในช่วงเวลาที่นอน และช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในให้ตื่นตัว
     – เวลา 9-10 โมงเช้า ดื่มน้ำ 2 แก้ว เพื่อชำระของเสียออกจากร่างกาย
     – 1/2 แก้ว ก่อนอาหาร 15 นาที ช่วยให้ระบบการย่อยดีขึ้น ผู้ที่ลดน้ำหนักสามารถดื่มน้ำ 1-2 แก้ว 30 นาทีก่อนมื้ออาหาร
     – 1/2 แก้ว หลังอาหาร 40 นาที ช่วยระบบย่อยอาหาร แต่ไม่ควรดื่มน้ำเกิน 1 แก้ว เพราะจะไปเจือจางน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและไม่ควรจิบน้ำไปทานข้าวไป
     – ระหว่างวันให้จิบน้ำทีละนิดตลอดวัน เพื่อเซลล์ในร่างกาย จะดูดซึมน้ำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เป็นการเพิ่มภาระให้กับระบบขับถ่าย และระบบย่อยอาหาร เพราะหากดื่มน้ำครั้งละมากๆ ร่างกายจะดูดซึมไม่ทัน และจะขับออกมาเป็นปัสสาวะ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกหิวน้ำอยู่บ่อยๆ
     – ก่อนเข้านอน ดื่มน้ำ 1 แก้ว ช่วยหลีกเลี่ยงภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หรือหัวใจวาย และช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร แต่ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่า 1 แก้ว เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักในระหว่างหลับ และตื่นมาปัสสาวะเป็นสาเหตุทำให้นอนหลับไม่สนิท

>> ภาวะร่างกายขาดน้ำ
     การที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ร่างกายได้รับ ซึ่งถ้าหากขาดน้ำมากๆ และไม่ได้รับการทดแทนอย่างเพียงพอในเวลาที่เหมาะสม ก็มีผลเสียต่อร่างกาย สังเกตอาการที่ร่างกายขาดน้ำ ได้ดังนี้
       – ปวดศรีษะ ปวดตุ๊บๆ เหมือนปวดเกร็งตรงบริเวณขมับ 
       – ปากแห้ง คอแห้ง ผิวแห้ง
       – เกิดร้อนใน เป็นแผลในปาก
       – แขนขาอ่อนแรง
       – สีปัสสาวะจะเหลืองเข้ม

ถ้าดื่มน้ำมากหรือน้อยไปจะเป็นอย่างไร?
    >> ไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัด
      เพราะจะส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร เป็นผลให้ร่างกายอ่อนแอ ทางที่ดี ควรดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำ เพื่อช่วยขับเหงื่อออกจากร่างกาย
    >> ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสจัดเกินไป
      เพราะจะทำให้รู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ อีกทั้งการดื่มน้ำมากเกินไป จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับระบบขับถ่าย

[ads]

ข้อแนะนำเพิ่มเติม
    – นมเป็นอาหารไม่ใช่น้ำดื่มจึงไม่ควรดื่มนมทดแทนการดื่มน้ำเปล่า
    – ผู้ที่ทานยาที่ระคายเคืยงต่อกระเพราะอาหารหรือยาปฎิชีวนะควรดื่มน้ำตามมากๆ
    – เมื่อมีปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นควรดื่มน้ำให้มากขึ้น
    – น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำเปล่าอุ่น หรือน้ำเปล่าธรรมดา เพราะน้ำเย็นทำให้ปัสสาวะบ่อย ไม่เหมือนการจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ ทำให้ยืดเวลาในการเข้าห้องน้ำนานขึ้น

      รู้แบบนี้แล้ว อย่าละเลยที่จะดื่มน้ำกันนะคะ คุณอาจเลือกทานน้ำผัก น้ำผลไม้คั้นสดๆ น้ำมะพร้าว หรือน้ำแร่ได้ ด้วยคุณประโยชน์และสารอาหารที่แตกต่างกันไป แต่อย่าลืมว่า น้ำเปล่าที่สะอาด ดีที่สุดค่ะ สังเกตว่าการดื่มน้ำอย่างพอเพียงช่วยให้สุขภาพดี ส่งผลสู่ภายนอก ผิวหนังเต่งตึง หน้าตาดูสดชื่นแจ่มใส สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยน้ำเปล่าค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com