ตั้งเป้าเก็บเงิน 10 ล้านก่อนอายุ 30 พร้อมเผยถึงความพยายาม
advertisement
เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีเป้าหมาย หรือตั้งเป้าในชีวิต อาจจะเป็นเรื่องครอบครัว เรื่องงาน เรื่องเงิน หรือเรื่องสุขภาพ แล้วแต่ว่าจะมีเป้าหมายแบบไหนกันบ้าง
โดยล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ Varisa Maneetavat ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวพร้อมระบุว่า " “10 ล้านก่อนอายุ 30” เป้าหมายที่เคยตั้งไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ในวันนี้ เราอายุ 29 กำลังจะใกล้ความจริง..
advertisement
เราเข้ามาในห้องออมเงิน ตั้งแต่ตอนกำลังพยายามอย่างมากในการเก็บเงินล้านแรกเมื่อ 6 ปีก่อน (พ.ศ.2559) นานมากกกก ตอนนั้นอายุ 23 ปี ช่วงนั้นกำลังจะเรียนจบค่ะ เราทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เป็นเซลล์ขายแอร์ ขายโน๊ตบุ๊ค ขายขนม ขายเคสมือถือ ขายกระเป๋ารองเท้า อยู่ในร่างเดียว และเรียนคณะเภสัช ซึ่งเรียนหนักมากทั้งวัน พอเลิกเรียน เอาเวลาว่างมาขายของ
ก่อนมีพิมรี่พายขายทุกอย่าง ก็มีวริศาค้าทุกอย่าง ถือกำเนิดมาก่อน รู้สึกตัวเองเป็นยอดมนุษย์
advertisement
#ไม่เคยลงทุนซื้อของมาขายเลยสักบาท อ้อเป็นคนประเภทกลัวขาดทุนมาก บาทเดียวก็ไม่อยากให้เสี่ยง เลยเป็นเซลล์เท่านั้นเลยค่ะ ถามว่าเป็นได้ยังไง โทรไป อีเมลไป หรือแม้กระทั่งเดินเข้าไปในร้าน ไปขอเป็นเซลล์ง่ายๆ ซื่อๆ เลย
– โดยเฉพาะร้านเคสมือถือ เราเดินเข้าไปขอเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกของ เจ้าของยังงงๆ อยู่เลย เราบอกว่าขอถ่ายรูปของในร้าน เดี๋ยวเปิดตลาดออนไลน์ให้ สรุปพอเปิด IG ขายออนไลน์ (ช่วงนั้นแทบจะยังไม่มีคู่แข่ง) ขายดีปังปุริเย่
– ขายแอร์ ก็เป็นตัวแทน เดินแจกใบปลิวตามทาง ไม่ได้ผล ไม่มีใครสนใจ ก็เปลี่ยนวิธีการหาพวกหอพักเปิดใหม่ในอินเทอร์เน็ต ไปเสนอราคาเค้า ขายได้ทีละเยอะๆ ได้ค่าคอมมารัวๆ
– ขายโน๊ตบุ๊ค ไปหาค่ะว่ามีคนที่เค้าชอบอุปกรณ์ IT รวมตัวกันอยู่ในเว็บไหน นี่ก็เข้าไปโปรโมท ลงรีวิว ขายได้เป็นร้อยเครื่องเลยค่ะตอนนั้น ขายปลีกนะคะ แต่ขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่รีวิวให้ เลยน่าเชื่อถือขึ้นมา ราคาต่ำกว่าตลาดนิดหน่อยค่ะ
advertisement
– ขายกระเป๋ารองเท้า เป็นแอดมินเพจ ได้ค่าคอม ตอบสีตอบไซซ์ สนุกมาก เหมือนได้เลือกสิ่งสวยๆ งามๆ ให้เข้ากับลูกค้าแต่ละคน ที่ไม่เหมือนกัน
ย้ำ ทั้งหมดที่พูดมา เป็นแค่เซลล์นะคะ ไม่เคยลงทุนด้วยเงิน (แต่ลงแรง) ทำให้ เก็บเงินล้านแรกได้ก่อนเรียนจบ ตอนอายุ 24 ค่ะ ใครฟังแล้ว ฟังอีกนะคะ ชอบที่จะเล่าค่ะ ภูมิใจมากจริงๆ กับล้านแรก ล้านแรกมา..วิธีการมา Mindset แข็งแกร่ง พอเรียนจบก็เป็นพนักงานเงินเดือน แต่ก็ยังขายของอยู่ต่อไป เป็นคนรับทุกโอกาสที่เข้ามา เชื่อว่าต้องลองก่อน ไม่สำเร็จค่อยว่ากัน
เห็นทำงานหลายอย่าง บางอันเจ๊งก็มีค่ะเรื่องปกติ เคยเปิดร้านเบเกอรี่ออนไลน์ค่ะ แบบว่าจะส่งออเดอร์เค้กสั่งทำ หรือจัด setbox ของว่างเบรก แต่ไม่สำเร็จ ก็ปิดไปไม่เป็นไร แค่นั้นเอง (ไม่ได้ลงเงินอยู่แล้ว แหะๆ)
“ขยัน” มาโดยตลอด คำเดียวค่ะ ขนาดตอนเป็นเภสัช ยังซื้อเวร ทำงานจนค่ำๆ 2-3 ทุ่ม แต่ไม่ไหวจริง ช่วงนั้นเกือบเป็นโรคกระเพาะ อย่าเอาร่างกายไปแลกเลยค่ะ ทำที่ไหว หาช่องทาง แล้วประหยัดค่าใช้จ่ายเอา วันนี้ใกล้ 10 ล้านจริงๆ แล้ว แต่ก่อนก็อย่างที่เห็น ทำงานหลายอย่างมาก ใครเคยตามอ่านโพสต์จะรู้ว่าเราทำหลายอย่างจริงๆ จนตอนนี้เริ่มลดปริมาณงาน เน้นโฟกัสที่คุณภาพงานแทนค่ะ
เลือกงานที่เข้ากับจังหวะชีวิตมากขึ้น แต่ยังประหยัดอดออม และลงทุนบ้าง แบบที่ศึกษามาอย่างดีจนคิดว่าปิดความเสี่ยงไว้เกือบหมดแล้ว เรามีชีวิตอยู่แบบธรรมดา ไม่มีอะไรหวือหวา แต่มีความสุข
– มีรถที่ผ่อนหมดแล้ว 1 คัน
– ลูกที่เลี้ยงดูอย่างดีที่สุด 1 คน
– คุณพ่อคุณแม่ อ้อให้เงินเดือนท่าน เดือนละ 10,000+ ไม่เคยขาด
– มีทอง มีเพชร สินทรัพย์อะไรเล็กๆน้อยๆประดับความสุข
– บริจาคกลับคืนสู่สังคม ทุกปี ปีละ 100,000-200,000 บาท
advertisement
จ่ายประกันให้คนทั้งครอบครัว (ตัวเรา สามี ลูก พ่อ แม่ น้องๆ) เพื่อป้องกันความเสี่ยงของทุกคน เราจะได้ไม่เดือดร้อน + เป็นเงินเกษียณ เบี้ยปีละรวมๆ เกือบ 400,000 แต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้น ร้ายแรงแค่ไหน จะไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแม้แต่บาทเดียว และเกษียณสุขแบบแน่นอน มีเงินรออยู่แล้ว
สุดท้าย อ้อพบว่า การมีเงินอาจไม่ใช่การมีไว้เพื่ออยากจะซื้อทุกอย่าง แต่มีไว้เป็นความมั่นคงในชีวิต เพราะฉะนั้นเงินนี้ให้ใครยืมไม่ได้ เพราะมันเป็นความมั่นคงของทั้งครอบครัวเราค่ะ ที่สำคัญ ประสบความสำเร็จแล้วอย่าเหลิงมากเกินไป เพราะมันจะอยู่กับเราแค่ไม่นาน ทำต่อค่ะ..คงความขยันไว้ ทำดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตคนเราสามารถประสบความสำเร็จได้อีกหลายครั้งค่ะ อ้อ"
สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนี้ก็ได้มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย และจากโพสต์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับหลายคนที่อยากจะเก็บหรือออมเงินนะคะ อย่าทิ้งความฝัน และ มีความขยันเข้าไว้นะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : Varisa Maneetavat