ถั่วเขียว จิ๋วแต่แจ๋ว คนรักสุขภาพห้ามพลาด!!

       “ถั่วเขียว” ธัญพืชเมล็ดเล็กๆ ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สามารถนำมาทำอาหารหลากชนิดทั้งคาวและหวาน ซึ่งบางครั้งเราก็อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาหารเหล่านั้นทำมาจากถั่วเขียว เพราะมันได้ถูกเปลี่ยนแปลงรูปร่างนั่นเอง เมนูจากถั่วเขียว ก็ได้แก่ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ถั่วกวน ลูกชุบ ไอติม หรือนำมาทำเป็นไส้ขนมต่างๆ อีกหลายชนิด นอกจากนั้นยังนำมาทำเป็นแป้ง วุ้นเส้น นำไปเพาะเป็นต้นอ่อน หรือที่เรียกว่าถั่วงอกนั่นเอง ถั่วเขียวนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร วันนี้ Kaijeaw.com จึงชวนให้คุณได้มาทำความรู้จักกับประโยชน์ที่จะได้รับ จากการรับประทานถั่วเขียวให้มากขึ้น [ads]

       คุณค่าทางโภชนาการในถั่วเขียวต้มสุก 100 กรัม มีดังนี้

       – พลังงาน 21 กิโลแคลอรี

       – น้ำ 93.39 กรัม 

       – โปรตีน 2.03 กรัม

       – คาร์โบไฮเดรต 4.19 กรัม

       – ไฟเบอร์ 0.8 กรัม

       – น้ำตาล 2.84 กรัม

       – แคลเซียม 12 มิลลิกรัม

       – ธาตุเหล็ก 0.65 มิลลิกรัม

       – แมกนีเซียม 14 มิลลิกรัม

       – ฟอสฟอรัส 28 มิลลิกรัม

       – โพแทสเซียม 101 มิลลิกรัม

       – โซเดียม 10 มิลลิกรัม

       – สังกะสี 0.47 มิลลิกรัม

       – ไธอะมีน 0.05 มิลลิกรัม

       – ไรโบฟลาวิน 0.1 มิลลิกรัม

       – ไนอะซิน 0.8 มิลลิกรัม

       – โฟเลต 29 ไมโครกรัม

       – วิตามินซี 11.4 มิลลิกรัม

       – วิตามินบี 6 0.05 มิลลิกรัม

       – วิตามินอี 0.07 มิลลิกรัม

       – วิตามินเค 22.7 ไมโครกรัม

       ประโยชน์ของถั่วเขียว 

       1. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด 

       ถั่วเขียวมีไขมันน้อยมากและไม่มีคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดปัญหาของโรคอ้วนลงพุง หัวใจและหลอดเลือด การรับประทานถั่วเขียวนั้นสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL Cholerterol) และช่วยยับยั้งภาวะออกซิเดชั่นของไขมันที่จะไปทำลายหลอดเลือดได้ และเมื่อระดับคอเลสเตอรอล LDL ลดลง ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจก็ลดลงด้วย 

       2. มีใยอาหารสูง

       ถั่วเขียวเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยใยอาหาร ซึ่งช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้ดี เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูก หรือท้องอืด ป้องกันการเกิดภาวะลำไส้แปรปรวน และลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่

       3. ป้องกันภาวะการติดเชื้อ

       ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเขียวมีมาก เรียกได้ว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดชนิดหนึ่ง จึงทำให้ถั่วเขียวมีฤทธิ์ในการป้องกันการติดเชื้อ และการอักเสบภายในร่างกายได้ ส่งผลให้ความเสี่ยงอาการเจ็บป่วย และโรคภัยต่างๆ ลดลง

       4. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

       ถั่วเขียวเป็นอาหารที่มีระดับน้ำตาลที่ต่ำ เมื่อรับประทานแล้วปริมาณน้ำตาลในถั่วเขียวก็จะไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนี้ถั่วเขียวยังช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

       5. ดีต่อแม่ตั้งครรภ์

       ถั่วเขียวมีโฟเลต สารที่มีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์ DNA และการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยควบคุมการทำงานของสมอง สมดุลของฮอร์โมน และระบบสืบพันธุ์ เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ การรับประทานโฟเลตอย่างเพียงพอจะช่วยป้องกันภาวะพิการในทารก และการคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งป้องกันการแท้งบุตร

       6. ป้องกันภาวะโลหิตจาง 

       ถั่วเขียว เป็นอาหารที่มีธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง สามารถรับประทานเพื่อเสริมธาตุเหล็กร่วมกับอาหารอื่นๆ ให้กับร่างกาย การที่ร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักจะเกิดภาวะขาดธาตุเหล็กในช่วงมีประจำเดือน 

       7. ป้องกันโรคมะเร็ง

       จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งชาติจีนพบว่า ถั่วเขียวมีระดับโพลีฟีนอล และโอลิโกแซ็กคาไรด์ (oligosaccharide) สูง ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และป้องกันไม่ให้เกิดเนื้อร้าย ขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเขียวก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายและกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้

       8. ชะลอวัย 

       ถั่วเขียวอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมาย มีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้ดูเปล่งปลั่ง บำรุงหนังศีรษะแข็งแรง ผมไม่หลุดร่วงง่าย 

       9. ย่อยง่าย

       ถั่วเขียวเป็นแหล่งของสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะโปรตีน ที่ดีกว่าเนื้อสัตว์ตรงที่ย่อยง่ายกว่า อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อทานอิ่มๆ ไม่รู้สึกอึดอัดแน่นท้องจนเกินไป

       10. ลดอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)

       ในถั่วเขียวมีวิตามินบี 6 วิตามินบี และโฟเลต สารอาหารที่ช่วยควบคุมไม่ให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวน อันเป็นสาเหตุของอาการก่อนมีประจำเดือน นอกจากนี้ก็ยังช่วยบรรเทาอาการที่เกิดในช่วงมีประจำเดือน อย่างอาการปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ปวดหัว ปวดตามกล้ามเนื้อ และอาการอ่อนเพลียได้

       11. แหล่งของโปรตีน

       ถั่วเขียวมีโปรตีนสูง เมื่อเทียบกับถั่วเมล็ดแห้งชนิดอื่นๆ จึงนับว่าเป็นแหล่งอาหารโปรตีนได้ ถั่วเขียวเมื่อบริโภคร่วมกับธัญพืชจะให้กรดอะมิโนที่จำเป็นครบตามความต้องการของร่างกาย โปรตีนจากถั่วเขียว มีราคาถูกเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ และการเลือกกินอาหารโปรตีนจากพืชแทนเนื้อสัตว์จะสามารถหลีกเลี่ยงการรับไขมันเกินความจำเป็นได้ 

       12. ให้วิตามินบี 1, บี 2 ที่สำคัญ

       นอกจากนี้ในถั่วเขียวยังให้วิตามินและแร่ธาตุบางชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา วิตามินบี 2 ช่วย ป้องกันโรคปากนกกระจอก

       13. บำรุงกระดูกและฟัน

       ถั่วเขียวมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน 

       สรรพคุณทางยาของถั่วเขียว มีอยู่มากมาย เช่น

       – กินถั่วเขียวต้มในหน้าร้อนช่วยแก้ร้อนใน ลดอาการกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ หรือกินแก้อาการร้อนใน เจ็บคอ ตาแดง หรือท้องผูกที่เกิดจากการนอนดึก

       – ดื่มน้ำต้มถั่วเขียวพอประมาณแก้อาเจียนจากการดื่มเหล้า 

       – ถั่วเขียวต้มกับเกลืออมแก้เลือดออกตามไรฟัน 

       – ตำเมล็ดถั่วเขียวพอกแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก 

       – ถั่วเขียวต้มพอกผิวหนังที่เป็นผดผื่นคัน จะทำให้หายเร็วขึ้น 

       – กินถั่วเขียวต้มครั้งละ 15-20 กรัม เป็นประจำ แก้อาการตาพร่า ตาอักเสบ[ads]

       “ถั่วเขียว” จึงนับได้ว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพจริงๆ เลยนะคะ ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกคนในครัวเรือน ดังนั้นอย่าลืมทานกันเป็นประจำด้วยนะคะ ซึ่งสามารถนำมาปรุงอาหารได้อย่างหลากหลายไม่จำเจด้วย แต่หากเป็นประเภทของหวานก็ควรระวังเรื่องส่วนผสมของน้ำตาลด้วยนะคะ 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com