ทำประตูเลื่อน ลดการสัมผัส ภูมิปัญญาง่ายๆ งบไม่ถึง 200

advertisement
อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ผุดไอเดียภูมิปัญญา ทำประตูเลื่อนลดการสัมผัส ทำเองได้ง่ายๆงบไม่ถึง 200 บาท แนะร้านอาหาร สถานศึกษา รวมถึงสถานที่สาธารณะควรปรับใช้ โดยร้าน เบลล่า คาซ่า (Bella casa) อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ที่ช่วยลดต้นทุน และป้องกันโรคติดต่อ
advertisement

โดยประตู New Normal งบไม่ถึง 200 บาท ศ.นพ.วินิต พัวประดิษฐ์ ที่ปรึกษาคณบดีคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ผู้คิดค้นภูมิปัญญาและประดิษฐ์ใช้ที่ร้านตั้งแต่ ม.ค. 63 นับจากมีการระบาด เพื่อช่วยประหยัดการใช้เจลแอลกอฮอล์ และลดปริมาณการล้างมือ เนื่องจากประตูที่ใช้มือเปิด-ปิดที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้านอาหารบ่อยครั้งในทุกวัน และอาจเป็นแหล่งปนเปื้อนเชื้อโรค
หากจะเปลี่ยนเป็นประตูระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ จะมีค่าใช้จ่ายสูง นอกจากราคาประตูสูงถึง 4-6 หมื่นบาท ยังต้องมีค่าไฟ ค่าบำรุงดูแล จึงจุดประกายความคิดว่าใช้ “เท้า” แทนมือเป็นการปลอดภัยที่สุด แม้คนไทยยังไม่ชิน และมองว่าอาจไม่เหมาะ
advertisement

“หากไม่ใช้มือ ควรใช้อะไรเปิดประตู ซึ่งบางร้านใช้ประตูไฟฟ้าหรือไฮโดรลิก เปิด-ปิดอัตโนมัติ แต่ค่าใช้จ่ายสูง ผมจึงเกิดแนวคิดง่ายๆ โดยใช้ส่วนอื่นของร่างกายแทนมือ นึกถึงเท้าเนื่องจากสะดวกที่สุด และไม่มีโอกาสที่หากมีเชื้อโรคปนเปื้อนก็ไม่สามารถเปื้อนหน้าได้ ลูกค้าบางคนแรกๆ ก็ไม่คุ้น เพราะไม่ค่อยเห็น แต่ทำตาม” ศ.นพ.วินิต กล่าวถึงแนวคิด [ads]
ขั้นตอนวิธีทำ ประตู New Normal หมดงบไม่ถึง 200
advertisement

ขั้นตอนการทำนั้นไม่ยุ่งยาก ใช้อุปกรณ์ 3 ชนิด คือ เหล็กฉากซึ่งหาซื้อตามร้านก่อสร้าง ราคาชิ้นละ 15 บาท จำนวน 2 ชิ้น นำมายีดติดกับด้านล่างประตูทั้งภายในและภายนอกร้าน เพื่อใช้เท้าเลื่อนเปิด-ปิดประตู แทนการใช้มือ ลูกรอก 2 ชิ้น ราคาชิ้นละ 30 บาท จากนั้นประตูจะปิดเองจากการทำงานของลูกรอก 2 ชิ้นที่นำมายึดติดกับคานประตู ซึ่งคล้องลูกรอกทั้งสองด้วยเอ็นตกปลา โดยปลายด้านหนึ่งยึดติดกับด้านบนประตู และปลายอีกด้านถ่วงน้ำหนักด้วยขวดน้ำพลาสติก ประตูจะเลื่อนปิดเองอัตโนมัติ หากต้องการความสวยงามและเป็นระเบียบ สายเอ็นตกปลาที่โยงขวดน้ำพลาสติกสามารถเก็บใส่ท่อ หรือมีสิ่งปิดบังได้
advertisement

ด้วยหลักการถ่วงน้ำหนักที่ใช้ในการเปิด-ปิดประตูจะมีเสียงกระแทก ปิดประตูช้า ศ.นพ.วินิตแนะข้อพึงระวังในการใช้ควรปรับปริมาณของน้ำในขวดพลาสติกให้พอเหมาะ เพื่อให้ประตูปิดได้โดยมีแรงกระแทกน้อยสุด หรือใช้ยาง วัสดุที่นุ่ม รองรับการกระแทกของประตูเพื่อป้องกันการทรุดโทรม หากเลิกใช้ก็นำยางออกและสามารถล็อกประตูได้ตามปกติ
“ร้านมีประตูลักษณะนี้ทั้งหมด 5 ประตู เป็นวิธีที่เหมาะสม ทำได้จริง หมดงบไม่ถึง 200 บาท ในเด็ก 6 ขวบก็ใช้เท้าเปิดประตูเองได้ การไม่ได้สัมผัสประตูโอกาสติดเชื้อก็น้อย ในยุคนี้ผมอยากให้ประตูลักษณะนี้มีใช้ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน สถานการศึกษา ร้านอาหาร ห้องน้ำสาธารณะ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านง่ายๆ กว่าจะสงบก็อีกหลายเดือน" ศ.นพ.วินิต กล่าว
เป็นอีกหนึ่งวิธีการง่ายๆ และยังช่วยร้านประหยัดงบประมาณได้เยอะ ที่สำคัญยังช่วยลดการสัมผัส เหมาะสำหรับโรงเรียน ร้านอาหาร รวมทั้งสถานที่สาธารณะอื่นๆด้วย
ขอขอบคุณที่มาจาก : thairath.co.th , RAMA CHANNEL