ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด..แก้ได้ด้วยสมุนไพร!!
advertisement
ปัญหาเกียวกับระบบการย่อยอาหาร และการขับถ่าย เป็นต้นท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้กันอยู่บ่อยๆ จริงมั้ยคะ ซึ่งสาเหตุมักเกิดจากการกินอาหารเข้าไปแล้ว แต่กระเพาะอาหารไม่ย่อย จึงทำให้เกิดอาการแน่นหรือจุกเสียด และทำให้เกิดลมในกระเพาะอาหารจนบางครั้งมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เรอเหม็นเปรี้ยว เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ เป็นแผลร้อนในในปาก หรือาจมีท้องผูก ท้องเสียร่วมด้วย เมื่อต้องประสบกับปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายๆ คนต้องรีบไปซื้อยามากินรักษาอาการกันอย่างเร่งด่วน หรือใครที่มีปัญหามากก็ต้องรีบไปพบแพทย์ให้วุ่นกันเลยทีเดียว แต่วันนี้ Kaijeaw.com ขอเสนอให้คุณรักษาอาการเหล่านั้นง่ายๆ ด้วยสมุนไพรค่ะ
advertisement
สมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษาและบรรเทาท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด
1. กะเพรา
– ใช้ใบและยอด 1 กำมือ ต้มกับน้ำสะอาด รินเอาน้ำดื่มครั้งละ 1/2-1 แก้ว 3 เวลาหลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการ (ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่)
– ใช้ใบกะเพราแห้งบดให้ละเอียด ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายกับน้ำต้มสุก ดื่มหลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการ
2. ชะพลู
ใช้รากสดหรือแห้ง 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ต้มกับน้ำ ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว หลังอาหาร
3. ขมิ้นชัน
ใช้เหง้าขมิ้น ล้างให้สะอาด (ไม่ปอกเปลือก) หั่นเป็นชิ้นบางๆ ตากแดดจัด 1-2 วัน บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้ง ปันเป็นเม็ดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย เก็บในขวดสะอาด กินครั้งละ 2-3 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน แต่ถ้ากิน แล้วท้องเสีย ให้หยุดยาทันที [ads]
4. ขิง
ใช้เหง้าสดล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นต้มกับน้ำ ใช้น้ำดื่ม วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหาร หรือเมื่อมีอาการ หรือใช้เหง้าขิงสดล้างให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง ใช้ชงกับน้ำต้มสุกดื่มกิน หรือจะเติมน้ำตาลลงไปก็ได้เพื่อให้กินง่ายขึ้น
5. ข่า
– ใช้เหง้าแก่สด ยาว 1-2 นิ้ว ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำปูนใสลงไป 1 แก้ว ใช้ช้อนคนให้เข้ากันดี กรองเอาน้ำดื่ม ครั้งละ 1 แก้ว หลังอาหาร 3 มื้อ
– ใช้เหง้าแก่สด ล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นต้มกับน้ำดื่มอาจจะใส่น้ำตาลลงไปเพื่อให้กินง่ายขึ้น นำน้ำมาดื่มครั้งละ 1 แก้ว หลังอาหาร 3 มื้อ หรือเมื่อมีอาการ
6. กระเทียม
– ใช้หัวกระเทียมแห้ง 5-7 กลีบ ปอกเปลือกให้เรียบร้อย แล้วตำให้ละเอียด เติมน้ำส้มสายชูลงไป 30 ซีซี หรือ 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย กินหลังอาหาร 3 มื้อ หรือเมื่อมีอาการ
– ใช้กระเทียม 5-7 กลีบ ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นบางๆ กินดิบๆ หลังอาหารทุกมื้อ
7. กระชาย
– ใช้เหง้าและรากประมาณครึ่งกำมือ (สด 5-10 กรัม, แห้ง 3-5 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่ม
8. ตะไคร้
ใช้ลำต้นแก่สุดๆ ทุบพอแหลก ประมาณ 1 กำมือ (ราว 40-60 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่ม หรือ ประกอบเป็นอาหารกิน
9. ผลกระวาน
ใช้ผลกระวานแก่จัดประมาณ 6-10 ผล (0.6-2 กรัม) ตากแห้งบดเป็นผง รับประทานครั้งละ 1-3 ช้อนชา ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือครึ่งถ้วยแก้ว ใช้รับประทานครั้งเดียว
10. สะระแหน่
กินเป็นผักกับอาหารได้ หรือนำใบแก่มาตากแห้งทำเป็นใบชา ชงดื่ม จะช่วยย่อยอาหารได้ หรือช่วยขับความร้อนและเหงื่อ
11. ไพล
ใช้เหง้าแก่ล้างให้สะอาด ฝานเป็นชิ้นๆ ตากแดดให้แห้ง นำมาบดเป็นผงละเอียด ใช้ผงบดประมาณ 1 ช้อนชา ชงกับน้ำร้อน ผสมเกลือเล็กน้อย รับประทาน
12. มะนาว
นำเปลือกผลสดของมะนาวประมาณครึ่งผลมาคลึงหรือทุบเล็กน้อย พอให้น้ำมันออก ชงกับน้ำร้อนใช้ดื่มเวลามีอาการ
13. โป๊ยกั๊ก (เครื่องทำพะโล้) หรือ Anise Seed
วิธีกิน ให้เคี้ยวโป๊ยกั๊กหลังมื้ออาหารที่เป็นเหตุให้ท้องอืด หรือใส่ผสมลงไปในอาหารที่รับประทาน
advertisement
ข้อปฏิบัติเพื่อลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
1) เคี้ยวอาหารช้า ๆ
การไม่ได้เคี้ยวให้ละเอียดก่อน จะเป็นหนึ่งในสาเหตุก่ออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ดังนั้นควรเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ช้าลงสักหน่อย อย่างน้อยๆ ก็ต้องเคี้ยวอาหารให้ได้ 15 ครั้งเป็นอย่างต่ำ
2) ไม่ดื่มน้ำผลไม้สดพร้อมอาหาร
หากจำเป็นให้อมน้ำผลไม้ไว้ในปากสักพักก่อนกลืนลงคอ เพื่อให้น้ำลายเข้าไปจัดการย่อยเอนไซม์ในน้ำผลไม้ก่อนส่งตรงสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งจะสามารถช่วยลดกระบวนการย่อยอาหาร พร้อมกันนั้นก็ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ด้วย
3) ไม่กินผลไม้กับเนื้อสัตว์
เพราะเนื้อสัตว์เป็นอาหารที่ใช้เวลาย่อยนานกว่า 5 ชั่วโมง ในขณะที่ผลไม้ใช้เวลาย่อยเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ดังนั้นหากว่าเรากินอาหารทั้งสองชนิดนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน เนื้อสัตว์จะกลายเป็นตัวขัดขวางการย่อยผลไม้ไปในทันที ดังนั้นหากอยากรับประทานผลไม้ แนะนำให้กินก่อนเนื้อสัตว์ประมาณ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ
4) กินเมล็ดเทียนข้าวเปลือกหลังมื้ออาหาร
เทียนข้าวเปลือก (Fennel Seeds) เป็นสมุนไพรที่มีรสขม สามารถช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเมล็ดเทียนข้าวเปลือกยังมีฤทธิ์ขับลมในกระเพาะอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ในตัว
5) กินผักใบเขียวเสมอ
ผักใบเขียวช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างดี การเผาผลาญก็จะดีขึ้น แก๊สและลมในกระเพาะ สาเหตุของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อก็จะหมดไป
6) ลดปริมาณน้ำตาล
น้ำตาลทุกชนิด ทุกรูปแบบ ล้วนมีส่วนกระตุ้นแก๊สในกระเพาะได้อย่างเร็ว ดังนั้นต้องบริโภคน้ำตาลให้น้อยลงและเพิ่มการทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
7) ดื่มชาสมุนไพร
นอกจากการกินสมุนไพรสดๆ แล้วนั้น คุณสามารถเลือกชาสมุนไพร เช่น ชาขิง, ชาเปปเปอร์มินต์ หรือชาเทียนข้าวเปลือก เพราะจัดว่าเป็นเคล็ดลับเด็ดในการช่วยย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อหลังมื้ออาหารได้เช่นกัน ด้วยการจิบชาสมุนไพรเบาๆ หลังมื้ออาหาร
เห็นกันแล้วใช่มั้ยคะว่าสมุนไพรที่ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารนั้น มีให้เลือกมากมายหลายชนิดเลยทีเดียว แต่ละชนิดนั้นก็อยู่ใกล้ตัวและหาได้ง่าย ราคาถูก บางชนิดเราก็พบเห็นในอาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน ดังนั้นคงไม่เป็นการยากอะไรเลยนะคะที่เราจะกินสมุนไพรให้มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาแผนปัจจุบันกันเลยทีเดียว
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com