ธอส.จ่อขึ้นดอกเบี้ยบ้าน คาดส่งผลลูกค้ากลุ่มเปราะบาง
advertisement
วันที่ 23 มิ.ย.65 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า คณะกรรมการธนาคารได้ประชุม เพื่อวางแผนทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
advertisement
โดยเบื้องต้นมีการประเมินว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% อย่างน้อย 2 ครั้ง รวมเป็นการปรับขึ้น 0.50% ขณะที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566 อีกอย่างน้อย 0.50% ต่อปี ทำให้คาดว่าในช่วง 2 ปีนี้
จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายประมาณ 1% “ในการประชุม กนง. รอบเดือน ส.ค. 2565 หากมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธนาคารก็ตรึงไว้ถึงเดือน ต.ค. โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกและครั้งเดียวของปีนี้ ที่เฉลี่ย 0.125%-0.150% ต่อปี ส่วนที่เหลือคาดว่าธนาคารจะทยอยปรับขึ้นในช่วงไตรมาส 1/2566” นายฉัตรชัย กล่าว
advertisement
อย่างไรก็ดี มองว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่มีการปรับขึ้น แต่คงไม่ถึง 2 หลัก เหมือนช่วงที่ผ่านมา เพราะในกรณีนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนเท่านั้น แต่ธนาคารก็อยู่ในภาวะช็อกเหมือนกัน นายฉัตรชัย กล่าวว่า ยอมรับว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.
จะกระทบทำให้ต้นทุนของ ธอส. เพิ่มขึ้น เพราะต้องขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากทันที ส่วนฝั่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น ก็อยู่ที่แต่ละธนาคารจะพิจารณาบริหารต้นทุนอย่างไร ซึ่งในปีนี้ก็ยังมีเวลาเหลืออีก 5 เดือน แต่จากการประมาณการคาดว่าการตรึงดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือและลดภาระให้ประชาชน จะทำให้ ธอส. มีต้นทุนในปีนี้เพิ่มขึ้น ประมาณ 1,000 ล้านบาท
advertisement
ส่วนปี 2566 คาดว่าจะกระทบประมาณ 1,300 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ว่าเงินงวดของลูกค้าก็จะยังไม่ปรับขึ้นในทันที ถ้ายังเป็นการชำระดอกเบี้ยและยังมีเงินบางส่วนที่ไปตัดเงินต้น
แต่ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจนกระชั้นมาก ๆ เงินงวดไม่พอที่จะนำไปหักเงินต้น ก็จะต้องมีการขึ้นเงินงวด หรือจ่ายภายใต้เงินงวดเท่าเดิมแต่ตัดเงินต้นน้อยกว่าเดิม ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ต้องขยายเงินงวดออกไปเป็นระยะยาวมากขึ้น นอกจากนี้ มองว่า
advertisement
การปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับลูกค้าในกลุ่มเปราะบางที่ต้องการกู้บ้าน แต่ฐานเงินเดือนไม่สูงมากเป็นหลัก เช่น เงินเดือน 20,000 บาท ต้องการกู้ซื้อบ้านราคา 3,000,000 บาท ธนาคารอาจจะต้องลดวงเงินกู้ ส่งผลทำให้กลุ่มเปราะบางดังกล่าวมีบ้านที่ต้องการยากขึ้น ขณะที่กลุ่มที่มีความสามารถในการกู้เดิม ก็จะเข้าหาธนาคารเพื่อเลือกแพ็คเกจสินเชื่อที่สามารถชำระได้โดยไม่มีปัญหามากขึ้น
ขอขอบคุณที่มาจาก : khaosod.co.th