นอนผิดท่า..ทำให้หน้าแก่ได้นะ!!
advertisement
เป็นเรื่องปกติของคนเราทุกคนนะคะ เมื่ออายุมากขึ้นริ้วรอยเหี่ยวย่นและตีนกาก็เกิดขึ้นกันโดยไม่ทันตั้งตัว นอกจากอายุแล้ว การให้ความเอาใจใส่ดูแลผิวพรรณก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดสุขภาพผิว ริ้วรอยทั้งหลายแหล่นั้นด้วย และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายๆ ที่สำคัญเราเองมีส่วนทำให้เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลย นั่นก็คือเวลานอนนั่นเอง รู้หรือไม่ว่าการนอนผิดท่า จะส่งผลต่อริ้วรอยบนใบหน้าได้ เป็นสาเหตุทำให้เราแก่ก่อนวัยได้เลยทีเดียว สงสัยกันแล้วใช่มั้ยคะ ไปหาคำตอบกับ Kaijeaw.com กันเลยค่ะ
advertisement
การนอนผิดท่าทำให้หน้าแก่ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น
1. ท่านอนตะแคง
การนอนตะแคง ทำให้ใบหน้าด้านหนึ่งถูกบีบกดกับหมอน หรือ ผ้าปูที่นอนเป็นเวลานานๆ นับชม. และการนอนตะแคงซ้ายแย่ยิ่งกว่า เพราะเป็นท่าที่หลับไม่สบาย ร่างกายกดทับหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานไม่สะดวกเท่าที่ควร เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ถ้าหากอยากนอนตะแคงจริงๆ ควรปรับเปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ ไม่นอนตะแคงทั้งคืนนะคะ
2. ท่านอนคว่ำ
เป็นท่านอนที่ทำให้ใบหน้าของเรา จะต้องแนบไปบนหมอนจึงทำให้หน้าถูกกดทับเป็นเวลานานๆ ผิวหน้าจึงยับยู่ยี่ ยิ่งอายุที่มากขึ้นคอลลาเจนบนผิวจะยิ่งลดน้อยลงจึง ทำให้เกิดรอยยับบนหน้าเป็นเวลานานกว่าที่รอยจะจางหายไป [ads]
advertisement
ท่านอนที่ดีต่อสุขภาพผิวหน้า
นั่นก็คือท่านอนหงายนั่นเองค่ะ เพราะใบหน้าจะไม่ถูกบีบรัด หรือรบกวนจากปลอกหมอน และเป็นท่านอนที่สบาย จึงช่วยให้ร่างกายหลับสนิทพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ทำให้เมื่อตื่นมาหน้าตาจะสดชื่นไม่มีริ้วรอยใดๆ
แต่ทั้งนี้การนอนหงายก็ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคปอด และโรคหัวใจ เพราะกล้ามเนื้อกระบังลมจะกดทับปอด ทำให้หายใจไม่สะดวกอาจทำให้มีอาการกำเริบได้
advertisement
ป้องกันผิวหน้าถูกทำร้ายจนเกิดริ้วรอย ด้วยปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
1 .อย่าเปิดแอร์เย็นจัด
การนอนอยู่ในห้องแอร์ที่เย็นมากๆ เป็นเวลานานๆ นั้น ทำให้ผิวหนังเสียความชุ่มชื้น และผิวจะแห้งกร้านเกิดเป็นริ้วรอยได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงไม่ควรเปิดแอร์ให้เย็นจนเกินไป และทาครีมบำรุงเข้มข้นเพื่อให้ผิวมีชุ่มชื้นยาวนาน
2. นอนในท่านอนหงาย
การนอนให้ถูกท่าสามารถช่วยให้สาวๆ หน้าไม่เหี่ยวได้ การนอนท่าที่สามารถช่วยลดริ้วรอยได้ คือการนอนหงาย เพราะการนอนหงายจะไม่ทำให้ใบหน้ากดทับกับหมอน จึงไม่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น [ads]
3. หลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูดน้ำ
การใช้หลอดดูดน้ำหนึ่งครั้ง ต้องใช้กล้ามเนื้อใบหน้าเกร็งเพื่อดูดน้ำขึ้นมา อันเป็นเหตุที่ทำให้เกิดการเพิ่มริ้วรอยบนใบหน้า นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหนังบริเวณริมฝีปากจะเหี่ยวย่นอีกด้วย
4. ทาครีมบำรุงให้ครบสูตร
ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกวันให้เป็นนิสัย เพราะไม่ได้มีแค่แสงอาทิตย์ที่ทำร้ายผิวเราได้อย่างเดียว แสงไฟนีออน แสงจากหน้าคอมพิวเตอร์ล้วนทำร้ายเราได้ทั้งนั้น, ทาอายครีม เพื่อลดรอยตีนกาและถุงใต้ตาก่อนนอน เพื่อช่วยชะลอริ้วรอยรอบดวงตา
5. ทานผักผลไม้ให้มาก
รับประทานให้หลากหลาย เพราะผลไม้แต่ละชนิดก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป ซึ่งผลไม้ส่วนใหญ่ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยให้ผิวแข็งแรง ชะลอความแก่ของผิว และช่วยลดเลือนริ้วรอย
6. งดบุหรี่และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอลล์
การสูบบุหรี่จะทำให้หน้าเหี่ยวและแก่ไว ส่วนแอลกอฮอลล์หากกินเพียงพอดี ไม่มากเกินไป จะช่ววเลือดสูบฉีดได้ดี แต่ถ้ากินบ่อยๆ จะทำร้ายผิวให้ผิวสุขภาพย่ำแย่ได้ แต่ทางที่ดีก็ควรจะหลีกเลี่ยงทั้ง 2 อย่างจะดีกว่า
7. ควบคุมการแสดงออกของอารมณ์ทางผิวหน้า
ไม่ว่าจะหัวเราะ ทำหน้าย่น คิ้วชนกันบ่อยๆ จะทำให้หน้าแก่และมีรอยตีนกา ทำให้เกิดริ้วรอยร่องลึก ได้ง่ายขึ้น แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็ยากแก่การฟื้นฟู เพราะฉะนั้น เวลาหัวเราะ ควรหัวเราะแต่พอดี ไม่มากจนเกินไป และไม่ควรโกรธมากๆ นอกจากจะเกิดริ้วรอย ความเครียดก็ทำให้เกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน
8. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส สมวัยได้ ทำให้มีน้ำมีนวลมากขึ้น ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง เพื่อดึงความสดชื่นกลับมาให้ผิว และช่วยระบบเผาผลาญในร่างกายให้ดีขึ้น
นอกจากท่านอนที่ถูกต้องแล้วนั้น อุปกรณ์ในการนอนต่างๆ ก็สำคัญไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น ที่นอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ควรหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ในการนอนด้วย และการเลือกที่นอน ก็ควรเลือกให้มีความหนาแน่นพอสมควร และไม่ควรนิ่ม หรือแข็งจนเกินไปด้วยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com