นอนผิดท่า..เสี่ยงปวดหลัง!!
advertisement
ในแต่ละวันที่เราจะต้องเผชิญกับหน้าที่การงาน ปัญหา และมลภาวะต่างๆ ที่อยู่รอบกาย เป็นเหตุทำให้ร่างกายของเราต้องทำงานหนัก รู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย ต้องการที่จะพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูสภาพ ซึ่งวิธีการพักผ่อนที่ดีที่สุด ก็คือการนอนหลับนั่นเองค่ะ ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อเราอยู่ในอิริยาบถของการนอน ก็ช่วยให้รู้สึกดีคลายความเมื่อยล้าได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ควรนอนในท่าที่ถูกต้องด้วยนะคะ เพราะในทางตรงกันข้าม การนอนที่ไม่เหมาะสมหรือนอนผิดท่า อาจเป็นสาเหตุให้สุขภาพย่ำแย่ เสี่ยงต่ออาการปวดหลังได้ ใครที่มีอาการปวดหลังอยู่บ่อยๆ และสงสัยว่าอาจเป็นเพราะนอนผิดท่านั้น ห้ามพลาดนะคะ Kaijeaw.com มีเรื่องราวของการนอนผิดท่าเสี่ยงปวดหลังมาฝากกันค่ะ
advertisement
อิริยาบทในท่านอนถือเป็นท่าพักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกสันหลังรับแรงน้อยที่สุด แต่ท่านอนก็มีส่วนทำให้ปวดหลังได้ เพราะท่านอนที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบนอนหงาย บางคนก็ชอบนอนตะแคง หรือบางท่านอาจชอบนอนคว่ำ ท่านอนแต่ละท่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
[ads]
ท่านอนที่ถูกต้อง
– ท่านอนหงาย ควรมีหมอนหนุนใต้ข้อเข่า ให้ข้อสะโพกงอเล็กน้อย เป็นท่านอนที่เหมาะ จะช่วยลดแรงกดของหลังได้ดี ครวหัวหนุนหมอนเตี้ยๆ นุ่มๆ ที่หนุนแล้วรู้สึกสบาย
– ท่านอนตะแคง ควรได้งอเข่าข้างหนึ่ง และมีหมอนข้างกอดไว้ หรือจะงอเข่าทั้งสองข้างในท่าคู้ตัวก็ได้ สำหรับหมอนที่ใช้หนุนในท่านี้ควรมีความหนามากพอที่จะให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกันกับลำตัว หากใช้หมอนเตี้ยเกินไป ศีรษะจะเอียงลงหรือหาหมอนที่มีความสูงเท่าหรือใกล้เคียงกับระยะจากระดับด้านข้างของศีรษะไปถึงแนวระดับไหล่ เมื่อหนุนแล้ว จึงทำให้แนวของกระดูกสันหลังส่วนคออยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลังส่วนอกและส่วนเอว
ท่านอนที่ไม่ถูกต้อง
– ท่านอนคว่ำ ไม่ควรนอนท่าคว่ำ เพราะการนอนคว่ำจะทำให้กระดูกสันหลังส่วนเอวโค้งไปทางด้านหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ เวลาเรานอนคว่ำก็ต้องตะแคงหน้าไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งจะทำให้กระดูกต้นคอบิดไปด้วย
– ท่านอนขดตัวแบบทารก
แม้ท่านอนขดตัวแบบทารกจะช่วยแก้ปัญหานอนกรน และเป็นท่าที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ แต่สำหรับอาการปวดหลังนั้น การนอนในท่านี้จัดว่าเป็นท่าที่ไม่ควรนอนมากที่สุด เนื่องจากท่านอนแบบทารกจะอยู่ในลักษณะขดตัว ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ จนนำมาสู่อาการปวดหลังได้นั่นเอง
advertisement
วิธีและถ้านอนที่ดีและเหมาะสมที่สุด
การนอนดิ้น หรือการปรับเปลี่ยนท่านอนไปเรื่อยเรื่อยนับได้ว่าเป็นวิธีการนอนที่ดีและเหมาะสมที่สุด ซึ่งก็ไม่ใช่เช่นอย่างเด็กๆ ที่ชอบนอนกลิ้งตัว แต่หัวเตียงไปจนถึงปลายเตียง จนอาจตกเตียงไปเลยนะคะ การนอนดิ้นคือ ไม่ใช่นอนด้วยท่านอนท่าหนึ่งอย่างเดียว ควรสลับท่านอนบ่อยๆ อย่างนอนหงาย นอนตะแคงซ้าย ตะแคงขวา การปรับท่านอนไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ของการนอนหลับ ยิ่งเมื่ออายุสูงขึ้นการนอนดิ้นมักจะน้อยลง นอนหลับในท่าไหนมักจะตื่นขึ้นมาจากท่านั้นจึงทำให้เกิดอาการชาของแขนขาได้ หรือหายใจไม่สะดวกได้
[ads]
องค์ประกอบอื่นๆ มีส่วนสำคัญต่อสุขภาพหลังของคนเราด้วยเช่นกัน
1) หมอน ซึ่งมีส่วนช่วยรองรับกระดูกสันหลังส่วนคอให้อยู่ในแนวโค้งที่ปกติ เพราะในขณะที่หลับ กล้ามเนื้อรอบๆ คอจะคลายตัว หากคออยู่ในท่าที่ไม่ดี ตื่นมาอาจปวดคอหรือคอแข็งได้ ดังนั้น หมอนที่ใช้ควรมีความนุ่มและขนาดพอดี โดยทั่วไปหมอนมาตรฐานควรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว ควรสังเกตลักษณะคอของตนเองว่า คอสั้นหรือคอยาว หากเป็นคนคอยาวมากไป การใช้หมอนมาตรฐานก็จะทำให้ศีรษะอยู่ในท่าที่แหงนมากเกินไป
2) ที่นอน ควรเลือกใช้ชนิดที่ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป หากว่าที่นอนที่มีความนุ่มหรืออ่อนตัวมากเกินไป อย่างที่นอนฟองน้ำที่ใช้กับเตียงสปริง ถือว่าเป็นที่นอนที่ไม่เหมาะกับสุขภาพหลัง หรือสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง เพราะความนุ่มหรืออ่อนตัวมากเกินไป ทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวที่ผิดปกติ หรือการนอนที่นอนแข็งๆ เช่น บนไม้กระดาน, เสื่อ หรือนอนกับพื้น อาจเพิ่มอาการปวดหลังได้ มากขึ้น
ดังนั้นในทุกๆ คืน อย่าลืมนอนในท่าที่ถูกต้อง เปลี่ยนท่านอนจากท่าเดิมเป็นอีกท่าหนึ่งที่สบายขึ้น และไม่ควรปล่อยให้แขนขาชาเนื่องจากถูกทับจนขาดเลือด หรือไม่ได้ขยับตลอดคืน รวมไปถึงเลือกที่นอนและหมอนที่มีความเหมาะสมด้วยนะคะ จะช่วยให้การนอนหลับของคุณเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ไร้อาการปวดหลังได้ ในทุกๆ วันค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com