นอนหลับสบาย คลายเครียด ด้วยสมุนไพรไทย
advertisement
อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ เผยเคล็ดลับช่วยให้หลับสบาย ด้วยสมุนไพรไทย ร่วมรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในวัน “นอนหลับโลก”
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปัจจุบันมีผู้ที่ประสบปัญหา “นอนไม่หลับ” เพิ่มมากขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากความเครียดจากการทำงาน ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาสุขภาพ เป็นต้น หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดปัญหาเรื้อรัง และนำมาซึ่งอาการต่าง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ ภาวะนอนไม่หลับ (Insomnia) ดังนั้น ในวันนอนหลับโลก ซึ่งตรงกับวันศุกร์สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคม ในทุกๆ ปี ปีนี้ตรงกับวันที่ 16 มีนาคม 2561 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ขอร่วมรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชน ด้วยการนำอาหารที่รับประทานมาเสริมสุขภาพให้นอนหลับสบาย ไร้กังวลด้วยพืชผักสมุนไพรใกล้ตัว [ads]
advertisement
ในทางการแพทย์แผนไทยระบุสาเหตุของการนอนไม่หลับว่า เกิดจากธาตุไฟในร่างกายมีมากเกินไป ทำให้ร่างกายเกิดความร้อน ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้นอนไม่หลับ การที่จะลดธาตุไฟในร่างกายนั้น แนะนำให้ใช้สมุนไพรที่มีรสขม เย็น จืด มาปรุงเป็นอาหารเพื่อรับประทาน เช่น แกงขี้เหล็ก สะเดาน้ำปลาหวาน มจืดมะระ มะระขี้นกผัดไข่ บวบผัดไข่ หรือผักต้มจิ้มน้ำพริก ส่วนเครื่องดื่มสมุนไพรแนะนำเป็นน้ำใบบัวบก น้ำแตงโม น้ำมะระขี้นก ซึ่งนอกจากการปรุงอาหารให้เป็นยา ก็ควรใส่ใจเรื่องการออกกำลังกาย เพื่อลดธาตุไฟ ในร่างกายลง ซึ่งการออกกำลังกายก็มีหลายแบบ เช่น ฤาษีดัดตน ชี่กง โยคะ เป็นการบริหารร่างกายโดย การยืดเหยียดกล้ามเนื้อควบคู่ไปกับการฝึกลมหายใจ ซึ่งเหมาะกับการออกกำลังกายของคนในเมืองร้อนอย่างมาก [ads2]
advertisement
ในส่วนของยาสมุนไพรที่ช่วยในการนอนหลับ แนะนำให้ใช้ตำรับยาหอมเทพจิตร ซึ่งเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีสมุนไพรที่เป็นตัวยาหลัก คือ ดอกมะลิและเกสรดอกไม้ต่าง ๆ น้ำมันหอมระเหยใน ยาหอมเทพจิตรช่วยให้เกิดอารมณ์ผ่อนคลาย ช่วยเสริมให้นอนหลับสนิททั้งคืน ทั้งชนิดผงและชนิดเม็ด สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป รวมถึงร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ นอกจากสมุนไพรที่มีรสขม เย็น จืด การออกกำลังกายแบบฤๅษีดัดตน ชี่กง โยคะ และการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคนอนไม่หลับ ควรสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อ [ads3]
advertisement
การนอนหลับ ควรจัดห้องนอนให้มืด เงียบ สบายตา อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรทำงาน ดูทีวี หรือใช้คอมพิวเตอร์ขณะที่เข้านอนแล้ว มื้อเย็นควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและไม่อิ่มท้องจนเกินไป พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 8 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ ท่านก็จะมีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี และรู้สึกสดชื่น
ขอขอบคุณที่มาจาก : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข