สธ.เผยอาการนักดนตรีป่วยโควิด-19 รักษาตัวได้เพียง 5 วัน
advertisement
สำหรับยอดผู้ป่วยโควิดของไทย สำหรับวันที่ 30 มีนาคม 2563 นั้นมียอดผู้ป่วยสะสมแล้วกว่า 1,524 ราย ทั้งนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม โดย นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ได้ออกมาเผยข้อมูลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกของ จ.มหาสารคาม ที่ล่าสุดได้เสียชีวิตแล้ว โดยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้เพียง 5 วัน แต่ด้วยร่างกายภูมิคุ้มกันต่ำจนระบบหายใจล้มเหลว
advertisement
ทั้งผู้จากรายงานข้อมูลผู้ป่วย ของ สนง.สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ได้สรุปรายงานเหตุผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตรายนี้ว่า ผู้ป่วยเป็นชายไทยสัญชาติไทยอายุ 48 ปี ทำงานเป็นนักดนตรีที่กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ตามสำเนาทะเบียนบ้าน อยู่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จนเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลบาลพยัคฆภูมิพิสัย ซึ่งจากการวินิจฉัยโรค เข้าข่าย PUI หรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีอาการอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อยหอบ จากการสอบถามพบพบมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน มะเร็งลำไส้ผ่าตัดแล้ว ให้เคมีบำบัดครบแล้ว และไวรัสตับ อักเสบ เคยรักษาที่ ร.พ.ตากสิน กรุงเทพมหานคร [ads]
ในส่วนการรักษา ผู้ป่วยได้รับการเอ็กซ์เรย์ปอดที่โรงพยาบาลพยัคมภูมิพิสัย พบว่าปอดมีอาการติดเชื้อทั้งสองข้าง เข้าได้กับอาการโรดปอดบวม จึงทำการเพาะเชื้อ ต่อมาผู้ปวยมีอาการหอบมากขึ้น จึงได้ส่งต่อมาโรงพยาบาลมหาสารคาม ในวันที่ 26 มี.ค. เวลา 14.25 น. ต่อมาผู้ป่วยมีอาการหอบและมีไข้ อุณหภูมิ 39 องศาเซลเซียส แพทย์ได้สั่งนอนในตึกเฉพาะโรค รักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อ ใส่สายออกซิเจน ในเช้าวันที่ 27 มี.ค. ผู้ป่วยมีอาการหอบมากขึ้น แพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ใช้เครื่องช่วยหายใจ และได้ให้ยานอนหลับและยาคลายกล้ามเนื้อ โดยคณะแพทย์ ร.พ.มหาสารคาม ได้รักษาโดยให้ยาต้านไวรัส และให้การรักษาตามแนวทาง กระทรวงสาธารณสุข
advertisement
จนมาถึงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (30 มี.ค.) ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคเบาหวาน ไวรัสตับอักเสบบี มะเร็งลำไส้ ซึ่งได้รับการผ่าตัด และเพิ่งได้รับเคมีบำบัดครบการรักษาไปแล้วไม่นาน ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากภาวะระบบหายใจล้มเหลว เมื่อเวลาประมาณ 05.37 น.
ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ ยังไงก็อยากให้ทุกคนดูแลตัวเอง หมั่นสังเกตและเฝ้าดูอาการ หากมีโรคปประจำตัวอยู่แล้วควรระวังให้มากขึ้น อย่าไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยงเด็ดขาด
ขอขอบคุณที่มาจาก : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม , thebangkokinsight.com