นักเรียนไทย เล่าประสบการณ์ โดนกักโรคหลังกลับจากประเทศจีน
advertisement
จากสถานการณ์การระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในเมืองอู่ฮั่น มณฑล หูเป่ย ทางตะวันออกของจีน ซึ่งยังคงมีการระบาดจนต้องมีการประกาศปิดเมือง เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค และตอนนี้ในประเทศไทยขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยืนยันเชื้อแล้ว 5 ราย และยังมีมาตรการป้องกันเชื้ออย่างเข้มงวด
advertisement
ล่าสุด สมาชิกทวิตเตอร์ @loveall_nct ซึ่งเป็นนักเรียนไทยที่เดินทางมาจากประเทศจีน และถูกกักตัวควบคุมโรค ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ หลังโดนกักตัวเพื่อควบคุมโรค โดยระบุว่า …
advertisement
"จุดประสงค์ คือ อยากให้รู้ว่าเจ้าหน้าที่สนามบินเขาทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ อยากให้อ่านกันเพราะไม่อยากให้ว่าเจ้าหน้าที่กันขนาดนั้น ลองอ่านดูนะ
1.เรานั่งเครื่องจากฮาร์บินไปถึงสนามบินอู่ฮั่นทุ่มเศษ และขึ้นเครื่องจากอู่ฮั่นกลับไทยตอน 22.40น. = เราอยู่อู่ฮั่น 3 ชม.กว่าๆ
2.ก่อนกลับไทย 1 อาทิตย์ เราป่วยเป็นคออักเสบ มีอาการไข้ขึ้นเป็นระยะ ในคอมีตุ่ม มีน้ำมูก เสียงแหบ เวียนหัว
3.พอถึงสุวรรณภูมิ ตอนออกจากงวงช้างจะมีเจ้าหน้าที่ยืนขนาบทั้งซ้ายขวา ข้างละประมาณ 4-5คน ทุกคนสวมหน้ากากN95 ทางขวามือมีเครื่องคล้ายๆทีวี(คาดว่าเอาไว้จับอุณหภูมิคน)
4.เราเดินออกเป็นคนสุดท้าย พอจะพ้นประตูก็มีจนทพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงเสื้อดำๆ” หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ มากักตัวเราไว้ก่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก มีทีมเจ้าหน้าที่พร้อมรถเข็น หมอเดินมาและถามว่าใช่คนไทยไหม จากนั้นก็ขอพาสปอร์ตและ boarding passของเรา สอบถามข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ
5.เราบอกเจ้าหน้าที่แล้วว่าเราป่วยเป็นคออักเสบและเรียนที่ฮาร์บินแค่ 1 เดือน ส่วนอู่ฮั่น คือ ที่ที่เราไปเปลี่ยนเครื่องเพื่อกลับไทย แต่หมอวัดไข้เราได้ 37.8 ดังนั้น ตามมาตรการแล้วเราจะต้องถูกส่งไปสถาบันบำราศนราดูรในคืนนั้นเลย
6.เจ้าหน้าที่ให้เรานั่งรถเข็นและพาไปที่ห้องชั้นล่างและนอนพักเพื่อรอรถพยาบาล
advertisement
7.ระหว่างนั้นพี่จนทที่อยู่กับเราพูดดีมาก ชวนเราคุยตลอดเพื่อไม่ให้เราตกใจ เรารู้สึกดีมากและลดความกังวลไปได้เยอะ
8.พี่เจ้าหน้าที่ช่วยเราเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ (ก่อนหน้านี้เราใช้โทรศัพท์พี่เจ้าหน้าที่เพื่อติดต่อพ่อแม่และบอกให้ไปรอที่สถาบันบำราศนราดูร) จากนั้นเราก็นอนหลับในห้องรอรถพยาบาล
9.เมื่อรถพยาบาลมาถึง จนทก็พาเราขึ้นรถ มีการซักถามว่าเรียนที่ไหน แล้วไปทำอะไรที่อู่ฮั่น เมื่อมาถึงสถาบัน เจ้าหน้าที่ก็พาเราไปห้องแยกเชื้อ
10.ในห้องนั้นมีประตูกั้นสองชั้น จนท2คนมาเก็บตัวอย่างเลือด มีการตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่ มีการเก็บตัวอย่างเสมหะและอีกหลายอย่าง
advertisement
11.ตัวอย่างถูกส่งไปตรวจ 2 ที่
12.ระหว่างที่อยู่ในห้องแยกเชื้อ การคุยกับแพทย์จะคุยผ่านทางโทรศัพท์ที่ฝังในกำแพง ภายในห้องมีกล้องวงจรปิดเพื่อเฝ้าดูอาการ ก็คือจะไม่มีการให้บุคลากรเข้ามาในห้องเราเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
advertisement
13.ทางสถาบันดูแลดีมาก มีแพทย์เข้ามาดูอาการและให้ยา
advertisement
14.เมื่อผลตรวจยืนยันจากทั้ง 2 สถาบันแล้วว่าเราไม่มีเชื้อ เราถึงได้ออกมา
–เมื่อพบความผิดปกติ เจ้าหน้าที่ให้เราใส่แมสทันที
–จะเห็นได้ว่า แม้เราจะมาจากเมืองอื่นและต่อเครื่องที่อู่ฮั่น แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
–มีการซักถามอย่างละเอียดถึงเมืองที่เรียน รูมเมท สถานที่ที่ไปเที่ยว ร้านข้าวที่กิน ต่างๆ
ปล.ใครที่มีแพลนอยากไปเรียนจีนแล้วไปกับโครงการ ขอให้ศึกษาดีๆ นะคะ สำหรับเรา เราผิดส่วนหนึ่งที่ป่วยเอง แต่อีกทางเราโกรธเอเจนซี่ เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และถ้าพวกเขาห่วงความปลอดภัยเด็ก เขาควรเปลี่ยนเมืองให้ค่ะ และเราได้รับข้อความที่ไม่โอเคมากๆ จากเอเจนซี่คนนึง ยังไงก็ดูดีๆ นะคะ
จุดประสงค์คือ อยากให้รู้ว่าจนทที่สนบเขาทำงานกันอย่างเต็มที่จริงๆ อยากให้อ่านกันเพราะไม่อยากให้ว่าจนทกันขนาดนั้น ลองอ่านดูนะ
1.เรานั่งเครื่องจากฮาร์บินไปถึงสนบอู่ฮั่นทุ่มเศษ และขึ้นเครื่องจากอู่ฮั่นกลับไทยตอน22.40น. = เราอยู่อู่ฮั่น3ชม.กว่าๆ
advertisement
ตอนนี้ไวรัสโคโรน่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราอีกแล้ว เพราะเริ่มมีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทยแล้ว การป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสเป็นสิ่งที่พึงกระทำค่ะ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก @loveall_nct