10 วิธีจัดการกับนิสัยขี้หงุดหงิด ให้หายขาด!!

advertisement
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเราที่ต้องมีทั้งเวลาอารมณ์ดีและเวลาอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด ตึงเครียด แล้วแต่ช่วงเวลาที่เราได้พบเจอกับอุปสรรคและปัญหาใดๆ บ้าง ซึ่งอารมณ์ของเรานี่แหละ ที่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเราได้เยอะเลยทีเดียว ถ้าหากว่าเราอารมณ์ดี เราก็มีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่เวลาที่เรารู้สึกไม่ดี เช่น เครียด โกรธ ไม่พอใจ หงุดหงิด กังวลใจ ไม่สบายใจ หากไม่รู้วิธีจัดการและรับมือกับอารมณ์ไม่ดีเหล่านั้น ก็จะบั่นทอนความสุข ความสดใสในชีวิตไป วันนี้ Kaijeaw.com มีวิธีการที่จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์หงุดหงิดเหล่านั้น ให้เป็นอารมณ์ที่ดีขึ้นได้ ดังนี้ค่ะ
advertisement

1. นอนหลับอย่างเพียงพอ
การนอนหลับที่ไม่เพียงพอเป็นสาเหตุ ที่ทำให้กลายเป็นคนขี้หงุดหงิดได้ และถ้ายิ่งนอนไม่เพียงพอติดต่อกันหลายวัน ก็จะยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม เพราะช่วงเวลาการนอนช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย อวัยวะทุกส่วน สมอง รวมถึวอารมณ์ของเราด้วย ดังนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน และจะต้องเป็นเวลานอนที่ติดต่อกันด้วยนะ
2. คลายความเครียด
ความเครียด เป็นสาเหตุหลักของอารมณ์หงุดหงิด เพราะความเครียดส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเกิดจากปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา ดังนั้นแทนที่คุณจะไปเคร่งเครียดกับปัญหานั้น คุณก็แค่ทำใจให้เย็นลงแล้วหันกลับไปมองปัญหา ลองดูสิว่าปัญหาของคุณมีอะไรบ้าง และปัญหาใดที่คุณสามารถแก้ไขได้ ปัญหาใดที่คุณต้องยอมรับและร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้าง อย่าโทษตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ให้บอกกับตัวเองว่าควรทำให้ดีที่สุด แก้ไขให้สุดกำลัง ผลจะออกมาอย่างไรก็ควรยอมรับ เมื่อคุณสามารถใจเย็นลงได้ อาการหงุดหงิดของคุณก็จะลดลงตามไปด้วย
[ads]
3. ดูแลตัวเองให้ดีกว่าเดิม
การมีรูปลักษณ์ที่ดูไม่ดี เช่นอ้วน เป็นสิวเขรอะหรือผิวพรรณที่ไม่สดใส ทำให้ดูโทรม เมื่อส่องกระจกก็จะรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสีย ไม่พอใจในตัวเอง เป็นเช่นนี้ได้เวลาแก้ไขกันแล้ว แค่เพียงคุณหันกลับมาดูแลรูปร่าง ผิวพรรณของตัวเอง โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายให้มากขึ้น เมื่อคุณมีร่างกายที่แข็งแรงแล้วคุณก็จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงบุคลิกและภาพลักษณ์ตัวเอง ก็จะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจในตัวเองได้อีกด้วย
4. รับประทานอาหารที่ช่วยลดความแปรปรวนของอารมณ์
คนที่มีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย มักจะขาดแคลเซียม ยิ่งถ้าขาดมากๆ จะมีอาการเกรี้ยวกราดร่วมด้วย วิธีแก้ก็คือ เติมแคลเซียมเข้าไป โดยการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม เช่น นม ปลาตัวเล็กที่รับประทานก้างได้ เป็นต้น สำหรับคนที่ขาดวิตามินบี มักจู้จี้ขี้บ่นเกินวัย ควรรับประทานอาหารจำพวกข้าวซ้อมมือ ไข่ ตับ ถั่วเหลือง กล้วยน้ำว้า เป็นต้น ในคนที่ขี้กลัว ไม่ค่อยกล้าแสดงออกในเรื่องที่ถูกต้อง เนื่องมาจากขาดวิตามินซีและเอที่พบมากในผัก ผลไม้ต่างๆ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสารอาหารและแร่ธาติดังกล่าวมีผลต่อระบบการทำงานของสมองที่มีหน้าที่หลั่งสารแห่งความสุขออกมานั่นเอง
5. บอกเล่าออกมา
หลายคนมักกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด ก็เพราะมีเรื่องวุ่นวายอยู่ในใจมากมาย วิธีที่ดีจะช่วยลดความหงุดหงิด ก็คือการได้พูดออกมา ลองหันไปหาเพื่อนสักคนที่ไว้วางใจ ผลัดกันระบายถึงปัญหาที่พบเจอ ถึงแม้จะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ก็จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น แต่ถ้าหากปัญหาเหล่านั้นเป็นเรื่องที่คุณไม่สามารถบอกกับเพื่อนของคุณได้ ในปัจจุบันก็มีนักจิตบำบัดมากมายที่พร้อมจะช่วยรับฟังปัญหาของคุณ และเมื่อคุณได้ระบายออกมาจนสบายใจแล้ว ก็จะช่วยทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวในใจของคุณดีขึ้น ลดความหงุดหงิดไปได้เยอะเลย
advertisement

6. เดินออกจากเหตุการณ์
ในเหตุการณ์ที่บางครั้งบางเวลาเราอาจถูกคนในครอบครัว เพื่อน คนในที่ทำงาน คนบนท้องถนน คนรอบข้าง ทำอะไรให้เรารู้สึกไม่พอใจหรือโกรธ เราอาจจะไม่สามารถตอบโต้กลับไปได้ดั่งใจ วิธีการที่ดีคือเลือกที่จะเดินหนีไปจะดีกว่า เพราะบางครั้งการเดินออกจากปัญหามาก่อน ก็ดีกว่าการที่จะมานั่งโต้เถียงกันแบบไม่รู้จักจบ เพราะขณะที่อารมณ์ยังไม่ปกตินั้น คนเรามักขาดสติและการคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ถูกต้อง การย้ายตัวของเราออกจากปัญหา บางทีช่วยให้ความรู้สึกที่ไม่ดีหายไปได้ ทั้งยังช่วยลดความเครียดและสามารถทำให้เรากลับมาเผชิญ และแก้ปัญหาได้อย่างฉลาดและมีสติอีกครั้ง
7. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของเรา ไม่ทำร้ายเรา ช่วยให้คุณคลายอารมณ์หงุดหงิด ลดความเครียด และทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ เช่น นก กระรอก หนู การได้เห็นสัตว์เหล่านี้เคลื่อนไหวและการได้จับ ได้ลูบ ได้กอด หรือให้พวกมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เรามีความสุข รู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ปลอดโปร่งมากขึ้น
[ads]
8. ออกกำลังกาย
การได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการได้เดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ หรือวิ่งเหยาะๆ หรือเต้น ฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่โปรดปราน จะช่วยให้ความเครียดที่มีอยู่หมดลงไป เพราะคนที่เครียด กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมักจะตึง เมื่อเราได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระจะทำให้กล้ามเนื้อนั้นคลายความตึงลง ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้นด้วย ดังนั้น จึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากสุขภาพจะแข็งแรงแล้ว ยังทำให้คลายควาเครียดความหงุดหงิดไปได้เยอะเลย
9. กอดคนที่ร้ก
การได้กอดหรือได้รับการกอดจากคนที่เรารักและรักเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก จะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นทันทีและช่วยลดความเครียดลงได้ในเวลาเดียวกัน เพราะการกอดเป็นสัมผัสที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกรัก อบอุ่นใจ ห่วงใยและเข้าใจระหว่างกันและกันได้ เมื่อเราได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ มาจะทำให้เรามั่นคงในจิตใจมากขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามปัญหาหรืออุปสรรคไปได้อย่างมีสติและใจเย็น
10. คิดบวก
เปลี่ยนความคิดในแง่ลบต่างๆ แล้วเปลี่ยนเป็นคิดในแง่บวก คือ คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขและสบายใจ เช่น คิดถึงเรื่องการไปเที่ยวในสถานที่ๆ ชื่นชอบ คิดถึงอาหารที่อร่อยๆ คิดถึงของที่อยากซื้อ หรือเมื่อมีงานยุ่งยากแทนที่จะเครียด กลุ้ม อกกลุ้มใจ ก็พยายามหาทางแก้ไขจัดการให้เป็นไปได้ คิดเสียว่าเราเป็นคนเก่งต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ การที่เรามีความคิดที่ไม่สบายใจอยู่ภายใน ทำให้เราสมองไม่แจ่มใส ไม่สามารถคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ ดังนั้น ให้เราลองใช้วิธีเปลี่ยนความคิดดู คิดทางบวก มีความสุขสดชื่นจะทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นและผ่อนคลายมากขึ้น
หากว่าคุณกำลังมีปัญหากับนิสัยขี้หงุดหงิดของตนเองอยู่แล้วล่ะก็ จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งนิสัยนี้อยู่กับเรานานมากเท่าใด ก็จะยิ่งสร้างแต่ปัญหา จนเป็นเหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพจิต และบุคลิกภาพไปในทางที่ไม่ดีได้ เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ หันมาใส่ใจตนเองให้มากขึ้น เลือกสิ่งที่ดีๆ ให้ตนเอง มองโลกในแง่ดี คิดบวกให้มาก รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเสมอ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเป็นคนใหม่ที่สุขภาพร่างกายและจิตใจดี มีความสุขได้ในคราวเดียวกันค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com