15 นิสัยสุดแย่ของผู้ชาย..ที่ควรเลิกคบ(แฟน)ในวันวาเลนไทน์นี้!!
advertisement
คนเราทุกคนเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาหนึ่งก็ต้องมีคู่ เพื่อสร้างครอบครัวจริงมั้ยคะ แต่การจะเลือกคบใครซักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะผู้หญิงเรา หากเลือกคู่ครองที่ไม่ดี นอกจากจะไม่มีความสุขแล้ว ยังอาจหาภัยมาสู่ตัวได้ แต่ด้วยเรื่องความรักนั้นยากที่จะห้ามกันได้ บางครั้งบางทีเราก็อาจเพิกเฉยกับปัญหาและความบกพร่องบางอย่างของผู้ชาย แต่หากจะคบกันไปยาวๆ ก็ต้องรู้จักเลือกคบคนนะคะ หลายคนคงอาจนึกยังไม่ออกว่าเราจะเลือกคบคนอย่างไรมาเป็นแฟน ดังนั้นวันนี้ Kaijeaw.com จึงมี 15 นิสัยสุดแย่ของผู้ชาย..ที่ไม่ควรคบเป็นแฟน!! มาฝากกัน สาวๆ รีบเช็คด่วนค่ะ
1. ไม่สนใจช่วยทำงานบ้านเลย ผู้ชายที่คิดว่างานบ้านเป็นหน้าที่ของผู้หญิงฝ่ายเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก เพราะต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ทำงาน บางคู่ก็ต้องทำงานนอกบ้านเหมือนกัน บางคู่คุณผู้ชายอาจทำงานนอกบ้าน ส่วนผู้หญิงต้องเลี้ยงลูกและดูแบ้านในเวลาเดียวกัน ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านก็ควรจะแบ่งเบาหน้าที่ทำงานบ้านบ้าง
advertisement
3. ติดโทรศัพท์มากๆ ยุคสมัยนี้ผู้คนส่วนใหญ่มักติดโทรศัพท์กัน เรียกว่าว่างเป็นไม่ได้ ต้องจับโทรศัพท์เช็คโซเชียลหรือเล่นเกมเสมอ แม้แต่ตอนอยู่กับคนที่ชอบ โดยเฉพาะผู้ชายที่ไม่ค่อยคิดเรื่องละเอียดอ่อนเป็นสักเท่าไหร่ ซึ่งมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ผู้หญิงหงุดหงิดน้อยใจมากๆ ที่คุณสนใจโทรศัพท์มากกว่า[ads]
4. พูดชมพร่ำเพรื่อ แม้ว่าผู้หญิงนั้นชอบให้ชม แต่ไม่ใช่ว่าการพูดชมบ่อยๆ จนมากเกินไปนั้นจะดี เพราะมันจะกลายเป็นความน่ารำคาญและดูอวยจนเกินจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วสาวๆ นั้นอยากได้ยินคำชมที่ออกมาจากใจมากกว่า เพราะการชมมากไป จะฟังเหมือนพูดไปงั้นๆ ไม่ได้จริงใจอะไร
5. ไม่ดูแลตนเอง แม้ว่าเพศผู้ชายจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความสวยงามเช่นผู้หญิง แต่การไม่ดูแลภาพลักษณ์ของตัวเองเท่าที่ควร เช่น มีกลิ่นตัวแรง ที่ผมมีรังแค หรือเนื้อตัวดูไม่สะอาดนั้น จะทำให้ผู้หญิงรู้สึกเอือมระอาและไม่อยากอยู่ใกล้
advertisement
advertisement
7. ซีเรียสเกินไป ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับแฟนนั้น สาวๆ เราก็ต้องการความประทับใจ ความสนุกสนาน และความเป็นกันเองมากที่สุด ไม่ใช่กำลังดินเนอร์อยู่ แล้วเขาชวนคุยเรื่องปัญหาชีวิตร้อยแปดพันเก้า จนทำให้อาหารรสชาติจืดชืดทันที อีกอย่าง ทุกคนมีปัญหาที่อยากระบายอยู่แล้ว แต่ก็ควรดูสถานการณ์ให้ดีด้วยว่าเหมาะสมรึเปล่า
8. ไม่แนะนำให้รู้จักกับครอบครัว การที่แนะนำใครสักคนให้ที่ครอบครัวได้รู้จัก ในฐานะแฟน ก็เป็นเหมือนเช่นการแสดงออกว่าผู้ชายนั้นจริงใจกับเรา และเปิดเผยให้ทุกคนได้ทราบว่ามีแฟนแล้ว แต่หากว่าเขาไม่พาเราไปแนะนำให้ครอบครัวเค้ารู้จักเลย รวมทั้งไม่เคยพาไปบ้านช่องนั้น เท่ากับว่าจะต้องมีอะไรโกหก แอบแฝงอยู่
advertisement
9. ขี้เมา เป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่ต้องออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ แล้วมักจะจัดเต็มเรื่องการดื่มอยู่เสมอ แต่เมื่อมีแฟนแล้วก็ต้องคิดดูแลแฟนให้มาก คือควรควบคุมตัวเองไม่ให้ดื่มมากจนเมาไม่รู้เรื่องด้วย ดื่มให้มีสติ เพราะยังมีหน้าที่ต้องดูแลฝ่ายหญิงโดยไปส่งให้ถึงบ้าน ไม่ใช่ให้หญิงเป็นฝ่ายลากชายกลับแทน
10. ผู้ชายที่บอกว่ามีครอบครัว แต่แยกกันอยู่แล้ว หลายครั้งหลายคราวที่ผู้ชายมักจะมีคารมคมคาย หรือลูกอ้อนมาจีบสาวอยู่แล้ว อีกมุขหนึ่งก็คือบอกว่ามีครอบครัว แต่แยกกันอยู่แล้ว แต่หย่าไม่ได้ เรื่องนี้ให้ควรระวังอาจถูกหลอกได้ ทางที่ดีต้องดูกันไปยาวๆ ก่อน
11. หลงตัวเอง นิสัยหลงตัวเอง เช่นชอบวางท่าอยู่ตลอดเวลา และพูดเรื่องต่างๆ ที่เขาคิดว่าคุณไม่รู้ จนทำให้คุณไม่มั่นใจในตัวเอง นั่นย่อมทำให้คุณไม่อยากไปไหนด้วยอีก เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้ชายที่หลงตัวเอง อีกอย่าง ความหมายของการออกเดทแต่ละครั้งคือการทำความรู้จักกันและกันให้มากขึ้น ไม่ใช่ให้ฝ่ายใดมาโฆษณาอวยตัวเองมากจนเกินไป [ads]
12. ไม่คิดจะแต่งงาน ผู้ชายที่ไม่มีการวางแผนเพื่ออนาคตของชีวิตคู่ ไม่มีการออมเงินเพื่อแต่งงานหรือสร้างครอบครัว ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย หรือบางคนก็บอกเลยตรงๆ ว่าไม่อยากแต่งงาน เช่นนี้ไม่ควรเสียเวลานะคะ เพราะเขาไม่คิดจะจริงจังกับเราเลย
advertisement
advertisement
14. ไม่มีจุดยืน นับว่าเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน เพราะหากไม่มีจุดยืนในชีวิต เช่น สิ่งที่ศรัทธา วิธีคิด และเป้าหมายในชีวิต เป็นต้น ก็จะทำให้เรามองเห็นได้ว่าเป็นคนไม่มั่นคงและไม่สามารถฝากฝังให้ดูแลพึ่งพาได้
15. ผู้ชายที่พูดจาหยาบคายกับคนอื่น แต่พูดดีกับคุณ!! ดูนิสัยได้จากการกระทำนะคะ เพราะคนเรามักจะแสดงตัวตนที่แท้จริงกับคนที่สนิทสนม หรือต่อคนอื่นที่ไม่ได้เห็นว่าสำคัญ ซึ่งอีกไม่นานเราเองก็จะกลายเป็นคนสนิทกันคนหนึ่งในไม่ช้า แต่ถ้าหากว่าคุณรับได้กับคำที่หยาบคายเช่นนั้นก็แล้วแต่
สาวๆ ต้องเช็คด่วนๆ นะคะ กับนิสัยที่ไม่ดีๆ เหล่านี้ของผู้ชาย เพราะหากว่ายังมีอยู่โดยไม่มีการปรับปรุงแก้ไขเลย ก็จะนำมาซึ่งปัญหาภายหลังได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสนับสนุนให้คนรักเลิกรากันนะคะ ต้องคิดพิจารณาถึงการแก้ไข และการยอมรับกันด้วยค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com