น้ำทับทิม..อร่อยมากคุณค่า ช่วยต้านสารพัดโรค!!
advertisement
“ทับทิม” พืชผลไม้ที่คนไทยเรารู้จักกันมาช้านาน โดยเฉพาะชาวจีนแล้ว นิยมนำผลทับทิมมาไหว้พระไหว้เจ้าเพราะเชื่อว่าเป็นผลไม้มงคล เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญงอกงามและความอุดมสมบูรณ์ (อาจเป็นเพราะทับทิมมีเมล็ดมาก มีความสวยงามและรับประทานได้) จึงมักให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่บ่าวสาวในพิธีแต่งงาน เพื่อให้มีลูกหลานมากๆ ด้วยเมล็ดภายในมีสีแดงสดเหมือนทับทิมอัญมณีที่ทรงคุณค่า มันจึงมีชื่อเรียกว่า “ทับทิม” และเป็นผลไม้ที่มีรสหวาน หรือเปรี้ยวหวานอร่อยถูกใจใครหลายๆ คน ในบ้านเรามีการปลูกอย่างแพร่หลาย โดยสามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับได้ด้วย ผลไม้ชนิดนี้ชอบอากาศหนาว ยิ่งหนาวจะยิ่งมีเนื้อมากและสีแดงสดมาก นิยมนำมาทำเครื่องดื่มน้ำผลไม้ “น้ำทับทิม” ดื่มแล้วหวานอร่อยสดชื่นยิ่งนัก และที่สำคัญยังมีคุณค่าสารอาหาร ที่เรียกได้ว่าช่วยต้านสารพัดโรคเลยทีเดียว อย่างไรบ้าง ตาม Kaijeaw.com มาดูกันค่ะ
ด้านคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพ
1) ทับทิมมีสาร polyphenols ปริมาณมาก และส่วนใหญ่เป็นชนิด hydrolysable tannins (สาร tannin เป็นสารที่มีรสฝาด และมักพบในไวน์แดง) นอกจากนี้ยังมี puracaligins ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการทำหน้าที่เป็น antioxidant หรือเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สารดังกล่าวเหล่านี้สามารถได้มาจากน้ำของทับทิม
2) น้ำทับทิมมีประสิทธิภาพลดอัตราการเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ซึ่งรวมถึง LDL oxidation และลดภาวการณ์เกิดโฟมเซล ภาวะดังกล่าวเป็นขั้นตอนของโรคหัวใจ
3) น้ำทับทิมมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน มะเร็งต่อมลูกหมาก (prostate cancer) ทั้งการแบ่งตัวและการแพร่กระจาย
4) น้ำทับทิมช่วยผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ ในน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (อนุมูลอิสระคือตัวการที่ทำให้คนแก่ง่ายและเป็นมะเร็ง) โดยสารต้านอนุมูลอิสระจะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้เซลล์ของร่างกาย (โดยเฉพาะเซลล์ไขมันที่เต้านม) มีความแข็งแรง เกิดภูมิคุ้มกันขึ้นภายในเซลล์ ทำให้เซลล์มีความต้านทานต่อพิษของสารก่อมะเร็ง จึงสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมได้
ในกรณีที่คนป่วยเป็นมะเร็งเต้านม สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิมจะช่วยยับยั้งเซลล์ มะเร็งไม่ให้แพร่กระจายลุกลามมากขึ้นได้ดังนี้
– สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิมจะไปยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้มีการแบ่งตัวเพิ่มมากขึ้น (คือเซลล์มะเร็งมีปริมาณเท่าเดิมไม่ขยายวงกว้างขึ้น)
– สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิมจะไปดูแลเซลล์ดีๆ ที่อยู่รอบๆ เซลล์มะเร็ง ให้มีความแข็งแรงและมีภูมิต้านทาน เซลล์มะเร็งจึงลุมลามมาทำอันตรายไม่ได้หรือได้น้อย[ads]
5) น้ำทับทิมมีวิตามินซีสูง ในเนื้อทับทิม 100 กรัม ให้วิตามินซีสูงถึง 10.2 มิลลิกรัม หรือ 12% นั้นเอง วิตามินสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นหวัดบ่อยๆ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
6) น้ำทับทิมมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระมากนอกจากนี้น้ำทับทิมยังเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินซี, วิตามินบี 5 โพแทสเซียม และเกลือแร่ต่างๆ มีงานวิจัยบอกว่า ดื่มน้ำทับทิมเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและการติดเชื้อจากไวรัส ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ลูคีเมีย เบาหวาน ไปจนถึงลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง
7) มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมากในทับทิม มีประโยชน์ต่อผิวในเรื่องการช่วยต่อต้านริ้วรอย และมีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการช่วยเรื่องผิวพรรณให้ขาวกระจ่างสดใส
8) สามารถลดภาวะการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัว ซึ่งจะให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด
9) ช่วยบำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โดยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีขึ้น ลดความดันโลหิตได้ประมาณ 5% ในผู้ป่วยที่ความดันโลหิตสูง แนะให้ดื่มรับประทานน้ำทับทิมวันละ 50 ซีซี เป็นเวลาสองสัปดาห์
advertisement
11) น้ำทับทิมช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในสตรีมีครรภ์ หากดื่มน้ำทับทิมตอนเช้าวันละ 1 แก้วจะช่วยลดอาการคลื่นไส้ ในคุณแม่ตั้งครรภ์ได้
12) ปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
13) เสริมสุขภาพทางเพศให้ท่านชาย
14) ป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
15) บำรุงตับ ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้[ads]
สรรพคุณทางยาสมุนไพรของทับทิม
ใบ – ใช้ใบสดนำมาต้ม กรองเอาน้ำใช้ล้าง แผลเนื่องจากมีหนองเรื้อรังบนหัว หรือใช้ใบ สดนำมาตำให้ละเอียดแล้วเอาไปพอกในบริเวณที่เป็นแผลถลอก
เปลือกต้น – ในเปลือกของลำต้นจะมีอัลกาลอยด์ประมาณ 0.35 – 0.6 % และอัลกาลอยด์ในเปลือกของลำต้นนี้ มีชื่อเรียกว่า Pelle tierine และ Isopelletierine ซึ่งเป็นยาถ่ายพยาธิได้ผลดี
เมล็ด – ใช้เมล็ดที่แห้งแล้วประมาณ 6 – 9 กรัม นำมาบดให้ละเอียด หรือทำเป็นยาก้อน หรือยาลูกกลอน กินเป็นยาแก้โรคปวด จุกแน่น เนื่องจากโรคกระเพาะอาหาร บำรุงกระเพาะอาหาร ทำให้เจริญอาหาร และแก้ท้องร่วง เป็นต้น
เปลือกราก – ใช้เปลือกรากที่แห้งแล้ว ประมาณ 6 – 12 กรัม นำมาต้มน้ำกิน เป็นยาแก้ระดูขาว ตกเลือด ถ่ายพยาธิ หล่อลื่นลำไส้ แก้ท้องเสีย และโรคบิดเรื้อรังเป็นต้น
ดอก – ใช้ดอกที่แห้งประมาณ 3 – 6 กรัม นำมาต้มกรองเอาน้ำดื่มเป็นยาแก้ให้เลือด กำเดาแข็งตัว และแก้หูชั้นในอักเสบ หรือใช้ดอกแห้งนำมาบดให้ละเอียดแล้วใช้ทา หรือโรยบริเวณบาดแผลที่มีเลือดออก
advertisement
รวมถึงมีการทดลองทางเภสัชวิทยาพบว่า เปลือกหุ้มรากทับทิมมีฤทธิ์ในการขับพยาธิตัวตืด นอกจากนี้เปลือกหุ้มรากยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อได้หลายชนิด เช่น เชื้อไทฟอยด์ เชื้อวัณโรค เป็นต้น และยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ผิวหนังด้วย
ทับทิมทานเป็นผลไม้ มีรสหวานอมเปรี้ยว ออกฤทธิ์เป็นยาบำรุงกำลัง แก้เจ็บคอ แก้โลหิตจาง ห้ามเลือด รักษาแผล แก้อาการปวดกระเพาะอาหาร ขับพยาธิในลำไส้ แก้ท้องร่วง
น้ำทับทิมที่มีวางขายตามท้องตลาดมักมีราคาแพง และสดได้ไม่เท่าที่ควร ที่สำคัญมักเติมแต่งรสชาติด้วยน้ำตาลปริมาณมากๆ วันนี้ Kaijeaw จึงมีวิธีทำน้ำทับทิมมาฝากกันด้วยค่ะ วิธีการทำน้ำทับทิม 1) ฝานทับทิมออกครึ่งหนึ่ง 2) นำเม็ดทับทิมของทั้ง 2 ครึ่งออกมาใส่ไว้บนเครื่องคั้นน้ำผลไม้ 3) ใช้ค้อนทุบเนื้อกด ๆ ลงไปบนเม็ดทับทิม เพื่อให้น้ำทับทิมออกมา 4) นำวอดก้า 1 ช้อนชาใส่ลงไปในน้ำทับทิมที่ได้ เพื่อกันบูดแบบธรรมชาติ จากนั้นเก็บเอาไว้ในตู้เย็นประมาณ 5 วัน
ได้รู้จักประโยชน์ของน้ำทับทิมเช่นนี้แล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนต้องอยากจะดื่มน้ำทับทิมให้ชื่นใจและได้ประโยชน์กันบ้างแล้ว แต่ก็ถือได้ว่าทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่หายาก ราคาก็แพง ที่เห็นว่าปลูกประดับกันตามบ้านเรือนนั้นก็มักจะมีเนื้อน้อย รสชาติจืดชืด แต่ปัจจุบันมีทับทิมจากประเทศจีนส่งเข้ามามาก และมีราคาถูกจึงถือเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคค่ะ และอย่าลืมว่าการเลือกกินผลไม้ทุกชนิด นอกจากต้องกินผลไม้ที่สดสะอาดเพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าสูงสุดแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไปก็คือ การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกลัวโรคภัยใดๆ มากล้ำกรายแล้วค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com