บทสรุปสุดท้าย 4 แม่เฒ่า หลังหลานเอาโฉนดไปกู้เงิน จนเป็นหนี้โดนยึดบ้าน
advertisement
จากกรณีพี่น้อง 4 แม่เฒ่า อายุตั้งแต่ 77-94 ปี ชาว จ.สุโขทัย ถูกไล่ให้ออกจากบ้านและที่ดิน เนื่องจากหลานเคยเอาโฉนดไปใช้กู้เงิน แล้วไม่มาใช้หนี้ ทำให้ที่ดินถูกขายทอดตลาดไปเมื่อปี 2562 ในราคา 9.8 แสนบาท ต่อมา ศาลสั่งขยายเวลา 4 แม่เฒ่า ย้ายออกจากบ้านไปอีก 30 วัน ล่าสุดยอดบริจาคช่วยเหลืออยู่ที่ 1.5 ล้าน แต่ทางด้านเจ้าหนี้ต้องการขายคืนในราคา 2 ล้านบาท ซึ่งทางด้าน 4 แม่เฒ่าก็ทำใจเก็บของเตรียมย้ายออก แต่ก็ยังหวังให้เจ้าหนี้ขายบ้านคืนให้
advertisement
พี่น้อง 4 แม่เฒ่า
advertisement
เรื่องราวเริ่มต้นมาจากการที่หลานของคุณยายทั้ง 4 มาขอใช้โฉนดในการไปกู้เงินเพื่อไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน ด้วยความรักและหวังเห็นอนาคตของหลาน คุณยายทั้ง 4 จึงให้หลานเอาโฉนดที่ดินจำนวน 4 แปลง ของคนในครอบครัวไปค้ำประกันเงินกู้จากเจ้าหนี้รายหนึ่ง จำนวน 450,000 บาท โดยเป็นที่ดินทำกิน 3 แปลง รวมประมาณ 12 ไร่เศษ และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 3 งาน 97 ตารางวา คือบ้าน 3 หลังที่แม่เฒ่าทั้ง 4 อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่
advertisement
ทว่า หลานชายที่ไปทำงานที่ไต้หวันก็ถูกหลอกไม่มีเงินกลับมาใช้หนี้ได้ ทางเจ้าหนี้จึงแต่งตั้งทนายมาทวงถาม และในที่สุดมีการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไป เมื่อปี 2562 รวม 3 แปลงเป็นเงิน 980,500 และมีส่วนต่างเงินคืนให้ลูกหนี้ จำนวน 365,000 บาท ซึ่งเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขาดว่าจะเข้ามายึดบ้านหลังนี้ในวันที่ 17 มิถุนายน 2564 นั่นเอง
นายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง เปิดเผยว่า ตลอดเวลาเกือบ 20 ปี เจ้าหนี้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้องมาโดยตลอด และไกล่เกลี่ยทุกครั้ง ทางเจ้าหนี้ก็ให้ความร่วมมือ จนล่าสุดยืดเวลาให้ 4 แม่เฒ่าอยู่บ้านเดิมได้อีก 30 วัน และต้องขนของออกจากพื้นที่ภายในเวลา 09.00 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 [ads]
advertisement
ด้าน 4 แม่ฒ่ายังมีความหวังให้เจ้าหนี้ยอมขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ก็ทยอยเก็บข้าวของไปฝากไว้ที่บ้านเช่าแล้ว และมองหาบ้านใหม่ที่จะซื้อ เป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ห่างจากบ้านเดิมราว 5.6 กิโลเมตร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมซื้อที่ดิน 2 งาน สร้างบ้านชั้นเดียวยกพื้นปูน จำนวน 2 หลัง เพื่อให้อยู่ 2หลังในลักษณะเดิม และให้เช่าบ้านระแวกใกล้เคียงอยู่ก่อนที่จะสร้างบ้านเสร็จ และขนย้ายข้าวของออกก่อนวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ตามที่ได้ขอขยายเวลาอยู่อาศัยไว้
advertisement
ส่วนยอดเงินบริจาคขณะนี้มียอดบริจาคหวังใช้เงินจำนวนนี้ซื้อบ้านยายคืน รวม 1,750,525 บาท นั้น นายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรงได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ในการบริหารจัดการเงินก่อนนี้
advertisement
โดยหลังจากสร้างบ้านเสร็จ จะจัดสรรให้ยายทั้ง 4 คน เป็นรายเดือน โดยตั้งเป้าหมายไว้ให้มีเงินใช้ทุกเดือนถึงอายุ 110 ปี และจัดสรรส่วนหนึ่งเป็นสวัสดิการกองกลางของครัวเรือานที่จะสร้างให้ใหม่จะไม่ทันกำหนดระยะเวลา ทำให้ต้องย้ายไปอยู่บ้านเช่าที่ได้เช่าไว้ก่อนหน้านี้เป็นการชั่วคราว
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com