บอกลาสิวผดง่ายๆ.. เพียงทำแบบนี้ รับรองว่าได้ผิวสวยใสแน่นอน!

       ปัญหาสิว บั่นทอนความสวยงามของสาวๆ เป็นเรื่องน่ารำคาญใจเสียจริงนะคะ โดยเฉพาะสิวผด สิวผื่น ที่มักจะเป็นๆ แล้วหาย หายแล้วก็เป็นใหม่อยู่เช่นนั้น ทั้งตุ่มเล็กตุ่มใหญ่มากมายเรียงรายอยู่เต็มบนใบหน้า เช่นนี้แล้วจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไรดีนะ วันนี้ Kaijeaw.com จึงขอนำเอาวิธีขจัดสิวผดมาฝากกันค่ะ สาวๆ จะได้ผิวสวยอย่างมั่นใจ

สิวผดคือ

      เป็นสิวประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ ขึ้นเป็นเม็ดละเอียดยิบๆ ตามขมับ ไรผม หน้าผาก จมูกและคาง เป็นต้น ลักษณะทั่วไปจะไม่เหมือนสิวอื่นคือ ไม่มีหัว ไม่สามารถบีบได้ มักขึ้นตอนเหงื่อออกมากๆ หรือในกลุ่มคนที่เป็นรังแค สังเกตได้ว่าหากสิวผดเริ่มขึ้น จะเริ่มมีอาการคันยิบๆ เมื่อลูบไปบริเวณนั้นจะพบผื่นแดง ตุ่มเล็กๆ เป็นแถบๆ หากล้างหน้าบ่อยขึ้น มักเป็นมากขึ้นและหากรักษาไม่ถูกต้องจะเป็นมากขึ้น บริเวณที่พบได้บ่อยๆ คือ บริเวณใบหน้าโดยเฉพาะ หน้าผากและขมับ [ads]

สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผด 

     – เกิดจากเชื้อรา P.OVALE ซึ่งเป็นเชื้อราประเภทหนึ่งที่มีปฏิกริยากับผิวหนังบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ เช่น หน้าผาก คาง จมูก เป็นต้น

     – อากาศร้อนๆ ที่มากับแสงแดด จนก่อให้เกิดเหงื่อ ฝุ่นละอองปลิวมาติดลงบนใบหน้า เกิดการระคายเคืองของผิว

     – เกิดจากการแพ้ จำพวกสารประกอบในแชมพูสระผม ครีมนวดผมและสบู่ล้างหน้า

     – ใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสมกับผิวหน้า หรือเช็ดล้างทำความสะอาดออกไม่สะอาดหมดจด

     – ล้างหน้าด้วยน้ำที่ไม่สะอาด หรือใช้น้ำร้อน, น้ำเย็นเกินไป

     – พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก ทำให้เป็นสิวได้ง่าย [ads2]

แนวทางในการป้องกันและรักษาสิวผด

     1. หลีกเลี่ยงมลภาวะต่างๆ ที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคือง อย่างแสงแดด ฝุ่นละอองควัน และไม่อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อน เพราะจะทำให้เกิดเหงื่อไปอุดตันรูขุมขนได้ง่าย 

     2. ปกป้องผิว เมื่อต้องออกแดด ต้องมีการป้องกันผิวหนังจากการสัมผัสโดยตรง เช่นการสวมเสื้อผ้าป้องกันหรือทาครีมกันแดด ควรเลือกใช้กันแดดที่มีค่า SPF 30 และมีค่า PA++ เป็นอย่างน้อย

     3. เลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี, แอลกอฮอลล์ และผ่านการรับรองจากแพทย์ผิวหนัง 

     4. ก่อนใช้ครีมหรือโลชั่นใดๆ ควรมีการทดสอบอาการแพ้ ด้วยวิธีการทาเนื้อครีมของตัวผลิตภัณฑ์นั้นๆ ลงบนท้องแขนหรือหลังใบหูของคุณ หากรู้สึกร้อนๆ ที่ผิวหนัง หรือมีผื่นแดงขึ้นมาให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง และหลีกเลี่ยงที่จะใช้ผลิตภัณฑ์นั้นนั่นเอง

     5. เลือกใช้โฟมล้างหน้าประเภทไม่มีฟอง เพราะไม่มีสารทำความสะอาดที่มีประจุไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Non-ionic เมื่อนำมาใช้มีข้อดีคือ ชำระล้างออกด้วยน้ำได้ง่าย และไม่ทิ้งสารตกค้างบนผิวหน้า ที่สำคัญจะไม่มีการสะสมที่ผิวหน้าจึงไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว

     6. ลดการรบกวนผิวหน้า เช่น การนวดหน้า ขัดหน้า มาส์กหน้า เช็ดถูหน้า [ads3]

     7. ระวังไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า เพราะมือเราอาจสะสมเชื้อโรค เมื่อเราใช้มือคุ้ย แคะ แกะเกาใบหน้าบ่อยๆ ก็จะเป็นการไปกระตุ้นสิวที่มีอยู่แล้วให้ลุกลามมากยิ่งขึ้น

     8. ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ เพราะธรรมชาติอย่างหนึ่งของสิวผดก็คือ เมื่อเรายิ่งล้างหน้าบ่อยก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นการเกิดสิวผดให้รุนแรงยิ่งขึ้น ดังนั้นคุณควรล้างหน้าเฉพาะที่จำเป็น ไม่เกินวันละ 2-3 ครั้ง ไม่ใช้น้ำอุ่น, น้ำเย็นจัดในการล้างหน้า หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยสบู่ และหลังจากออกกำลังกายเสร็จก็ควรล้างหน้าทุกครั้ง เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ความมันบนใบหน้า และแบคทีเรีย

     9. ไม่เครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส อย่าเครียดมากจนเกินไป เพราะความเครียดจะทำให้ต่อมไขมันทำงานหนัก พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ไม่ควรนอนดึกมากจนเกินไป

    10. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ พยายามเสริมแร่ธาตุอย่างสังกะสี (Zinc) เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายภายในให้เย็นและชุ่มชื่น

     อยากจะลดปัญหาสิว ข้อสำคัญคือการลดการระคายเคืองบนผิวหนังให้น้อยที่สุดด้วย หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ รักษาความสะอาดอย่างเหมาะสม และอย่าลืมรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเสมอด้วยนะคะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com