บัวหิมะ..พืชหัวมากคุณค่า ช่วยขับพิษ บำรุงหัวใจ!!
advertisement
“บัวหิมะ” พืชชนิดหนึ่ง (มีชื่อภาษาจีนว่า เสวี่ยเหลียนกว่อ และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Smallanthus sonchifolius) ส่วนที่นำมารับประทานเป็นส่วนรากที่มีลักษณะคล้ายหัวมัน ในประเทศไทยไม่ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนัก จะมีการนำเข้าบัวหิมะมาจากประเทศจีนบ้าง บัวหิมะสด รูปร่างคล้ายๆ กับหัวมันเทศ เปลือกบาง ปอกเปลือกแล้วสามารถนำมารับประทานได้เลย โดยจะมีรสหวาน กรอบ ฉ่ำน้ำ เป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อมนุษย์มากกว่า 20 ชนิด และยังมีแคลอรี่ต่ำอีกด้วย และยังมีสรรพคุณเป็นพืชหัวที่มากคุณค่า ช่วยขับพิษ บำรุงหัวใจ!! น่าสนใจมากๆ เลยนะคะ ดังนั้นไม่ควรพลาดค่ะ มาดูประโยชน์ของบัวหิมะแบบเต็มๆ กันดีกว่าค่ะ
1. ช่วยในการลดน้ำหนัก
เป็นพืชที่มีแคลอรีไม่สูงมากนัก โดยผลบัวหิมะ 100 กรัม มีพลังงาน 54 กิโลแคลอรี และน้ำตาลจากธรรมชาติของบัวหิมะมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ ด้วยน้ำเชื่อมบัวหิมะช่วยให้รู้สึกอิ่มง่ายอิ่มนาน ช่วยให้ความอยากอาหารลดลง
2. ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide) น้ำตาลชนิดหนึ่งในบัวหิมะ มีคุณสมบัติในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
[ads]
3. ลดระดับน้ำตาลในเลือด
บัวหิมะมีรสชาติหวาน ซึ่งมาจากอินูลิน (Inulin) ซึ่งเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ ทั้งอินูลินเป็นสารที่ส่งผลดีต่อการทำงานของอินซูลินในร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การรับประทานบัวหิมะเป็นประจำจะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ อีกทั้งระดับความหวานของบัวหิมะยังน้อยกว่าระดับความหวานของน้ำตาลกว่าครึ่งหนึ่ง
4. บำรุงหัวใจ
ดีต่อสุขภาพหัวใจ ด้วยในบัวหิมะมีระดับโพแทสเซียมสูง โดยโพแทสเซียมมีฤทธิ์ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยผ่อนคลายระบบหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้น ลดความดันโลหิต จึงลดความเสี่ยงของโรคหัวใจทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดหัวใจของผู้ที่ป่วยได้อีกด้วย
5. ต้านมะเร็ง
บัวหิมะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ ไม่ให้ถูกอนุมูลอิสระทำลายจนเกิดการอักเสบต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งได้ ทั้งยังมีการศึกษาในปี 2011 ในวารสารทางวิชาการ Fitoterapia พบว่า บัวหิมะมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต ยับยั้งการแพร่กระจาย และการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งได้ ทำให้ความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนัง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคมะเร็งของเลือดอีกหลายชนิด
6. ลดความเสี่ยงไขมันพอกตับ
มีการศึกษาในปี 2008 พบว่า การรับประทานบัวหิมะควบคู่กับสารไซลิมาริน (Silymarin) จะส่งผลดีต่อผู้ป่วยที่มีการเผาผลาญของร่างกายผิดปกติ (จนทำให้อ้วน) โดยในการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เมื่ออาสาสมัครรับประทานบัวหิมะวันละ 2.4 กรัม และสารไซลิมาริน (Silymarin) วันละ 0.8 กรัม ติดต่อกัน 90 วัน ระดับของคอเลสเตอรอลลดลง และปริมาณไขมันสะสมในตับก็ลดลงด้วย ทำให้ความเสี่ยงภาวะไขมันพอกตับลดลงด้วย
7. ดีต่อระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย ป้องกันท้องผูก
ไฟเบอร์ในบัวหิมะช่วยสร้างเสริมระบบขับถ่ายได้ดี และมีโพรไบโอติกส์ในบัวหิมะเป็นแบคทีเรียชนิดที่ดีต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ทำให้อาการท้องผูก ท้องอืด และปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายต่างๆ ได้
[yengo]
8. บำรุงความงาม
สารอาหารและกรดอะมิโนต่างๆ ในบัวหิมะช่วยป้องกันการเกิดสิวฝ้าบนใบหน้า และเป็นอาหารที่เหมาะแก่การบำรุงสุขภาพความงามของร่างกายที่ดีด้วย
9. บำรุงกระดูก
สารอาหารแคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้าง ดูแล และบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงสมบูรณ์ ป้องกันโรคกระดูกเสื่อมก่อนวัยวันควรอีกด้วย
หากมีโอกาสแนะนำว่าให้หามารับประทานกัน ดีมากๆ เลยค่ะ รับประทานบัวหิมะแบบสดๆ รสชาติอร่อย ออกหวานเหมือนแห้วผสมมันแกว ฉ่ำน้ำเหมือนสาลี่ กรอบ ผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ที่ส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงนอกจากนั้นยังสามารถทำเป็นอาหาร โดยนำไปตุ๋นกับกระดูกหมู อย่างที่ชาวจีนนิยมกันก็ได้นะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ไข่เจียว.com