กินและใช้ กระเทียมให้เป็นยา ได้ประโยชน์เต็มๆ

          สมุนไพรและเครื่องเทศกลิ่นแรงอย่าง "กระเทียม" เป็นวัตถุดิบหนึ่งในเมนูอาหารหลายจานทั้งไทยและต่างประเทศ นอกจากประโยชน์ในเรื่องของการชูรสแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพเราด้วย แต่จะทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์ และประโยชน์ด้านใดบ้างนั้น Kaijeaw.com มีเคล็ดลับมาเปิดเผยค่ะ

          1. ลดจุกเสียดแน่นเฟ้อ 

          – ใช้หัวกระเทียม 5-7 กลีบ ปอกเปลือก นำมาตำให้ละเอียด เติมน้ำส้มสายชูลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ปรุงรสด้วยน้ำตาลหรือเกลือเล็กน้อย เพื่อให้รับประทานง่าย ใช้รับประทานหลังอาหาร

          2. ขับพยาธิต่างๆ ได้หลายชนิด 

          ได้แก่ พยาธิเข็มหมุด พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย และมีรายงานทดสอบจากอินเดียว่า กระเทียมมีสารไดอัลลิลไดซัลไฟด์ มีฤทธิ์ใช้ฆ่าพยาธิไส้เดือนได้ดี

          3. ป้องกันมะเร็ง

          ผลการป้องกันมะเร็งจากกระเทียม ทางการแพทย์สันนิษฐานว่ามาจากฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย หรือจากการยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ยังเพิ่มการซ่อมแซมสารพันธุกรรม และลดการเพิ่มจำนวนเซลล์

     – แนะให้ทานกระเทียม ในปริมาณ 2-5 มิลลิกรัมต่อวันหรืออย่างน้อยหนึ่งกลีบต่อวัน 

          4. แก้โรคบิด 

          กระเทียมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อบิดบางตัวที่มีพิษต่อลำไส้ได้ดี โดยมีสารที่สำคัญคือกาลิซิน รวมทั้งสามารถยับยั้งเชื้อบิดเทียม ซึ่งไม่รบกวนแบคทีเรียตัวอื่นที่มีประโยชน์ต่อลำไส้

          – นำหัวกระเทียม 12-15 กลีบ ปอกเปลือก บดทานดิบๆ(น้ำผึ้งหรือน้ำตาลอ้อย ช่วยกลบรสเผ็ดของกระเทียม) ทานวันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร

          5. รักษาแผลที่เน่าเปื่อยและเป็นหนอง 

          ยับยั้งเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อที่ทำให้เกิดฝีหนอง และใช้รักษาแผลสด แผลที่เป็นหนอง 

          – หัวกระเทียม 1 หัว ปอกเปลือกแล้วตำให้ละเอียด 

          – พอกบริเวณที่เป็นแผล ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จึงเอาออกแล้วทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือล้างแผล

          – หรือใช้กระเทียมที่ตำแล้วไปแช่ในน้ำอุ่น และปิดฝาทิ้งเอาไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จึงกรองเอาน้ำมาใช้ล้างแผลได้

          – กินกระเทียมสดครั้งละ 5 กรัม โดยสับหรือบดตวงได้ราว 1 ช้อนชาพูน กินพร้อมอาหารวันละ 3 เวลา

          7. รักษากลาก เกลื้อน 

          กระเทียมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา ต้นเหตุของโรคผิวหนังอย่างกลาก เกลื้อน 

          – ใช้ใบมีดขูดผิวหนังบริเวณที่เป็นกลาก เกลื้อนจนมีเลือดซึมก่อน 

          – หลังจากนั้นให้นำหัวกระเทียม 1 กลีบ ปอกเปลือก บดพอหยาบ จากนั้นนำไปทาถูบริเวณผิวหนังที่เป็นกลาก เกลื้อน วันละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้นจนหายไป 

          8. ลดการอักเสบจากโรคสะเก็ดเงิน

          กระเทียมมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ดังนั้นจึงช่วยบรรเทาอาการอักเสบจากผื่นแดงได้ดี โดยเฉพาะผื่นแดงที่เกิดจากโรคสะเก็ดเงิน 

          – บดกระเทียมกรองน้ำ ใช้ทาบริเวณที่เป็นแผล เพื่อให้สะเก็ดหลุดไป และลดผื่นแดงบนผิวหนังก็ได้ค่ะ

          อาการของหวัดคัดจมูก มีตัวช่วยอย่างกระเทียมก็สบายหายห่วง ด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับหวัด และน้ำมันในกระเทียมช่วยไล่หวัดได้เป็นอย่างดี

          – หั่นกระเทียมเป็นแว่นหรือบด แช่ในน้ำร้อนประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองเอากากออก จิบเป็นชากระเทียมอุ่น ๆ โดยเติมน้ำผึ้งหรือน้ำขิงได้

          10. ป้องกันเบาหวาน และขจัดพิษสารตะกั่ว 

          – กระเทียมกลีบใหญ่ๆ 3 กลีบ ทุบให้แตก กลืนกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ทานทุก ๆ เช้าหลังตื่นนอน

          11. ยารักษาสิว

          ด้วยฤทธิ์ของกระเทียมช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของสิวได้อย่างอยู่หมัด

          – บดกระเทียมแล้วนำมาประคบลงบนสิวเบาๆ ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

          12. แก้ปัญหาผมหลุดร่วง 

          สาวๆ ผมยาว ผมผ่านเคมีมาจนมีปัญหาผมหลุดร่วง 

          – บดกระเทียมแล้วนำมานวดศีรษะ หรือจะกรองเอาแต่น้ำผสมลงในออยล์แล้วนำมานวดศีรษะก็ได้เช่นกัน

          ข้อควรระวัง 

          – อย่ากินกระเทียมตอนท้องว่าง เพราะจะระคายเคืองต่อกระเพาะ และลำไส้ 

          – ในกรณีต้องการทานสดๆ เป็นประจำควรทานแล้วตามด้วยน้ำอุ่น 1 แก้ว น้ำอุ่นจะช่วยไม่ให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะ

          – สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ มีระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ผู้ที่มีอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมไปถึงผู้ที่ใช้ยาอื่นๆ เป็นประจำ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต้านไวรัส ไม่ควรรับประทานกระเทียมในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เป็นโทษต่อร่างกายได้

          – ทานกระเทียมเป็นยาต้องใช้กระเทียมดิบ สดและใหม่ 

          – ไม่ควรเคี้ยวกระเทียมสดๆ เพราะจะร้อน หรือไม่ควรกลืนทั้งกลีบ

          ประโยชน์ดีๆ จากกระเทียมแบบนี้พลาดไม่ได้เลยนะคะ กระเทียมที่มีอยู่ติดครัวบ้านคุณหยิบขึ้นมาทาน ปรุงในอาหารจานโปรดของคุณ เลือกใช้ให้ถูก เป็นตัวช่วยให้คุณภาพชีวิตและสุขภาพคุณดีได้ง่ายๆ ในทุกๆ วันค่ะ 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com