ปาฏิหาริย์!! ชายชาวญี่ปุ่นเก็บรูปถ่ายนี้ได้จากซากบ้าน “สึนามิ” สุดท้ายเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึง เมื่อเขาได้พบกับคนในภาพ…

         ย้อนไปเมื่อปี 2011 ประเทศญี่ปุ่นได้เจอกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เกิดสึนามิขึ้นที่เมือง Tohoku สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่ามหาศาล ซึ่งปัจจุบันก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว แต่ความเศร้าโศกเสียใจก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของครอบครัวที่ต้องสูญเสีย ภายใต้ความสูญเสียก็มีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับชายหญิงคู่หนึ่ง

        เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2011 ได้เกิดสึนามิที่เมือง Tohoku ประเทศญี่ปุ่น สร้างความเสียหายมากมาย ซากปรักหักพังของบ้านเรือน สิ่งของกระจัดกระจาย ผู้คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้มากมายหลายคน [ads]

       1 เดือนต่อมา Mr. Kawatani Kiyokazu อายุ 59 ปี อดีตหัวหน้าธุรการของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัด Osaka ผู้ชื่นชอบการถ่ายรูป ได้ลงทะเบียนร่วมเป็นอาสาสมัครในการเก็บสิ่งของต่างๆ ที่สามารถระบุตัวเจ้าของได้นำมาทำความสะอาดเพื่อคืนสู่เจ้าของ ในสถานที่เกิดภัยพิบัติครั้งนั้น เขาใช้วันหยุดประจำปีของตัวเองมุ่งหน้าไปยังเมือง Minamisanrikuchou จังหวัด Miyagi เขาใช้เวลา 3 วันเต็มในการใช้รถส่วนตัวเป็นที่หลับนอนในตอนกลางคืน เพื่อตระเวนเก็บสิ่งของต่างๆ ที่สามารถระบุเจ้าของได้เช่น รูปถ่าย นาฬิกาข้อมือ หรือใบประกาศต่างๆ เป็นต้น และหนึ่งในนั้นที่เขาได้พบคือ ภาพถ่ายชายหญิงหน้าตามีความสุข อยู่ในซากปรักหักพังของบ้านในสภาพเลอะเทอะแต่ก็ยังเห็นหน้าคนในภาพได้อย่างชัดเจน วางอยู่ข้างๆโทรศัพท์มือถือที่เลอะโคลน

       Kawatani ได้ถ่ายรูปสิ่งของเหล่านั้นพร้อมกับนึกภาวนาในใจขอให้หนุ่มสาวในรูปยังมีชีวิตอยู่แล้วเก็บมารวบรวมไว้กับสิ่งของอื่นๆ เพื่อนำไปทำความสะอาดเตรียมพร้อมส่งคืนสู่เจ้าของต่อไป หลังจากนั้นเขาก็ใช้วันหยุดของตัวเองในการเดินทางไปเป็นอาสาสมัครดังกล่าว อีกประมาณ 10 ครั้ง กับระยะเวลา 1 ปี

       จนกระทั่งเมษายน 2012 Kawatani ลาออกจากงานและย้ายไปอยู่ที่จังหวัด Miyagi อย่างถาวร เวลาผ่านไป 1 ปีครึ่ง หลังจากผ่านภัยพิบัติครั้งนั้น เขารวบรวมรูปถ่ายต่างๆ ที่เขาได้ถ่ายไว้เองจากการพบเจอในสถานที่แห่งนั้นประมาณ 50 รูปและเช่าบ้านพักของคนในละแวกนั้นจัดทำนิทรรศการแสดงรูปถ่ายของเขาเอง รูปถ่ายของคู่รักหนุ่มสาวรูปนั้นก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

        วันแรกที่จัดนิทรรศการ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับเขาว่า “คนในรูปนี้คือฉันเอง”

        หญิงสาวคนนี้คือ Kosaka Shoko อายุ 29 ปี ตอนที่เกิดเหตุบ้านของเธอพังจากสึนามิ หลังจากนั้นเธอย้ายไปทำงานที่เมืองข้างๆ และเพื่อนร่วมงานได้บอกกับเธอว่ามีรูปเธอถูกจัดแสดงอยู่ที่นี่ เธอจึงตามมาดูด้วยตัวเธอเอง

        Kawatani รู้สึกติดใจกับชายหนุ่มในรูปที่ถ่ายข้างๆ เธอ ไม่รู้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถามอย่างไรดี หลังจากลังเลอยู่สักพัก จึงเอ่ยปากถามว่า

Kawatani : แล้วชายหนุ่มข้างๆ หล่ะ?
Kosaka : แฟนค่ะ ตอนนี้ก็ยังคบกันอยู่

        เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็ขนลุก ดีใจสุดๆที่ทั้งคู่ยังปลอดภัยดี ยังมีชีวิตอยู่และยังคบกันอยู่อีกด้วย

        Haga แฟนหนุ่มอายุ 29 ปี เดินทางกลับมายังบ้านเกิดเพื่อย้ายกลับมาทำงาน ก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติเพียง 1 วันเท่านั้น วันที่เกิดภัยพิบัตินั้นแฟนหนุ่มถูกคลื่นสึนามิพัดไปพร้อมกับบ้านของตัวเอง เจ้าตัวพยายามว่ายน้ำจนสุดชีวิต และสุดท้ายโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ สมบัติทุกอย่างหายไปหมด เหลือแค่รูปถ่ายและโทรศัพท์มือถือที่เขาเจอและเก็บไว้เท่านั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นครอบครัวของ Kosaka หญิงสาวปลอดภัยทุกคน แต่ทางด้านของ Haga แฟนหนุ่มนั้น คุณปู่ของเขายังคงสูญหายจนถึงปัจจุบันนี้

        ต่อมาปี 2013 ทั้งสองคนได้แต่งงานกันตามสัญญาที่เคยให้กันไว้ Kawatani ได้รับเชิญไปงานแต่งงานของทั้งสองคนด้วย หนึ่งรูปที่ใช้ในงานแต่งก็เป็นรูปที่ Kawatani เก็บได้ ณ วันนั้น เนื่องจากเป็นรูปถ่ายก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติเพียงรูปเดียวที่ทั้งสองเหลืออยู่

        เมือง Minamisanrikuchou จังหวัด Miyagi มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 17,000 คน ผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนั้น 620 คน สูญหายอีก 212 คน (ตัวเลข ณ ปัจจุบัน เดือนมกราคม 2016) ที่ศูนย์อาสาสมัครมีรูปถ่ายที่เก็บได้ประมาณ 150,000 รูป ในจำนวนนั้นประมาณ 40,000 รูปได้กลับสู่เจ้าของดังเดิมแล้ว

        Haga ชายหนุ่มกล่าวว่าการที่ได้พบคนที่เก็บรูปของตัวเองได้หลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งนั้น รู้สึกว่าเป็นเหมือนปาฏิหาริย์และเขายังจำคำที่ Kawatani พูดตอนที่ได้เจอกันครั้งแรกได้เสมอจนกระทั่งปัจจุบันและคงจะจำตลอดไป คำพูดนั้นก็คือ “ดีใจจริงๆ ที่เธอทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่” [yengo]

        ปัจจุบันนี้ก็ผ่านมา5ปีแล้วที่ภัยพิบัติครั้งนั้นได้สร้างฝันร้ายให้กับชาวญี่ปุ่น ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานเพียงใดแต่ความเศร้าโศกก็ยังคงดังก้องในหัวของผู้คนอยู่เสมอ มีเพียงกำลังใจที่ทำให้พวกเขามีแรงต่อสู้ในวันข้างหน้าต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจากภาพจาก : marumura.com เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com