• หน้าแรก
  • อาหารเพื่อสุขภาพ
    • สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
    • สูตรเครื่องดื่ม
      • เครื่องดื่มสมุนไพร
        • เครื่องดื่มอื่นๆ
        • เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • การทำอาหาร
    • เมนูอาหาร
      • อาหารคนท้อง
      • อาหารคนป่วย
      • อาหารจานเดียว
      • อาหารต่างชาติ
      • อาหารลดน้ำหนัก
      • อาหารว่าง
      • อาหารเจ
      • อาหารเช้า
      • อาหารเด็ก
      • อาหารไทย
      • อาหารไมโครเวฟ
      • เมนูไข่
  • สุขภาพ
    • โรคและการป้องกัน
      • ยารักษาโรค
    • การดูแลสุขภาพ
      • สุขภาพผู้ชาย
      • สุขภาพผู้หญิง
      • สุขภาพวัยรุ่น
    • การดูแลสุขภาพผิว
    • การลดน้ำหนัก
    • รอบรู้เรื่องยา
    • สุขภาพกาย
      • ออกกำลังกาย
    • สุขภาพจิต
  • ท่องเที่ยว
    • ร้านอาหารแนะนำ
    • ที่พักประทับใจ
    • เที่ยวทั่วไทย
      • เที่ยวน้ำตก
      • เที่ยวภูเขา
    • เทศกาลประเพณี
    • ข้อมูลการท่องเที่ยว
  • วาไรตี้
    • คุยเรื่องบ้าน
    • สาระน่ารู้
    • คุยเรื่องเกษตร
    • ความเชื่อ
    • สัตว์น่ารักทั่วทุกมุมโลก
    • ข่าวสาร
      • ข่าวกีฬา
      • ข่าวบันเทิง
        • อันดับดารา
      • ข่าวมาแรง
      • ข่าวสารสุขภาพ
      • ข่าวทั่วไป
  • ผู้หญิง
    • ความสวยความงาม
    • ทรงผม
    • ศัลยกรรม
    • แฟชั่น
    • เซ็กซ์
    • แต่งหน้า
    • แต่งงาน
    • แฟชั่น
    • แม่และเด็ก
  • ผู้ชาย
    • ความหล่อ ดูดี
    • ทรงผม
    • Hot Girl
    • ความรัก
    • ฟุตบอล
    • รถยนต์
    • แฟชั่น
    • วัยรุ่น
      • การศึกษา
      • กิจกรรมวัยรุ่น
      • เทคโนโลยี
  • Home
  • Cooking
  • Health
  • Variety
  • Lady
  • Male
kaijeaw
  • หน้าแรก
  • อาหารเพื่อสุขภาพ
    • สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
    • สูตรเครื่องดื่ม
      • เครื่องดื่มสมุนไพร
        • เครื่องดื่มอื่นๆ
        • เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • การทำอาหาร
    • เมนูอาหาร
      • อาหารคนท้อง
      • อาหารคนป่วย
      • อาหารจานเดียว
      • อาหารต่างชาติ
      • อาหารลดน้ำหนัก
      • อาหารว่าง
      • อาหารเจ
      • อาหารเช้า
      • อาหารเด็ก
      • อาหารไทย
      • อาหารไมโครเวฟ
      • เมนูไข่
  • สุขภาพ
    • โรคและการป้องกัน
      • ยารักษาโรค
    • การดูแลสุขภาพ
      • สุขภาพผู้ชาย
      • สุขภาพผู้หญิง
      • สุขภาพวัยรุ่น
    • การดูแลสุขภาพผิว
    • การลดน้ำหนัก
    • รอบรู้เรื่องยา
    • สุขภาพกาย
      • ออกกำลังกาย
    • สุขภาพจิต
  • ท่องเที่ยว
    • ร้านอาหารแนะนำ
    • ที่พักประทับใจ
    • เที่ยวทั่วไทย
      • เที่ยวน้ำตก
      • เที่ยวภูเขา
    • เทศกาลประเพณี
    • ข้อมูลการท่องเที่ยว
  • วาไรตี้
    • คุยเรื่องบ้าน
    • สาระน่ารู้
    • คุยเรื่องเกษตร
    • ความเชื่อ
    • สัตว์น่ารักทั่วทุกมุมโลก
    • ข่าวสาร
      • ข่าวกีฬา
      • ข่าวบันเทิง
        • อันดับดารา
      • ข่าวมาแรง
      • ข่าวสารสุขภาพ
      • ข่าวทั่วไป
  • ผู้หญิง
    • ความสวยความงาม
    • ทรงผม
    • ศัลยกรรม
    • แฟชั่น
    • เซ็กซ์
    • แต่งหน้า
    • แต่งงาน
    • แฟชั่น
    • แม่และเด็ก
  • ผู้ชาย
    • ความหล่อ ดูดี
    • ทรงผม
    • Hot Girl
    • ความรัก
    • ฟุตบอล
    • รถยนต์
    • แฟชั่น
    • วัยรุ่น
      • การศึกษา
      • กิจกรรมวัยรุ่น
      • เทคโนโลยี
  1. หน้าแรก
  2. โรคและการป้องกัน

10 ข้อปฏิบัติ..ป้องกันโรคกระดูกพรุน!!

โพสเมื่อ 22/04/2016 11:46 น.
สุขภาพ

advertisement


     โดยปกติแล้วเมื่อคนเราเป็นหนุ่มสาวคนที่มีสุขภาพที่แข็งแรง ก็ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูก เพราะดูจะเป็นเรื่องไกลตัวอย่างมาก แต่โรคกระดูกพรุนนั้นเป็นสภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อคนเราแก่ตัวลง โครงสร้างที่เคยแข็งแรงของกระดูกก็ถูกทำลายและเกิดความเปลี่ยนแปลง และเมื่อเป็นโรคกระดูกพรุนก็มักจะเป็นเรื้อรังที่ถึงแม้ไม่ทำให้เสียชีวิต แต่เป็นเหตุให้คุณภาพชีวิตลดลงอย่างมากจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อกระดูกสะโพกหัก!! ซึ่งโรคกระดูกพรุนนี้เกิดขึ้นได้ ถ้าหากว่าคุณดูแลสุขภาพกระดูกได้ไม่ดีเพียงพอตั้งแต่ในวัยเยาว์ ดังนั้น ใครที่ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน ตาม Kaijeaw.com มาค่ะ มี 10 ข้อปฏิบัติ..ป้องกันโรคกระดูกพรุนมาฝากกันค่ะ


advertisement
โรคกระดูกพรุน-1

ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน
    1) ด้านอายุ ในวัยเด็กมวลกระดูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอายุ 22 – 25 ปี มวลกระดูกจะสูงสุด (Peak Bone Mass) อายุ 25 –30 ปี มวลกระดูกคงที่ และเมื่ออายุมากกว่า 30 ปี มวลกระดูกเริ่มลดลงเฉลี่ยร้อยละ 6 – 8 ทุก 10 ปี โดยเฉพาะหญิงวัยหมดประจำเดือน (อายุประมาณ 48 ปี) อาจลดลงถึงร้อยละ 5 – 10 ต่อปี
    2) ด้านเพศ เพศชายจะมีมวลกระดูกมากกว่าเพศหญิง 30 – 50% ทั้งนี้เพศหญิงเริ่มมีการสูญเสียกระดูกเมื่ออายุ 30 ปี และจะสูญเสียมากขึ้นเมื่อหมดประจำเดือนหรือถูกตัดรังไข่ ส่วนเพศชายจะเริ่มมีการสูญเสียเนื้อกระดูกเมื่ออายุ 45 – 50 ปี
    3) ด้านชนชาติ ผู้หญิงผิวขาวจะมีอุบัติการณ์ของการเกิดภาวะกระดูกพรุนมากที่สุด รองลงมากเป็นคนทางแถบภาคตะวันออก และคนผิวดำ
    4) ด้านรูปร่าง ผู้หญิงที่มีโครงกระดูกเล็ก และตัวเตี้ย มีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนได้มากกว่าผู้ที่มีโครงกระดูกใหญ่ [ads]


advertisement
กระดูกพรุน-1
พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
    1) ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนประเภทชา กาแฟ จะทำให้มีการขับแคลเซี่ยมออกทางปัสสาวะมากขึ้น สตรีที่ดื่มกาแฟมากเกิน 817 มิลลิกรัมต่อวัน หรือมากกว่า 6 ถ้วยต่อวัน จะเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกสะโพกหักที่เกี่ยวข้องกับภาวะกระดูกพรุนมากขึ้นประมาณ 3 เท่า
    2) เครื่องดื่มน้ำอัดลม มีปริมาณฟอสฟอรัสสูง จะรวมตัวกับแคลเซี่ยม ทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้แคลเซี่ยมได้
    3) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีส่วนขัดขวางการดูดซึมแคลเซี่ยมในลำไส้ และขับแคลเซี่ยมออกทางปัสสาวะมากขึ้น และยังขัดขวางการสร้างกระดูกด้วย
    4) สูบบุหรี่อย่างมาก ทำให้ร่างกายนำแคลเซี่ยมไปใช้ได้ไม่เต็มที่
    5) การไม่ออกกำลังกาย ออกกำลังกายมากเกินไป การทำงานที่มีการเคลื่อนไหวน้อยทำให้มีการสลายของกระดูกมากขึ้น


advertisement
กระดูกพรุน-2
กินอาหารอย่างไม่เพียงพอ
    1) ขาดแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส และวิตามินดี เนื่องจากทั้ง 3 ตัวเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างกระดูก
    2) การรับประทานพืช ผัก ชนิดเดียวกันเวลานานและจำนวนมาก จะขัดขวางการดูดซึมของแคลเซี่ยมในลำไส้ เช่น บลอคโคลี่ และผักคะน้า เป็นต้น โดยเฉพาะในสตรีวัยหมดประจำเดือน ยังมีผลให้ระดับฮอร์โมนออสโตรเจนลดลง เกิดการสลายกระดูกเพิ่มขึ้น
    3) การรับประทานอาหารโปรตีนสูงจำนวนมากเป็นเวลานาน จะได้สารกลูคากอน ซึ่งส่งผลให้ร่างกายขับแคลเซี่ยมออกทางปัสสาวะมากขึ้น 
    4) การกินอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเค็มจัด ซึ่งมีส่วนประกอบของโซเดียม ร่างกายจะขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ จะมีผลทำให้ร่างกายขับแคลเซี่ยมออกทางปัสสาวะมากตามไปด้วย

สาเหตุจากโรคและยา
     ยากล่อมประสาท ยาที่มีสารสตีรอยด์ ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ ยาเหล่านี้เร่งการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ดังนั้น หากจำเป็นต้องกินเป็นเวลานานควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
กรรมพันธุ์
     ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัว ป่วยด้วยโรคกระดูกพรุน จะมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนและภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนได้มากกว่าคนอื่น [yengo]


advertisement
Osteoporosis


10 ข้อปฏิบัติ..ป้องกันโรคกระดูกพรุน
    1) รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในวัยเด็ก หญิงมีครรภ์ หญิงที่กำลังให้นมบุตร ชายและหญิงวัยทอง อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซี่ยมได้แก่ นม นมพร่องมันเนย ผักใบเขียว ปลาที่กินพร้อมกระดุกได้ ถั่ว น้ำส้ม วัยทองควรจะได้รับแคลเซี่ยมอย่างน้อยวันละ 1500 มก ต่อวัน สำหรับวัยทองที่ได้รับฮอร์โมนทดแทนควรจะได้รับแคลเซี่ยมวันละ 1000 มก ต่อวัน โดยเมื่อรับประทานแคลเซี่ยมเสริมจะต้องดื่มน้ำมากๆ เพราะแคลเซี่ยมจะทำให้ท้องผูก ในวัยทองควรจะได้รับวิตามิน ดีเสริมวันละ 400 ยูนิตต่อวันเพื่อเพิ่มการดูดซึมของแคลเซี่ยมด้วย
    2. ออกกำลังกายเป็นประจำ( weight-bearing and muscle-strengthening exercise ) เช่น การเดิน การวิ่ง เต้นแอโรบิก กระโดดเชือก รำมวยจีน เต้นรำ เป็นต้น ร่วมกับการยกน้ำหนัก กิจกรรมเหล่านี้ควรทำเป็นประจำให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อ
    3. รับแสงแดด ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดี ควรจะออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าหรือยามเย็น วันละ 10-15 นาที อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะแดดในช่วงเช้าก็จะได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอแล้ว กระดูกของคุณที่กำลังจะเจริญเติบโตจะแข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้าได้รับวิตามินดีที่เหมาะสม ดังนั้นช่วงเช้าก่อนเวลา 09.00 น. จะเป็นเวลาดี แต่หลังจากนี้อาจเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่รังสีที่อันตรายจากแสงแดด 
    4. รักษาน้ำหนักตัวอย่าให้ต่ำกว่าเกณฑ์ ดัชนีมวลการคำนวณจากน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรที่ยกกำลังสอง เป็นค่าที่บ่งบอกถึงรูปร่างว่าผอม สมส่วน ท้วม หรืออ้วนเกินไปได้คร่าวๆ โดยพบว่าคนที่มีดัชนีมวลกายต่ำกว่า 20 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ปกติหรือผอม จะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุนมากขึ้น 
    5. รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้กระดูกเสื่อมได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือ น้ำหนักตัว เพราะเป็นตัวแปรสำคัญในการเสื่อมของข้อกระดูก หากน้ำหนักตัวมาก ข้อกระดูกย่อมต้องรับน้ำหนักตัวเอาไว้มากเท่านั้น ทำให้เกิดความผิดปกติ และเสื่อมได้อย่างรวดเร็ว 
    6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุน เช่น
        – ไม่ดื่มน้ำอัดลมปริมาณมาก เพราะกรดฟอสฟอริกในน้ำอัดลมทำให้เกิดการสลายแคลเซียมออกจากกระดูกมากขึ้น
        – หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ในปริมาณมาก เพราะแอลกอฮอล์จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของลำไส้เล็ก 
        – งดการสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่กระตุ้นให้เกิดการสลายแคลเซียมออกจากกระดูกมากขึ้น
    7. ตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจกรองโรคกระดูกพรุน ในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกพรุนหรือกระดูกหัก
    8. หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเพราะจะทำให้เกิดกระดูกพรุน ยาบางชนิดหากรับประทานต่อเนื่องจะทำให้กระดูกจาง เช่น steroid phenyltoin [dilantin} barbiturate ,antacid ,thyroid hormone
    9. ไม่กินอาหารประเภทโปรตีนหรือเนื้อสัตว์มากเกินไป เพราะการกินโปรตีนมากเกินไปจะกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากผิดปกติ
    10. หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเพราะจะทำให้เกิดกระดูกพรุน การลดน้ำหนักอย่างหักโหมนอกจากจะทำให้ร่างกายเสี่ยงที่ขาดสารอาหาร และทำให้เกิดกระดูกพรุนได้ ดังควรลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติและไม่หักโหมจนเกินไป

     เพราะโรคข้อกระดูกเสื่อมนั้น หากว่าเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงประคับประคองอาการไปเท่านั้น การป้องกันและการดูแลตนเองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อโรค ดูแลสุขภาพกระดูกให้คงสภาพดีอยู่กับเราไปได้นานๆ เริ่มตั้งแต่วันนี้นะค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com

ป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกพรุน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ :

หมอขอแนะ โรงเรียนเลิกบังคับเด็กใส่รองเท้านักเรียน ฟังเหตุผลแล้วผลเสียเพียบ
สุขภาพ
เมื่อเอาสิวไปตรวจเชื้อ สิ่งที่เห็นมันสยองมาก ใครเป็นสิวอักเสบบ่อยๆอย่าชะล่าใจ
สิว ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญใจ ยิ่งถ้าขึ้นมาตามใบหน้าก็จะทำให้ดูไม่น่าดู ซึ่งสิวก็ถือว่าเรื่องที่ไม่ควรปล่อยไว้และทำก...
สุขภาพ
หนุ่มเปลี่ยนตัวเองเพื่อภรรยา ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ามากที่ยอมเปลี่ยน
ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งคลิปที่อยากจะขอแชร์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน ที่อยากลดน้ำหนักและเปลี่ยนตัวเอง โดยบัญชีผู้ใ...
สุขภาพ
นี่มันตัวตึง เด็กนักเรียนเบ่งกล้ามโชว์ ยกแขนทีบอกเลยไม่ธรรมดา
การออกกำลังกายถือว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มความแข็งแรง และยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลตัวเองอีกหนึ่งอย่างด้วยเช่นกัน โดยล...
สุขภาพ
คุณหมอพูดเอง กินชาบูยังไงไม่ให้พุงป่องพร้อมเปิดพุงโชว์ ฟังจบสบายใจขึ้นเยอะ
  เชื่อเลยว่าหลายคนคงหนักใจเรื่องการคุมน้ำหนัก เพราะหลังจากที่กินอิ่มมาใหม่ๆมักจะมีพุง ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ โดยล่าสุดบัญชีผ...
สุขภาพ
ต้องรู้ 4 ผักที่ไม่ควรกินดิบ ส่งผลต่อสุขภาพ อันตรายถึงชีวิต
ผักถือว่าเป็น อาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก ฉะนั้นเราควรเลือกทานผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยล่าสุดบัญชีผู้ใช้ T...
สุขภาพ
หมอแชร์ทริคง่ายๆ วิธีล้างจมูกแบบคนที่กลัวการล้างจมูกต้องลอง
ช่วงนี้อากาศบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งฝุ่นและมลภาวะทำให้หลายๆ คนไม่สบายหรือเป็นหวัดได้ง่ายๆ โดยล่าสุดบัญชีผู้ใช้ Tikto...
สุขภาพ
หมอสะท้อนคำพูด กินไปเถอะ ยังไงก็ตายอยู่ดี จริงๆมันมีอะไรมากกว่านั้น
 กลายเป็นอีกหนึ่งมีมที่ถูกแชร์ออกไปอย่างมากมาย สำหรับคำพูดของสาวรายหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่า “กินไปเถอะค่ะ ยังไงก็ตายอยู่ดี” โด...
สุขภาพ
แค่เอาลิ้นดุนเพดานปากก็ทำให้ดูดีได้ เวลาถ่ายรูปเหนียงหาย กรอบหน้าชัด
     สำหรับคนที่อยากจะปรับบุคลิกของตัวเองให้ดูดีขึ้น เวลาถ่ายรูปแล้วหน้าอ้วน หรือมองเห็นเหนียงวันนี้เรามีวิธีมาฝาก เมื่อบัญช...
สุขภาพ
สาวอายุ 22 ดีใจ กินของหวานทุกวันไม่อ้วนแถมน้ำหนักลด แต่ตอนนี้เสียใจมาก
     สำหรับคนที่ชอบกินของหวานหรือน้ำหวานเป็นประจำอยู่บ่อยๆ ก็คงจะต้องระวังและควบคุมน้ำหนัก และต้องระวังเรื่องสุขภาพด้วย เมื...
สุขภาพ
ดูทั้งหมด

ข่าวสารล่าสุด

เอี้อยค้าบ หนุ่มขายลอตเตอรี่เทสดี ที่สาวๆเห็นแล้วอยากเหมาแผง

เกิดมาแกร่ง หนุ่มแบกตู้เย็นนั่งซ้อนมอไซค์ ท่านกลางความทึ่ง พี่ยกไหวได้ไง

เจนเย่ เผยลิปที่ทาในซีรีส์สงครามส่งด่วน หลังสาวๆแห่ถามพิกัดความสวย

เมื่อไปทานซูชิที่ฟิลิปปินส์ หน้าแองกรี้เบิร์ดไทยต้องยอมถอย

เบื้องหลังเด็กนาฏศิลป์ กว่าจะมือไม้อ่อนช้อย น้ำตาไหลก็ต้องทน

ข่าวเด่นประจำสัปดาห์

หมวดหมู่

  • Featured
  • การทำอาหาร
  • ท่องเที่ยว
  • ธ สถิตในดวงใจ
  • ผู้ชาย
  • ผู้หญิง
  • วัยรุ่น
  • วาไรตี้
  • สุขภาพ
  • อาหารเพื่อสุขภาพ

แท็กยอดนิยม

  • ครู
  • บ้าน
  • รถ
  • ลูก
  • สร้างบ้าน
  • ห้องน้ำ
  • อาหาร
  • ฮา
  • เงิน
  • แฟน

ติดต่อไข่เจียว

  • ติดต่อเรา
  • แจ้งลบ
Copyright © 2015 kaijeaw.com All rights reserved.