ผักแขยง ผักพื้นบ้านคุณค่าเต็มเปี่ยม!!
advertisement
"หอมดอกผักกะแยง ยามฟ้าแดงค่ำลงมา แอ๊บๆ เขียดจะนาร้องยามฟ้าฮ้อนหวนๆ เขียดโม้เขียดขาคำ เหมือนหมอลำพากันม่วนเมฆดำลอยปั่นป่วน ฝนตกมาสู่อีสาน"
สวัสดีค่ะ วันนี้ ไข่เจียว ไม่ได้แค่มาร้องเพลงให้ฟังนะคะ แต่ ไข่เจียว มีสาระความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรพื้นบ้านมาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังค่ะ ซึ่งวันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักผักแขยง (กะแยง,ขะแยง) เริ่มคุ้นชื่อกันบ้างไหมค่ะ เชื่อว่าบางคนที่เป็นคนอีสาน เมื่อพูดถึง “ผักแขยง” ถ้าไปอยู่ไกลบ้าน จะคิดถึงบ้านกันขึ้นมาทันทีเลยละคะ เพราะแขยงจะพบมาในเขตผืนท้องทุ่งนาในภาคอีสาน แต่ถ้าคนไหนไม่รู้จักไม่เป็นไรค่ะ ไข่เจียว จะพาไปดูหน้าตา พร้อมสรรพคุณของผักแขยงพร้อมกันค่ะ
advertisement
ผักแขยง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Limnophilageoffrayi หรือ Limnophila aromatic
ชื่อวงศ์: Scorphulariaceaeหรือ Plantaginaceae
ชื่ออื่นๆ : ผักกะแยง (อุดรธานี), ผักพา (ภาคเหนือ),กะออม กะแยง (ตะวันออกเฉียงเหนือ), กะแยงแดง (อุบลราชธานี), ขะแยง (อุบลราชธานี,มุกดาหาร), มะอม ปะกามะออม (เขมร)
[ads]
advertisement
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ผักแขยง เป็นไม้ล้มลุก อายุปีเดียว ขนาดเล็ก ประมาณ 30-40 เซนติเมตร ลำต้นสีเขียวกลวงเห็นชัดเจน ลำต้นทั้งต้นจะมีกลิ่นหอมหรือกลิ่นฉุนรุนแรง ใบ เป็นใบเดี่ยวขนาดเล็กออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน อาจมี 3 ใบ ออกอยู่รอบ ๆ ข้อ รูปใบรีหรือรูปขอบขนานหรือรูปหอก ใบยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 1-2 เซนติเมตร ไม่มีก้านใบ ฐานใบจะหุ้มลำต้นเอาไว้ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ด้านบนของใบมีต่อมเล็ก ๆ มากมาย ดอก ดอกเป็นดอกเดี่ยวออกตรงซอกใบหรือออกเป็นช่อ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวมีขน กลีบดอกสีแดง สีชมพูอ่อน หรือสีม่วง
การขยายพันธุ์ : ใช้เมล็ด
บริเวณที่พบ : พบขึ้นเองตามคันนา นาข้าว ตามบริเวณที่ชื้นแฉะและริมคูน้ำ
advertisement
ส่วนที่ใช้และสรรพคุณ
ทั้งต้น : เป็นยาขับน้ำนม ขับลม และเป็นยาระบายท้อง
ต้น : น้ำคั้นจากต้นใช้แก้ไข้(นำต้นสด 15-30 กรัม มาต้มน้ำกิน) แก้คัน ฝี และกลาก แก้อาการบวม เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้พิษงู
ต้นสด : ให้นำต้นสดประมาณ 15 กรัม ตำให้ละเอียด ผสมกับต้นฟ้าทะลายโจรสด 30 กรัม นำไปผสมกับน้ำส้มปริมาณพอควร คั้นแล้วทานน้ำส่วนกากพอกรอบๆแผล อย่าพอกบนแผล
ทั้งต้นแห้ง : ที่เก็บไว้นาน 1 ปี ต้มน้ำดื่ม แก้พิษเบื่อเมา
advertisement
สรรพคุณทางสมุนไพร
ตำรายาแผนไทย : น้ำคั้นจากต้นสดดื่มเป็นยาแก้ไข้ แก้คัน แก้กลาก และลดอาการปวดบวมของฝีได้ และยังเป็นยาแก้บวม หรือเป็นยาระบาย
ตำราพื้นบ้าน :นำทั้งต้นของ ผักแขยง รวมทั้งรากจำนวนตามต้องการล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาเฉพาะน้ำกิน เป็นยาแก้ไข้ในช่วงฤดูหนาว หรือที่นิยมเรียกกันว่า ไข้หัวลม ได้ดี
ต้นสดๆ ประมาณ 15 กรัม ตำให้ละเอียดผสมกับต้นฟ้าทะลายโจรสดขนาด 30 กรัม แล้วเอาไปผสมกับน้ำส้มปริมาณพอควร คั้นเอาน้ำรับประทาน ส่วนกากนั้นเอาพอกรอบๆ แผล แต่อย่าพอกบนแผล แก้พิษงูที่ไม่มีพิษร้ายแรง
ต้นของผักแขยงยังใช้กินเป็นยาขับน้ำนมในสตรี ขับลม และเป็นยาระบายท้องได้ดีด้วย นำต้นสดประมาณ 15-30 กรัมมาต้มกับน้ำดื่มแก้ไข้ ใช้ต้นสดต้มกับน้ำหรือคั้นเอาน้ำทาแก้คัน กลาก ฝี
[ads]
advertisement
ประโยชน์ทางอาหาร
ผักแขยงเป็นเป็นวัชพืชในนาข้าว ชอบขึ้นในที่ที่มีน้ำขังเล็กน้อยทั้งต้นมีกลิ่นหอมฉุน มีรสเผ็ดร้อนผักแขยงอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกาย สามารถรับประทานได้ทั้งลำต้นชาวอีสานนิยมนำยอดอ่อนและใบอ่อนมารับประทานคู่กับน้ำพริก ส้มตำ ลาบ ก้อย ซุปหน่อไม้และนำมาปรุงรสอาหาร ใส่อาหารเช่น แกงหน่อไม้ ต้มส้ม ต้มกบ ต้มปลา แกงอ่อมต่างๆ ใบผักแขยงมีกลิ่นหอม เมื่อนำมาใส่อาหารจะช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ และทำให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
advertisement
ข้อควรระวัง
-หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทาน ชาวอีสานเชื่อว่าหญิงมีครรภ์ รับประทานผักแขยงแล้วจะเกิดอาการผิดสำแดง
-มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าผักแขยงมีสารแคลเซียมออกซาเลต (oxalate) ในปริมาณสูง โดยสารชนิดนี้จะไปสะสมในอวัยวะต่างๆ เช่น ไต กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดนิ่วในอวัยวะต่างๆ ได้ จึงควรระมัดระวังในการรับประทานในปริมาณมากและเป็นประจำ แต่ตามภูมิปัญญาอีสานก็มีวิธีแก้ไขกันอยู่บ้าง คือการนำไปประกอบอาหารที่มีรสเปรี้ยว เพราะสารที่ให้รสเปรี้ยวนี้จะสามารถทำให้ผลิตออกซาเลตละลายได้
ว้าว.. “ผักแขยง” นอกจากจะนำมาปรุงอาหารให้อร่อยแล้ว ยังเป็นสารพัดยาดีใกล้ตัวเราอีกด้วยค่ะ อย่างนี้ เห็นที ไข่เจียว ต้องรีบหามาปลูกไว้ที่บ้านแล้วละคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com
อ้างอิงข้อมูลจาก/ References:
ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก: phargarden.com
นิตยสารทางอีศาน ออนไลน์ เข้าถึงได้จาก e-shann.com
เวปไซต์เกษตรพอเพียง (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก kasetporpeang.com
ชมรมล้างพิษพิชิตโรค(ออนไลน์ )เข้าถึงได้จาก facebook.com/DetoxificationClub