ผู้ชายต้องอ่าน!! หากพ่อแม่ไม่มีเงินมาก จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายสินสอด คอมเม้นจากพันทิป หาจากไหนไปดูกัน
advertisement
ในเรื่องของการเเต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในช่วงชีวิตครั้งหนึ่ง ที่คู่รักจะได้มาใช้ชีวิตด้วยกัน ก่อนที่จะถึงวันสำคัญวันนั้นต้องผ่านอะไรๆ หลายๆ อย่างมาด้วยกัน ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข ตามประเพณีของไทยเเล้ว ฝ่ายชายต้องมาขอฝ่ายหญิงจากพ่อเเม่ คุยกันเเล้วตกลงสินสอด อย่างสมาชิกพันทิป khana ได้ตั้งกระทู้หนึ่งเกี่ยวกับค่าสินสอด หากพ่อแม่ไม่มีเงินมาก จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายสินสอดหรือครับ จากกระทู้นี้สมาชิกพันทิปคนอื่นๆ ได้มาเเสดงความคิดเห็นกันอย่างมามาย ไปดูกันเลยครับ จะมีทางออกอย่างไรกันบ้าง
advertisement
– –
advertisement
– –
advertisement
อย่าพึ่งต่อว่าผมเลยนะครับ มันมาจากเรื่องจริงของผม แต่มันยาวและไร้สาระเลยไม่กล้าเล่าอ่ะครับ
สมมุติทำงานหาเลี้ยงชีพเอง พ่อแม่ไม่มีเงินถุงถัง ไม่มีกิจการ ไม่มีบ้านและที่ดินของตัวเอง
คนทั่วๆไปเรียนจบตอนอายุ 23-27 แต่งงานตอนอายุ 30-35 ปี
ก็เท่ากับมีเวลาทำงาน 3-12 ปี
สินสอดที่เห็นกันแบบปรกติ 1-5 ล้าน
ทดลองคำนวณ ทำงาน 7 ปี ให้ได้สินสอด 1 ล้านละกัน (น้อยสุดๆไปเลย)
ต้องเก็บเงิน ปีละ 1.4 แสนบาท
หรือเดือนละ 1.2 หมื่นบาท
ดูเหมือนไม่เยอะนะ แต่หากเงินเดือนมนุษย์ทั่วไปอยู่ที่ 2-5 หมื่น (ทั่วๆไปนะครับ ไม่นับคนเงินเดือนเยอะกว่านี้ซึ่งอาจมีจำนวนไม่มาก) หักเงินให้บิดามารดา หักค่าใช้จ่ายส่วนตัว หักค่ากินค่าอยู่ ค่าเดินทาง หักกองทุน RMF LTF ค่าผ่อนรถ ค่าซื้อคอนโด-บ้าน
การเหลือเงินเก็บเดือนละ 1.2 หมื่นนี่ ไม่ง่ายเลยนะครับ
ยิ่งใครผ่อนบ้านและเป็นประเภท มีเงินเท่าไหร่ "โปะให้หมด" แทบไม่เหลือกระแสเงินสดในมือเลยครับ
เลยอยากทราบว่า ยุคนี้ ที่บ้านหลังนึงผ่อนกันยาว 40 ปี (ธอส)
หากพ่อแม่ไม่มีเงินมาก ยังไม่ปลดหนี้บ้าน จะหาเงินมาจ่ายค่าสินสอดยังไงครับ ? ต้องถึงขั้นกู้เงินมาจ่ายสินสอดมั้ย ?
ปล นี่ผมยังไม่ได้บ่นเรื่องบ้านสมัยนี้ ทำไมมันแพงจัง
หากไม่มีเงินเก่าเก็บ ไม่มีที่ดิน พ่อแม่ไม่มีเงินมาก พวกเราที่เป็น office man ธรรมดาๆ จะต้องทำงานกันกี่ปีจะได้บ้านหลังนึงเนี่ย ?[ads]
จากเนื้อหาในกระทู้นี้มีสมาชิกพันทิปเข้ามาเเสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย
advertisement
มันอยู่ที่ข้อตกลงระหว่าง 2 ฝ่ายครับ อย่างฝ่ายหญิงมีฐานะดี หรือพูดง่ายๆรวยกว่า และทางพ่อแม่เขาไม่ซีเรียสเรื่องเงินที่จะได้จากฝ่ายชายที่จะเอามาให้ลูกเขา เขาก็เอาเงินของฝ่ายเขานั่นแหละมาใช้เป็นสินสอดของฝ่ายชาย หรือเอาเงินทั้งสองฝ่ายมารวมกันใช้เป็นสินสอดประมาณว่าตอนงานพิธีก็บอกสินสอดเท่านั้นเท่านี้นะ ละก็แบกเข้าห้องกันไป ให้ดูดีนิดนึง บลาๆ พอจบงานก็คืนส่วนใครส่วนมันครับ
น้องบางคนที่รู้จัก (ญ.) 33-34 แล้วยังไม่ได้แต่งเลย ทั้งๆ ที่คบกับแฟนมาจะเป็นสิบปี เพราะติดล็อคเรื่องสินสอดนี่แหละ.. คุยๆ กันน้องเค้าก็ปลงๆ แล้วล่ะ ถ้า 37+ แล้วยังไม่ได้แต่งคงไม่แต่งแล้ว อยู่เป็นแฟนกันต่อไป
advertisement
มันต้องตกลงกันนะระหว่างคนสองคน ถ้าเรียกแพงแต่ไม่มีแล้วต้องลำบากกู้หนี้ ยืมสินมันก็จะลำบากทีหลังนะค่ะ
อยู่ๆ กันไปก่อน 5 ปี 10 ปี เดี๋ยวค่าสินสอดก็ลดลงฮวบฮาบเองแหละครับ
advertisement
ค่าสินสอด /ค่าจัดงาน เป็นหน้าที่ของคู่รักทั้งสองหรือ เจ้าบ่าวนะที่ต้องทำงาน หามา สร้างเนื้อสร้างตัว จนแน่ใจว่า มีเงินพร้อมแต่งแบบไม่เดือดร้อน ในตอนหลัง ต้องมีเงินเหลือหลังแต่งอีก ค่าสินสอดไม่ใช่พ่อแม่ หาให้นะ
ถ้าแบบนี้ไม่พร้อมอย่าแต่งเลย คนสมัยก่อนเรียกสินสอด เพื่อเป็นหลักประกันว่าดูแล กันไปตลอดรอดฝั่ง ต้องมีความพร้อม มีครอบครัว ลูกที่จะเกิดมา ต้องเลี้ยงดูอีก ไม่ได้จบแค่สินสอดนะ
advertisement
ถ้าฐานะยังไม่มั่นคงจะแต่งไปทำไมเอาตัวเองยังไม่ค่อยจะรอด ริพาคนอื่นมาลำบากแล้วถ้ามีลูก มิแย่กับแย่เลยหรือจะรับผิดชอบไหวหรือ อย่าสักแต่ว่าจะแต่งนึกถึงความรับผิดชอบที่ตามมายอย่าคิดหวังว่าคนอื่นจะมาช่วยเหมือนโยนภาระให้คนอื่น จะมีใครต้องเดือดร้อนเพราะเราไหม ถ้าคิดจะแต่งต้องสร้างเนื้อสร้างตัว ถ้าทำไม่ได้อยู่คนเดียวปลอดภัยกว่า
ถ้าถึงขั้นต้องไปกู้ยืม หรือขอพ่อแม่มาเป็นค่าสินสอด ขอไม่แต่งดีกว่า เรื่องสินสอดผมยังโอเคถ้าจะมีเรียกตามประเพณีบ้าง แต่ถ้าถึงขั้นเรียกจนผมต้องเอาเงินเก็บทั้งหมดไปให้ก็คงไม่ไหว ชีวิตเริ่มจากติดลบ ถ้าจะให้กลับไปเหลือ 0 ใหม่ก็ขอบาย ความจนมันน่ากลัวกว่าความเหงา 55
advertisement
นึกว่าการแต่งงานคือการที่ คนสองคนที่รักกัน ตัดสินใจว่าจะมาอยู่ร่วมกัน สร้างครอบครัว และดูแลซึ่งกันและกัน
ตัวผมแต่งมาหลายสิบปีแล้ว สินสอดคือศูนย์ เพราะพ่อตาแม่ยายคืนกลับมาทั้งหมด
เป็นชายอินเดีย ไม่ต้องกังวลเรื่องสินสอด[ads]
ประเพณี ความเชื่อ ยุคนี้มันเริ่มเปลี่ยนไปหมดแล้ว คนเท่ากันมากขึ้น
พ่อแม่เกี่ยวอะไรคะ อยากแต่งงานก็เก็บเงินค่าสินสอดเองซิค่ะ ตอนที่เราแต่ง สามีก็เก็บเองทุกบาท ไม่รบกวนที่บ้านเลย
advertisement
ผมมองว่าการที่ต้องใช้เงินจากพ่อแม่มาเป็นค่าสินสอด ไม่ว่าสินสอดนั้นจะมากหรือน้อย เป็นสิ่งที่บอกถึงความห่วยของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงนะ
พ่อแม่ไม่มีให้ งั้นก็ต้องหาเองสิครับ ถ้าหาเองไม่ได้ก็ไม่ต้องแต่ง สมัยนี้หลายคู่ก็อยู่กันโดยไม่แต่งงาน บางคู่แต่งงานไม่เอาสินสอด ถ้าคุณมีปัญหากับการหาค่าสินสอดก็ควรบอกกับคนที่จะมาเป็นแฟนไว้ล่วงหน้าเลยว่า แต่งกับเราต้องไม่เอาสินสอด ถ้าผู้หญิงเขารับได้คุณก็สบายไป (ไม่มีสินสอดเงินแต่ง แต่ก็ควรมีปัญญาเลี้ยงดูลูกสาวเขาให้ดีด้วยล่ะ)
สินสอดมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับการแต่งงานเลยครับ หาคนใหม่ บางคนแถมบ้าน แถมรถ สินสอดไม่เอาก็ไม่
ผมแต่งสินสอด เจ็ดหมื่นเอง
มีสมาชิกพันทิปมาเเสดงความคิดเห็นเเละให้คำเเนะนำอย่างมากมาย ต่างคนก็ต่างมุมมองมีเเนวคิดที่ไม่เหมือนกัน อ่านเเล้วก็ได้มุมมองใหม่ๆ คนที่กำลังคิดที่จะเเต่งงานก็สู้งาน เก็บเงิน เพื่อคนที่คุณรักจะได้สร้างครอบครัวด้วยกันต่อไป เป็นกำลังใจให้กับหนุ่มๆ ทุกคนที่กำลังวางเเผนจะเเต่งงานนะครับ
เรียบเรียงโดย : Kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกพันทิป khana