พริกหวาน..ประโยชน์ดีดีที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน!!

    “พริกหวาน” พริก (ผัก) ชนิดหนึ่ง นิยมนำผลมารับประทาน ซึ่งทานได้ทั้งแบบสดๆ และปรุงสุกในอาหารเมนูต่างๆ มีลักษณะรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมถึงหกเหลี่ยม กลมยาว ขนาดใหญ่ พริกหวานโดยปกติแล้วจะมีสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ปัจจุบันมีสายพันธุ์ที่ปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมาใหม่ อาจจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้มหรือม่วง อย่างที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป และสีของผลพริกหยวกที่แตกต่างกันนั้นก็ให้ประโยชน์ของสารอาหารแตกต่างกันด้วย ใครที่ยังไม่เคยรู้ว่าพริกหวานมีประโยชน์อย่างไรบ้างนั้น ตาม ไข่เจียว.com มาเลยค่ะ มารู้ประโยชน์ดีดีของพริกหวานกัน

    1) มีสารแคบไซซิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ ปกป้องให้เซลล์แข็งแรง ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจกและโรคมะเร็ง และนอกจากนี้พริกหวานยังมี ลูทิโอลิน (luteolin) ซึ่งเป็นสารต้านฟรีแรดิคัล มีคุณสมบัติต้านสารก่อมะเร็ง และต้านการอักเสบ 
    2) มีเบตาแคโรทีนสูง ในพริกหวานสีแดงมีปริมาณเบต้าแคโรทีนสูงสุด รองลงมาคือพริกหวานสีเหลือง (แต่ไม่พบในพริกหวานสีเขียว) เป็นสารอาหารที่ดีต่อสายตา บำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็น ป้องกันโรคทางสายตา อย่างเช่น ต้อชนิดต่างๆ
    3) ช่วยลดคอเลสเตอรอล ด้วยรายงานของ the British Journal of Nutrition ระบุว่าสารต้านฟรีแรดิคัล ชื่อ แคปแซนทิน (capsanthin) ในพริกหวาน ช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีคือ เฮชดีแอล (HDL Cholesterol) ซึ่งทำหน้าที่พาคอเลสเตอรอลร้าย คือ แอลดีแอล ( LDL Cholesterol) ไปจำกัดที่ตับอีกด้วย
    4) สามารถลดความดันโลหิตได้ เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว และช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ดี
    5) มีวิตามินบี 1 (ไธอะมิน) อันเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายทำงานอย่างปกติ โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อเยื่อต่างๆ ป้องกันอาการเหน็บชา
    6) วิตามินบี 2 มีส่วนร่วมในการเผาผลาญ คาร์โบไฮเดรต์ ไขมัน โปรตีน และวิตามินอื่นๆ และนอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมช่วยในการสร้างฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตอีกด้วย
    7) เหล็ก และโพแทสเซียม เป็นสิ่งสำคัญช่วยในการสร้างเลือดและระบบหมุนเวียน มีส่วนช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
    8) มีวิตามินซีสูง นอกจากจะช่วยดูแลสุขภาพ ไม่ให้ป่วยเป็นไข้หวัดบ่อยๆ แล้ว ยังดีต่อผิวพรรณ ช่วยให้ดูนุ่มชุ่มชื้นดูอ่อนกว่าวัย ผิวกระจ่างใสอย่างธรรมชาติ และช่วยให้ผิวแข็งแรง ป้องกันอันตรายจากแสงแดด มีการวิเคราะห์พบปริมาณวิตามินซีในพริกหวานสีเหลืองมีวิตามินซีสูงที่สุด รองลงมาคือพริกหวานสีแดง และพริกหวานสีเขียว ตามลำดับ  [ads]
9) สารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันตามสีของพริกหวาน
     – พริกหวานแดง เกิดจากเม็ดสี แคโรทีนอยด์ เป็นสารพฤกษเคมีที่ทรงพลัง มีคุณสมบัติเป็นทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านมะเร็งที่ยอดเยี่ยม
     – พริกหวานเขียว ประกอบด้วยคลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) นี้ เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็ง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย
     – พริกหวานเหลือง/ส้ม เกิดจากเม็ดสี แคโรทีนอยด์ เช่นเดียวกับพริกหวานแดง 
     – พริกหวานม่วง มาจากสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำลายสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ชะลอความเสื่อมถอย ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางามอีกด้วย [ads]

นอกจากคุณค่าสราอาหารต่างๆ ดังกล่าวแล้วนั้น ยังมีสรรพคุณเป็นยาได้ดังนี้ค่ะ
     สรรพคุณของพริกหวาน ช่วยกระตุ้นทางการทำงานของกระเพาะอาหารทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยเจริญอาหารบำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้อาเจียน แก้หิด กลากเกลื้อน

     แม้ว่าพริกหวานจะได้ชื่อว่าพริก แต่มีรสชาติหวานและไม่เผ็ด ทานได้ทุกเพศทุกวัยนะคะ แนะนำว่าควรทานสดๆ จะดีที่สุด คงคุณค่าของสารอาหารไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะวิตามินซี คุณสามารถนำพริกหวานใส่ในเมนูสลัดจานโปรด จะทานคู่กับอาหารปิ้งย่างก็เข้ากันดี หรือจะหั่นบางๆ ใส่ในอาหาร รับประทานทุกวัน ..ได้ประโยชน์ทุกวันนะคะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ไข่เจียว.com